มุ่งหน้าสู่อนาคต แห่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้า กับ Energy Absolute
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ประดิษฐกรรมเช่น ‘ยานยนต์’ คือสิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงให้แก่มนุษยชาติ มันช่วยย่นระยะในการเดินทาง สร้างการเชื่อมต่อของแต่ละพื้นที่ และส่งผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในศตวรรษที่ 20 ที่ต่อยอดไปสู่ภาคอุตสาหกรรม การสร้างงาน และบุคลากรในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องจำนวนนับไม่ถ้วน
หากแต่การ Disrupt ทางอุตสาหกรรม คือสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย ประกอบกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ที่กลายเป็นปัจจัยในการพิจารณาหนทางสู่ ‘พลังงานสะอาด’ ที่จะมาเป็นตัวเลือกของเวลาในภายภาคหน้า ภาคยานยนต์ก็จัดว่าเป็นผู้เล่นสำคัญที่จะถูกจับตา และได้รับผลจากการเปลี่ยนผ่านเหล่านี้
GM Magazine ได้รับเกียรติจาก คุณอมร ทรัพย์ทวีกุล Co-Founder บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Energy Absolute (EA) ผู้บุกเบิกเส้นทางสายพลังงานไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ ที่มาร่วมพูดคุยในมุมมองเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรม ทิศทางที่จะเกิดขึ้น และวิสัยทัศน์ที่ ‘พลังงานสะอาด’ จะเข้ามามีบทบาท ไม่เพียงแต่เฉพาะยานยนต์ แต่รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยภาพรวม
–ที่บอกว่า EA เหมือน ‘Tesla เมืองไทย’ คิดเห็นอย่างไร
ในจุดนี้ต้องบอกว่า เรายังห่างไกลอยู่มาก ก็ต้องขอบคุณที่ให้เกียรติ ถือเป็นคำชม เพราะ Tesla มีส่วนแบ่งการตลาดใหญ่มาก เพราะตอบสนองต่อสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ ซึ่งทางบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ก็ได้มองเห็นโอกาสในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นส่วนแบตเตอรี หรือสถานีเติมไฟฟ้า ซึ่งเราก็ได้มอง Tesla เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า เพราะในปัจจุบัน ก็มีความพร้อมทั้งในด้านเทคโนโลยีกับบุคลากร และในอีกทางหนึ่ง ประเทศไทยเองก็ต้องเอาสิ่งที่เป็นนวัตกรรมเพื่อมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เดินหน้า ท่ามกลางการ Disrupt ที่เกิดขึ้นในระดับสากล
-เมื่อพูดกันถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ยังอิงกับพลังงานเชื้อเพลิงแบบเดิม และมีความคุ้นชินกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว คิดเห็นอย่างไรกับกับจุดนี้
แน่นอนว่าการ Disrupt นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิด มันมีมาโดยตลอด ในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งหัวใจหลักสำคัญคือ การสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ประหยัดขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น ที่ตอบสนองต่อมิติการใช้ชีวิตของผู้บริโภค แต่ทั้งนี้ การ Disrupt ดังกล่าว ไม่ใช่จะประสบความสำเร็จไปเสียทุกอย่าง ก็ต้องพิจารณาจากทิศทางของโลก และการพัฒนาที่เป็นไป แต่ก็ต้องเริ่มต้นบุกเบิกก่อน เพราะถ้ารอให้นวัตกรรมเกิดขึ้นแล้วค่อยเริ่ม ก็จะสายเกินไป
–ความยากในการนำเอานวัตกรรมมาประยุกต์ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ในมุมมองของทางบริษัท คือสิ่งใด
