‘แน่ใจได้อย่างไร ว่าตอนนี้ คุณกำลัง ‘ลดไขมัน’ ไม่ใช่ ‘ผลาญกล้ามเนื้อ’?’
เมื่อพูดกันถึงเรื่อง ‘การออกกำลังกาย’ แล้วนั้น แน่นอนว่า เป้าหมายของการมีสุขภาพดี และมีรูปร่างที่สมส่วน คือปลายทางที่หลายคนต่างปรารถนา กระนั้นแล้ว หลายครั้งมักจะมีคำถามสำหรับคนที่ออกกำลังกายมาสักระยะหนึ่งที่ว่า ออกกำลังกายได้ถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่ หรือถ้าให้เจาะจงลงไปเฉพาะส่วน ก็คือ จะรู้ได้อย่างไร ว่าร่างกายในตอนนี้ กำลังเผาผลาญไขมัน หรือดึงเอา กล้ามเนื้อ มาใช้?
เราต้องมาทำความเข้าใจในเบื้องต้นกันก่อนว่า ทั้งไขมัน และกล้ามเนื้อ ต่างก็มี ‘น้ำหนัก’ ที่ไม่ต่างกัน แต่คุณสมบัติ การใช้งาน และผลลัพธ์ที่เห็นจากตาภายนอก แตกต่างกันอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า น้ำหนักของเราในขณะนี้ เป็นน้ำหนักของกล้ามเนื้อ หรือไขมัน สามารถทำได้โดยอาศัยวิธีการดังต่อไปนี้เป็นเกณฑ์ประกอบ
-ออกกำลังกายได้มากขึ้นหรือไม่
สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายมาเป็นเวลาระยะหนึ่ง จะเข้าใจได้ว่า การออกกำลังกายมีอยู่สองประเภทหลักๆ นั่นคือ การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน หรือ Weight Training และการออกกำลังกายเพื่อฝึกฝนกล้ามเนื้อหัวใจ หรือ Cardio ซึ่งทั้งสองแบบของการออกกำลังกายนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจขาดหรือละเลยอย่างใดอย่างหนึ่งไป
นั่นเพราะการออกกำลังกายแบบแรงต้าน จะเป็นการฝึกฝนกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรง และการออกกำลังกายแบบฝึกฝนหัวใจ จะช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดีในระดับการเต้นหัวใจที่เหมาะสม คนที่มีกล้ามเนื้ออยู่มาก จะสามารถฝึกฝนทั้งสองรูปแบบได้อย่างเหมาะสม ในจำนวนเซ็ท และน้ำหนักที่มากขึ้น เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ร่างกายมีกล้ามเนื้อที่มากขึ้น พร้อมรับกับการฝึกฝนในรูปแบบที่สูงขึ้นเป็นลำดับถัดไป
-การรับประทานอาหารเหมาะสมหรือไม่
การเผาผลาญในร่างกายมีรูปแบบการทำงานที่สวนทางกับความเชื่อโดยพื้นฐานของมนุษย์อยู่ไม่น้อย กล่าวคือ เรามักเชื่อว่า ยิ่งออกกำลังกายมาก ร่างกายก็จะใช้ไขมันมาเผาผลาญได้มาก แต่ในกระบวนการตามธรรมชาติ ร่างกายจะพยายามเก็บรักษาไขมันเอาไว้ให้นานที่สุด เพื่อเป็นพลังงานสำรอง และมักจะดึงเอากล้ามเนื้อมาเผาผลาญเป็นพลังงานก่อนเป็นลำดับแรก ดังที่เราจะสังเกตจากคนที่อดอาหารอย่างต่อเนื่อง ร่างกายจะซูบผอม แต่มีปริมาณไขมันในระดับที่สูง เป็นต้น
การรักษามวลกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายนั้น การรับประทานอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะทุกครั้งที่มีการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อจะทำงานอย่างหนัก จึงต้องใช้สารอาหารจำพวกโปรตีนเพื่อเข้าไปเสริมสร้างการเติบโต หรือในกรณีของนักยกน้ำหนักและนักเพาะกาย ก็อาจจะใช้ตัวช่วยอย่าง ผงเวย์โปรตีน หรือครีเอทีน เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ
-เสื้อผ้าใส่เข้ารูปดีขึ้นหรือไม่
การวัดผลเผาผลาญไขมันด้วยการชั่งน้ำหนัก แม้จะดูเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการชี้วัดความก้าวหน้าของการออกกำลังกาย แต่กลับเป็นมาตรวัดที่คลาดเคลื่อนได้มากที่สุด นั่นเพราะร่างกายที่เผาผลาญไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ จะมีน้ำหนักของการทดแทนในอัตราส่วนที่เกือบจะเทียบเท่ากัน ทำให้หลายครั้ง ออกกำลังกายมานาน แต่น้ำหนักกลับคงที่ ไม่ขยับเพิ่ม หรือลดลงไปจากเดิม
แต่เราสามารถวัดความก้าวหน้าของการออกกำลังกายได้ จากการดูว่าชุดที่เราใส่ เข้ารูปหรือไม่ รวมถึงการถ่ายรูปเก็บบันทึกผลเปรียบเทียบในระยะเวลาตั้งแต่สามเดือนขึ้นไป เพราะแม้น้ำหนักจะคงที่ แต่ถ้ามีกล้ามเนื้อมากขึ้น รูปร่างก็จะสมส่วนขึ้นอย่างที่สามารถมองเห็นได้จากตาเปล่า
ทั้งนี้ สามแนวทางในการชี้วัดว่าเรากำลังเผาผลาญไขมันหรือกล้ามเนื้อ เป็นเพียงแนวทางคร่าวๆ เบื้องต้นเท่านั้น เพราะในปัจจุบัน เครื่องชั่งน้ำหนักมีพัฒนาการที่มากขึ้น สามารถวัดมวลไขมันได้ในทันที ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ให้คุณสามารถบันทึกผลความก้าวหน้าได้อย่างแม่นยำ
แต่โปรดจำไว้ว่า การออกกำลังกายที่ดี มีรูปร่างที่สมส่วนแข็งแรง สามปัจจัยหลักจะต้องมีควบคู่กันอย่างไม่ขาด ทั้งการออกกำลังกายที่ครบถ้วน การทานอาหารในปริมาณสารอาหารที่เหมาะสม และ ‘การพักผ่อน’ ที่เพียงพอ ที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถดึงเอาไขมันมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
GM Live ขอให้ทุกคนออกกำลังกายอย่างมีความสุข และไปถึงผลลัพธ์ที่ตั้งใจไว้กันทุกคน~
