fbpx

ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท  กับ หลักการแห่ง “4 ร.” เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาพื้นที่ราชการและสาธารณะ

เมื่อพูดกันถึงเรื่อง ‘ที่ดิน’ แล้วนั้น แน่นอนว่า การมีที่ดินเปล่าผืนหนึ่ง ย่อมมีมูลค่าในตัวของมันเอง แต่การ ‘พัฒนา และต่อยอด’ ที่ดินนั้นๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ย่อมให้ผลตอบกลับที่ดีที่ตามมาในระยะยาว สร้างความมั่นคงทางรายได้ และก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อชุมชน เราจึงเห็นความพยายามที่จะพัฒนาที่ดินของประชาชน และหน่วยงานเอกชนอยู่เสมอๆ

และนั่น รวมถึง ‘ที่ดินของทางภาครัฐ’ ที่ได้รับการพัฒนาให้ก่อเกิดมูลค่าและประโยชน์ขึ้นมา ภายใต้การดูแลของ ‘บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด’ หรือ ธพส. ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อบุคลากรของหน่วยงานราชการ และประชาชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง

ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท เคยขึ้นปกนิตยสาร GM Magazine ฉบับเดือนมีนาคม 1992

GM Live ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง ทั้งเรื่องของผลงานที่ภาคภูมิใจในหลักการแห่ง “4 ร.” พร้อมกับวิสัยทัศน์แห่งอนาคตกับโครงการ ‘ทรัพย์อิงสิทธิ์ 99 ปี’ ไปจนถึงแนวคิดในการใช้ชีวิต ผ่อนคลายความกังวล และนิยามหลักของชีวิต ที่เน้นความสุข เหนือยิ่งกว่าความสำเร็จ

นั่นเพราะสำหรับผู้ชายที่ชื่อ นาฬิกอติภัค แสงสนิท ความสำเร็จ คือสิ่งที่นิยามโดยคนอื่น แต่ความสุข ….. คือสิ่งที่ตัดสินใจได้ด้วยตนเอง

ผลงานที่ภาคภูมิใจ: บทพิสูจน์แห่งหลักการ “4 ร.”

ในการบริหารจัดการงาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็ก หรือ โครงการขนาดยักษ์ระดับชาติ หัวใจสำคัญของความสำเร็จ มักจะอยู่ที่หลักการทำงานที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมยึดมั่นในหลักการ “4 ร.” อันประกอบด้วย ‘ริเริ่ม รวดเร็ว เร่งรัด และเรียนรู้’ ที่ยึดถือมาโดยตลอดได้ส่งผลให้เกิดความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมหลายประการ และพิสูจน์แล้วว่าเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาองค์กรไปสู่การสร้างผลงานที่น่าภาคภูมิใจ

ริเริ่ม : จุดประกายความคิด สร้างสรรค์สิ่งใหม่
“ริเริ่ม” คือการกล้าคิด กล้าทำ กล้าที่จะก้าวออกจากกรอบเดิมๆ เพื่อมองหาโอกาสและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรและประเทศชาติ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การหยุดนิ่งเท่ากับถอยหลัง ผมเชื่อว่าการริเริ่มไม่ใช่แค่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ แต่ยังรวมถึงการมองเห็นปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขที่สร้างสรรค์ การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และการผลักดันให้เกิดการทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ หลักการริเริ่มนี้ทำให้เราไม่หยุดพัฒนา และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไป

รวดเร็ว : ฉับไว ทันการณ์ พร้อมคว้าโอกาส
ในยุคปัจจุบัน ความรวดเร็วเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ “รวดเร็ว” ไม่ได้หมายถึงการรีบร้อนจนขาดความรอบคอบ แต่หมายถึงความสามารถในการตัดสินใจอย่างฉับไว การลงมือทำทันทีเมื่อมีโอกาส และการบริหารจัดการเวลาและทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้งานเดินหน้าอย่างไม่ติดขัด การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการเจ้าของโครงการ กรมธนารักษ์ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือแม้แต่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ล้วนต้องอาศัยความรวดเร็วในการสื่อสารและดำเนินการ เพื่อให้ทุกกลไกที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ร่วมกัน

เร่งรัด : มุ่งมั่น ติดตามผล เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย
การทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้ จำเป็นต้องอาศัยการ “เร่งรัด” ซึ่งคือการติดตามความคืบหน้าของงานอย่างใกล้ชิด การผลักดันให้ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มศักยภาพ และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที การเร่งรัดไม่ใช่การสร้างความกดดันที่ไม่จำเป็น แต่เป็นการสร้างแรงจูงใจและกำหนดทิศทางที่ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนในทีมเข้าใจเป้าหมายร่วมกันและมุ่งมั่นที่จะทำให้งานสำเร็จตามแผนที่กำหนดไว้ ผมเชื่อว่าการเร่งรัดอย่างถูกวิธีจะช่วยให้เราสามารถส่งมอบผลงานที่มีคุณภาพได้ตรงเวลาและอยู่ในงบประมาณที่กำหนด

