Expo 2025 กลางสายฝนและลมหนาว
โอซาก้า ญี่ปุ่น
งานเอ็กซ์โป 2025 โอซาก้า คันไซ เริ่มแล้ว ตั้งแต่ 13 เมษายน ไปจนถึง 13 ตุลาคม 2568 นี้ รวมระยะเวลา 6 เดือนเต็ม ให้ได้ไปเยือนงานระดับโลก ที่จัดได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยเฉพาะวันเปิดงานที่ทำให้เป็น Expo 2025 กลางสายฝนและลมหนาว
วันเปิดตรงกับสงกรานต์บ้านเรา แต่ที่โอซาก้าฝนฉ่ำ ตกทั้งวัน ตกแทบจะไม่พัก หยุดไม่นานก็เทลงมาอีก แถมด้วยลมที่แรงมาก อากาศจึงหนาวแบบสุดๆ GM Live มีบรรยากาศงานวันเปิดมาให้ชมกัน
วันเปิดคนเยอะมาก แน่นตั้งแต่รถใต้ดิน ใช้รถสายสีเขียว Chuo มาลงที่สถานี Yumeshima สุดสายเลย ถ้าซื้อเดย์พาส พอถึงปลายทางต้องจ่ายเพิ่มอีก 330 เยน
ตั๋วเข้างานต้องซื้อล่วงหน้าออนไลน์ ไม่มีขายหน้างาน เมื่อได้ตั๋วมาแล้วต้องจอง วันและเวลาเพื่อเข้างานอีกครั้ง รวมถึงการจองเข้าพาวิลเลียนด้วย ถ้าไม่จองคือห้ามเข้า แต่ก็มีหลายบูธที่ต่อแถวเข้าชมได้ ซึ่งแถวยาวทุกที่ รอขั้นต่ำ 15-30 นาที
เนื่องจากฝน และลมที่เป็นอุปสรรคสำคัญ วันนี้ให้ชมภาพรวมๆ ไกลๆ ไปก่อน และสัญญาว่า จะมีแบบเจาะลึกมาให้ชมอีกแน่นอน
โครงสร้างที่โดดเด่นสุดของงานนี้คือ โครงไม้สนแกรนด์ริง ออกแบบเป็นวงกลมให้เดินชมจากด้านบนได้ทั่วทั้งงาน
แน่นอนที่สุดไทยพาวิลเลียน คือเป้าหมายแรก ออกแบบได้โดดเด่น และเก๋ไก๋ ทำโครงหลังคาจั่วแค่ครึ่งเดียว แล้วใช้การสะท้อนภาพจากผนังที่เป็นวัสดุเงาเหมือนกระจก แสดงความเป็นไทยได้ดี มีแมสคอตชื่อน้องภูมิใจ คนญี่ปุ่นให้ความสนใจพอสมควร
ภายในแบ่งเป็น 5 โซน เป็นส่วนฉายภาพยนตร์ เล่าความโดดเด่นของไทยในเรื่อง health care, wellness และอาหารไทยที่มีเป็นหมื่นเมนู
พอพ้นจากส่วนแรก จะเข้าสู่โซนสุขภาพ ความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางรักษาแบบองค์รวม
ต่อเนื่องจากส่วนนี้ จะเป็นโซนขายอาหารไทย กลิ่นเครื่องแกงโชยหอมมาก เมนูจะเปลี่ยนทุกสัปดาห์
ปิดท้ายด้วยโซนขายสินค้า อาทิ จิมทอมสัน เบียร์ช้าง กางเกงช้างลายน้องภูมิใจ
พอออกพ้นพาวิลเลียนด้านหลัง จะเจอกิจกรรมหมุนเวียน เปลี่ยนทุกเดือน ไปช่วงนี้จะมีสาธิตนวดไทยพร้อมให้บริการฟรีด้วย
ส่วนเพื่อนบ้านซ้ายขวาติดกัน มีตุรเคีย และสเปน
ตุรเคีย เปิดหน้าด้วยดนตรี ด้านในใช้จอแอลซีดีขนาดยักษ์เล่าเรื่องราว สถานที่ท่องเที่ยว ชั้น 2 ทำเป็นโซนร้านอาหาร และด้านในสุดขายสินค้าพื้นเมือง พรม เซรามิค งานฝีมือ
สเปน ทำโครงสร้างได้อลังการมาก ต้องเดินขึ้นไปสู่พื้นที่จัดแสดง ใช้จอแอลซีดี โชว์ผลงานจองศิลปินบ้านเขา เป็นงานอาร์ตร่วมสมัย ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาสร้างสีสัน ตื่นตาตื่นใจมาก