สิ่งที่ยากอย่างแรก คือการมองว่าอะไรที่จะเป็นแนวโน้ม หรือวิสัยทัศน์ที่กำลังจะเข้ามาในอนาคต ส่วนข้อที่สองคือ เมื่อเลือกแล้วว่าจะใช้นวัตกรรมนี้ จะนำมาปฏิบัติอย่างไรให้เกิดผล เพราะนวัตกรรมบางอย่าง อาจจะมีคุณสมบัติที่ดีมากที่สุดในตลาด แต่อาจจะใช้ยากเกินไป นำมาประยุกต์ให้เกิดผลิตภัณฑ์ในเชิงอุตสาหกรรมลำบากเกินไป ก็ต้องมาพิจารณาว่า บางสิ่ง อาจจะไม่ต้องดีที่สุด แต่เหมาะสมที่จะใช้งาน ซึ่งสุดท้าย คนที่จะตอบในจุดนี้ได้ คือผู้บริโภค โดยสรุป นวัตกรรมที่จะเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ จะต้องดีพอ คนใช้งานมากพอ และ ‘ในเวลาที่เหมาะสม’ ด้วย และสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีสูตรสำเร็จว่าจะต้องทำอย่างไร
-การสนับสนุนและนโยบายของภาครัฐมีส่วนสำคัญมากน้อยเพียงใดในการตัดสินใจในการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่
สำคัญอย่างมาก เพราะในฐานะที่เป็นภาคเอกชน ก็ต้องพิจารณาเป้าหมายของหน่วยงานภาครัฐ ว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ ตลาดใหม่ที่จะเกิดขึ้น นโยบายและการสนับสนุนจากภาครัฐคือสิ่งที่จำเป็น เพราะถ้าภาครัฐไม่ได้มองไปในสิ่งเดียวกัน อุตสาหกรรม ‘อาจจะ’ เกิดขึ้นได้ แต่ก็เป็นไปด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก และเมื่อเทียบกับคู่แข่งกับขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล ก็เสียเปรียบหรืออาจจะต้องออกแรงผลักดันด้วยตนเองมากกว่าที่ควร ซึ่งภาครัฐสามารถช่วยเหลือในจุดนี้ได้ จากการวางแนวทางระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อให้คงศักยภาพด้านการทำธุรกิจในตลาด
-ในมุมมองของผู้บริโภค การตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โครงข่ายที่สนับสนุนการใช้งานถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง ทางบริษัทมองจุดนี้เอาไว้อย่างไร
ในส่วนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ถ้ามองในภาพใหญ่ที่ว่า จำนวนผู้ใช้งานจะเยอะขึ้นแล้ว มันจะกระทบในหลากหลายมิติมาก และการวางโครงข่ายเพื่อรองรับผู้ใช้งานไว้แต่แรกเริ่ม คือสิ่งที่สำคัญ แน่นอนว่าในช่วงต้น มันไม่ก่อให้เกิดกำไร มันเป็นต้นทุน แต่ยังไงก็ต้องมี เพราะถ้าไม่มี ผู้ใช้งานก็จะไม่มั่นใจว่าจะใช้งานดีหรือไม่
-ทำไมบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จึงเลือก Commercial EV หรือระบบขนส่งขนาดใหญ่ มากกว่าผู้ใช้งานตามบ้านทั่วไป
ที่ทางบริษัทมองตลาดรถใหญ่หรือ Commercial EV มันก็เกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่เป็นแพลทฟอร์มที่สามารถชาร์จได้เร็ว ซึ่งจุดที่เป็นปัญหาของผู้ใช้งานอย่างหนึ่งคือ ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้านานมาก ทางบริษัทก็พัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ตอบโจทย์ในจุดนี้ อีกทั้งตลาดของประเทศไทย มีรถโดยสารและรถบรรทุกที่มีจำนวนมากพอ ที่จะทำให้เกิดการตั้งหลักอุตสาหกรรมในประเทศไทยได้
-ในแง่มูลค่าตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าโดยสารทั่วไปมากน้อยแค่ไหน
ในจุดนี้ ต้องบอกว่าผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้ ต่างก็มองในตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นหลัก เพราะมีกำไรต่อหน่วยที่ดีกว่า แต่ทั้งนี้ ก็ต้องพิจารณาศักยภาพของทางบริษัทด้วยว่า มีความพร้อมในจุดนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งมุมหนึ่ง ตลาดของรถพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีการแข่งขันที่ชัดเจน และไม่ได้รุนแรงมากนัก พอจะมีพื้นที่ให้ทางบริษัทสามารถเข้าไปร่วมในจุดนี้ได้
–จากการที่บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.เน็กซ์ (NEX) ในสัดส่วน 40% ที่ทำให้ EMH กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เราจะได้เห็นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีแบตเตอรีและพลังงานไฟฟ้าจากความร่วมมือนี้อย่างไรบ้าง?