เรียนรู้ : ไม่หยุดนิ่ง พัฒนาตนเองตลอดเวลา
โลกไม่เคยหยุดนิ่ง เช่นเดียวกับการทำงาน เราต้อง “เรียนรู้” อยู่ตลอดเวลา การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการถอดบทเรียนจากความสำเร็จและความผิดพลาดที่ผ่านมา การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การเรียนรู้ทำให้เราเติบโต ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่หลากหลายในอนาคต

ผมภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับความสำเร็จในการประสานงานตัดถนนหมายเลข 8 (จากศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ไปออก Local Road) และถนนหมายเลข 10 (จากศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ไปออกถนนประชาชื่น) ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงาน และการขยายงานก่อสร้างอาคารสำนักงานออกไปภายนอกศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เช่น อาคารสำนักงานกรมธนารักษ์ ซอยพหลโยธิน 11 อาคารอเนกประสงค์กรมสรรพสามิต ราชวัตร และอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย กรมสรรพากร ซอยสุขุมวิท 11 ซึ่งต้องมีการตัดสินใจที่รวดเร็วและเด็ดขาด เพื่อให้โครงการเดินหน้าไปได้ นอกจากนี้ ผมยังสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ได้อีก 46 ไร่ ซึ่งเป็นการริเริ่มที่ตอบสนองต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของบุคลากรในศูนย์ราชการฯ รวมถึงการบริหารจัดการก่อสร้าง อาคาร C จนแล้วเสร็จ โดยสามารถประหยัดงบประมาณไปได้เกือบ 2,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและเร่งรัดโครงการให้บรรลุเป้าหมายด้วยทรัพยากรที่มีอยู่
อย่างจำกัด

วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต: ธพส. จะเป็นคำตอบสำหรับทรัพย์อิงสิทธิ์ 99 ปี

ผมมองเห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ขององค์กรนี้ และเชื่อมั่นว่า หากรัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งทรัพย์อิงสิทธิ์ 99 ปี ได้อย่างเป็นรูปธรรม ธพส. จะเป็นคำตอบ (Solution) ที่สมบูรณ์แบบ ในการบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ เราสามารถเป็นตัวแทนภาครัฐในการจัดตั้งทรัพย์อิงสิทธิ์ที่ดินในกรณีที่ภาคเอกชนต้องการขายที่ดินให้แก่ชาวต่างชาติได้อย่างราบรื่นและโปร่งใส โดยเมื่อครบ 99 ปี ที่ดินแปลงนั้นจะตกเป็นทรัพย์ของแผ่นดินทันที เท่ากับว่าที่ดินจะไม่เคยตกเป็นของต่างชาติแม้แต่วันเดียว ซึ่งจะนำมาซึ่งรายได้ที่มั่นคงให้กับประเทศชาติ และจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจใหม่อย่างยั่งยืน

หลักการ “4 ร.” ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดในการทำงาน แต่เป็นปรัชญาที่หล่อหลอมให้เรากล้าคิด กล้าทำ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับองค์กรและประเทศชาติอย่างยั่งยืน ผมเชื่อว่า ด้วยหลักการนี้ เราจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง และประสบความสำเร็จในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

วิธีคลายเครียดจากการทำงาน

ในวัยเยาว์ ผมยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ว่า ‘จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง’ อย่างไรก็ตาม เมื่อเติบโตขึ้น โลกก็ได้สอนให้ผมรู้ว่า ปัจจัยภายนอกมักมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเราอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ หากความเครียดคืบคลานเข้ามา ผมจะหันกลับมาพิจารณาว่า เราได้ทุ่มเททำอย่างเต็มที่ที่สุดแล้วหรือยัง หากมั่นใจว่า ได้ทำดีที่สุดตามกำลังและความรับผิดชอบแล้ว ก็จะยอมรับและปล่อยวางความกังวลนั้นไป คติประจำใจของผมคือ “เราควรให้ความสำคัญกับชีวิตที่มีความสุข มากกว่าชีวิตที่ประสบความสำเร็จ เพราะความสำเร็จ ตัดสินโดยคนอื่น แต่ความสุข คือสิ่งที่เราตัดสินได้เอง”

ทั้งหมดคือเรื่องราวจากการพูดคุยกับ ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง ที่คมเข้ม ตรงประเด็น และชวนให้เราติดตามกันว่า แนวคิด ที่เป็นคำตอบ ของการถือครองที่ดินโดยชาวต่างชาติ หรือ ทรัพย์อิงสิทธิ์ 99 ปี ที่กำลังดำเนินไปอยู่นี้ จะเปลี่ยนโฉมหน้าเศรษฐกิจและสังคมไปในทางใด

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