ถ้ามองลงมาจากแกรนด์ริงด้านบน ทางเข้าเหมือนเดินเข้าสู่โลกใหม่ เหมือนดวงอาทิตย์ โดยมีแสงสีของจอแอลอีดีดึงดูดให้ลงไปต่อแถวดูใกล้ๆ
ภายในจัดแสง และบรรยากาศดีมาก เหมือนเดินเล่นอยู่ในมิวเซียมดีๆ เน้นเรื่องความสัมพันธ์สเปนกับญี่ปุ่นที่ยาวนานมาเป็นร้อยปี จนมีนามสกุล Japon หลงเหลืออยู่ในสเปน เมือง Coria del Rio เกือบ 700 คน
และอีกส่วนที่ทำได้ดีมากคือ เรื่องความยั่งยืน การดูแลสิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานอันชาญฉลาด โดยเฉพาะการใช้สาหร่ายมาเป็นพลังงานแห่งอนาคต ทำได้น่าสนใจ สนุก คนญี่ปุ่น ยืนอ่าน ยืนศึกษาข้อมูลกันนานมาก
ออกจากโซนสิ่งแวดล้อม มาถึงโซน ชาวสเปนขอส่งความสุขให้ชาวโลก ใช้โปสการ์ด ใช้แสงสีส้ม จอแอลซีดี เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ ความสุขที่คุณจะได้รับจากประเทศนี้
ปิดท้ายทางออกคือขายของพื้นเมือง มีน้ำมันมะกอก ไวน์ และของที่ระลึก ส่วนโซนอาหารต้องไปต่อแถวด้านนอกใหม่ เริ่มใหม่หมด ใครหิวๆ คงต้องตัดสินใจดีๆ
ปิดท้ายด้วยบูธซูมิโตโม่ บริษัทยักษ์ใหญ่อายุ 400 ปี ทำธุรกิจหลากหลายมาก ก่อสร้าง ธนาคาร ประกัน เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ฯลฯ
บูธนี้แปลกหน่อย คือใช้สุ่มผู้โชคดีถึงจะได้เข้าชม
มาภายใต้ธีม Unknown Forest เน้นเรื่องการอยู่ร่วมกันของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ คือความสัมพันธ์ที่ต้องอยู่คู่กันตลอดไป
โซนแรกจะเป็นส่วนต้อนรับ แนะนำการเยี่ยมชม ดูแต่ตามืออย่าต้องของจะเสีย
กิมมิค ในการเดินชมป่า เขาใช้ตะเกียงเป็นตัวเล่าเรื่อง เมื่อถึงจุดที่เตรียมไว้ เซ็นเซอร์ตะเกียงจะส่งสัญญาณให้ตะเกียงสั่น และมีเสียงบรรยายข้อมูล เลือกภาษาอังกฤษ หรือญี่ปุ่นได้ด้วย
เดินชมป่าจนจบใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที ปิดท้ายด้วยห้องมัลติมีเดีย ผสมผสาน ใช้จอภาพด้านในสุด และมีฉากรับภาพด้านหน้าแบบมองทะลุเข้าไปได้ ตรงกลางระหว่างจอ มีนักเต้นออกมาแสดงได้เข้ากับเรื่องราว ทำดีมากๆ เวลามองจอเหมือนเราเข้าไปอยํ่ในเหตุการณ์จริง มีความลึก เป็น 3 มิติ
วันเปิดงาน ถือว่าประเทศญี่ปุ่นบริหารจัดการภาพรวมได้ดีมาก จะมีช้าแค่ตรงส่วนรักษาความปลอดภัย หน้าทางเข้าหลักที่ต้องเอ็กซ์เรย์แบบสนามบิน แต่มีเครื่องอยู่แค่ไม่ถึง 30 ตัว เพื่อรองรับคลื่นคนที่รวมตัวเข้างานเป็นหมื่นคน ต่อแถวกลางสายฝน และลมหนาวแค่ 2 ชั่วโมงเบาๆ แต่ก็คุ้มค่าที่ได้มาเห็นงานระดับโลกสักครั้งในชีวิต ขอทิ้งท้ายไว้นิดว่า บูธซูมิโตโม่ ต้องอาศัยโชคในการเข้าชม!!!