การได้ร่วมมือกับทาง NEX ที่เป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับรถขนาดใหญ่ ช่วยให้เห็นภาพความต้องการของผู้บริโภคว่าสิ่งใด เป็นจุดสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจ เรียกว่าทางบริษัทพลังงานบริสุทธิ์มีนวัตกรรม ทาง NEX มีฐานลูกค้า ซึ่งจะช่วยในปัจจัยทางด้านเวลาของการประกอบธุรกิจ ที่จะต้องเดินให้เร็วในจังหวะที่สามารถทำได้ เพราะถ้าขยับช้ากว่าบริษัทกลุ่มใหญ่ ก็อาจจะช้าเกินไป
-มองทิศทางในการขยับขยายในตลาดและอุตสาหกรรมของพลังงานบริสุทธิ์ที่เป็นเทรนด์ของโลกเอาไว้อย่างไรบ้าง
ในตอนนี้ ทางบริษัทอาจจะต้องมองในส่วนของประเทศไทยก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยการเอาผลิตภัณฑ์ให้เข้าไปสู่ทุกตลาด เพื่อพิสูจน์ศักยภาพนวัตกรรมของบริษัท ซึ่งก็คือระบบ Fast Charge ที่เป็นจุดแข็ง จากนั้น ค่อยขยายไปสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการมีผลลัพธ์ที่จับต้องได้ จะช่วยให้การขยายตลาดหรือประสานความร่วมมือกับผู้ผลิตในประเทศอื่นๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น และเร็วมากขึ้น
-ประเทศไทย ยังถือว่าเป็นเจ้าตลาดทางด้านยานยนต์ของภูมิภาคหรือไม่
ต้องบอกว่าประเทศไทยเป็นเบอร์หนึ่งมายาวนาน และคู่แข่งในประเทศเพื่อนบ้าน ก็อยากจะแซงขึ้นมา ประกอบกับการ Disrupt ทางด้านนวัตกรรม ประเทศเหล่านั้นก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะผลักดันด้านนโยบาย และสร้างความได้เปรียบก่อน จุดนี้ถือว่าน่ากลัว แต่ทั้งนี้ ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นฐานผลิตมายาวนาน ระบบที่เอื้อให้กับอุตสาหกรรม บวกกับบุคลากรที่มีความสามารถ ก็ยังเป็นข้อได้เปรียบ อีกทั้งประเทศไทยมีระบบโครงข่ายพลังงานไฟฟ้าที่แข็งแรง ที่สามารถต่อยอดให้กับอุตสาหกรรมใหม่อย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ แต่การที่สิ่งต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ จะต้องมีวิสัยทัศน์และแนวทางการรองรับที่ชัดเจน
-ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานภาครัฐ ถึงความจำเป็นทางด้านสาธารณูปโภคและโครงข่ายเพื่อการขยายตัวทางอุตสาหกรรมไว้บ้างหรือไม่
ทางบริษัทได้มีการพูดคุยกับสภาอุตสาหกรรมมาเป็นระยะๆ ถึงความจำเป็นดังกล่าว ว่าถ้าหากประเทศไทยจะคว้าโอกาสนี้ไว้ จะไม่ใช่แค่การรอจากทางภาครัฐ แต่ภาคเอกชนก็มีส่วนสำคัญในการสะท้อนถึงความต้องการ และสิ่งจำเป็นที่ว่านี้ เป็นการสื่อสารสองทาง เพื่อให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลง ที่ทางหลายบริษัทชั้นนำ ก็กำลังพิจารณาว่า ฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในยุคถัดไป ควรจะอยู่ที่ใด และถ้าพร้อมได้เร็วเท่าไหร่ การเตรียมตัวสำหรับอุตสาหกรรมก็จะดียิ่งขึ้นเท่านั้น
-ในมุมมองของทางบริสุทธิ์ คิดว่าประเทศไทย ควรเปลี่ยนผ่านไปสู่ตลาดใหม่อย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือยังควรใช้ยานยนต์แบบเดิม หรือควรจะเป็น Hybrid
ในจุดนี้ ต้องพิจารณาว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถยนต์เชื้อเพลิง มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร ทั้งความคุ้นเคยของผู้ใช้งาน การให้บริการ การผลิต การบำรุงรักษา หรือในส่วนของลูกผสมหรือ Hybrid นั้น ก็ค่อนข้างจะอิงในส่วนของพลังงานแบบเดิมเสียเป็นหลัก มีพลังงานไฟฟ้าเป็นส่วนฉุกเฉิน ซึ่งในส่วนของผู้ใช้งาน ก็ต้องดูในส่วนของการใช้งาน และงบประมาณที่มีอยู่ในมือ
-COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทมากน้อยเพียงใด
ต้องบอกว่าได้รับผลกระทบ เพราะแม้จะไม่กระเทือนต่อผลประกอบการ แต่ในขั้นตอนและกระบวนการผลิตนั้นเป็นปัญหา เพราะการเดินทางลำบาก ส่งผลต่อวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่จะเข้ามาควบคุมในโรงงาน ยิ่งสถานการณ์ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ไม่สู้ดีนัก ก็ทำให้เกิดความกังวลต่อบุคลากรไม่น้อย
-การประชุมด้านสิ่งแวดล้อม COP26 กรุงกลาสโกว์ที่ผ่านมา ทางประเทศไทย มีการลงมติที่จะลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2573 ทางบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ได้วางแผนธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับแนวทางดังกล่าวเอาไว้อย่างไรบ้าง
ในจุดนี้ มองว่าทุกประเทศต่างให้คำสัญญาที่ปี 2050 หรือที่ พ.ศ.2583 ทางท่านนายกรัฐมนตรีก็เลยให้คำสัญญา ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มีความท้าทายมาก และในจุดนี้ ถ้าถามว่าส่งผลอย่างไรกับทิศทางการดำเนินงานของบริษัท ก็ต้องบอกว่ามองเป็นในเชิงบวก เพราะความต้องการทางด้านพลังงานสะอาดมีมากขึ้น โรงงานที่เป็นภาคส่วนที่ปล่อยมลภาวะก็ต้องมีการปรับตัว และการใช้พลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรีขนาดใหญ่ก็จะเพิ่มสูง ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการ ก็ต้องเตรียมพร้อมกับความต้องการนั้นๆ
-ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เทรนด์ของรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงจะหมดไป ได้มองในจุดนี้ไว้อย่างไร
คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่าเทรนด์ดังกล่าวจะมาถึงหรือไม่ แต่อยู่ที่ ‘เวลา’ ว่าจะมาถึงเมื่อใด อาจจะภายในระยะเวลาสิบปี ยี่สิบปี แต่ไม่ได้มาในระยะเวลาอันสั้นแน่นอน และจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็จะได้รับการพัฒนาด้านนวัตกรรม ขับได้ดีขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น ดีไซน์ดีขึ้น เมื่อบวกรวมกับสาธารณูปโภครองรับที่มากขึ้น การใช้งานก็จะเพิ่มขึ้นตามมา
-ทิศทางต่อไปของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ในภายภาคหน้า
ในระยะใกล้ อาจจะต้องโฟกัสไปที่ส่วนของโรงงาน ผลิตภัณฑ์ และการนำส่งไปสู่ทุกส่วนของตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ และถ้าทุกอย่างสำเร็จตามที่คิด ก็อาจจะขยายไปสู่ตลาดของรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ก็ต้องมีความพร้อมทั้งทรัพยากร บุคลากร และความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการขยายไปในพื้นที่ดังกล่าว
-COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทมากน้อยเพียงใด
ต้องบอกว่าได้รับผลกระทบ เพราะแม้จะไม่กระเทือนต่อผลประกอบการ แต่ในขั้นตอนและกระบวนการผลิตนั้นเป็นปัญหา เพราะการเดินทางลำบาก ส่งผลต่อวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่จะเข้ามาควบคุมในโรงงาน ยิ่งสถานการณ์ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ไม่สู้ดีนัก ก็ทำให้เกิดความกังวลต่อบุคลากรไม่น้อย
-การประชุมด้านสิ่งแวดล้อม COP26 กรุงกลาสโกว์ที่ผ่านมา ทางประเทศไทย มีการลงมติที่จะลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2573 ทางบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ได้วางแผนธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับแนวทางดังกล่าวเอาไว้อย่างไรบ้าง ในจุดนี้ มองว่าทุกประเทศต่างให้คำสัญญาที่ปี 2050 หรือที่ พ.ศ.2583 ทางท่านนายกรัฐมนตรีก็เลยให้คำสัญญา ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มีความท้าทายมาก และในจุดนี้ ถ้าถามว่าส่งผลอย่างไรกับทิศทางการดำเนินงานของบริษัท ก็ต้องบอกว่ามองเป็นในเชิงบวก เพราะความต้องการทางด้านพลังงานสะอาดมีมากขึ้น โรงงานที่เป็นภาคส่วนที่ปล่อยมลภาวะก็ต้องมีการปรับตัว และการใช้พลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรีขนาดใหญ่ก็จะเพิ่มสูง ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการ ก็ต้องเตรียมพร้อมกับความต้องการนั้นๆ