fbpx

Do You Hear the People Sing? บทเพลงแห่งความโกรธ ความหวัง และการประท้วง

เรื่อง: คาลิล พิศสุวรรณ

เป็นในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1845 ขณะที่ Victor Hugo อายุได้ 43 ปี ที่เขาได้เริ่มต้นเขียน Les Miserables หนึ่งในนวนิยายเล่มสำคัญที่จะโด่งดังไปทั่วโลก อย่างที่หลายๆ คนคงจะรู้อยู่แล้ว ว่านวนิยายเล่มนี้คือเรื่องราวการต่อสู้ของประชาชนฝรั่งเศส ต่อการโค่นล้มระบอบการปกครองอันอยุติธรรมที่คอยแต่จะกดขี่ และขูดรีดชีวิตของพวกเขา

ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า แม้ Les Miserables จะไม่ได้ฉายภาพการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1789 โดยตรง หากนวนิยายเรื่องนี้กลับแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ยังคงสร้างแรงกระเพื่อมต่อการลุกขึ้นสู้ของประชาชนในอีกหลายสิบปีให้หลัง เมื่อหัวใจสำคัญของ Les Miserables คือมวลชน จึงไม่แปลกว่าทำไมเมื่อนวนิยายเรื่องนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นละครเวที บทเพลงที่กลายเป็นที่จดจำ และสร้างมนต์ขลังให้กับละครเวทีเรื่องนี้จึงคือ ‘Do You Hear the People Sing?’ บทเพลงที่สะท้อนให้เห็นถึงเสียงร้องอันกราดเกรี้ยวของมวลชน

หากสังเกตที่เนื้อหา Do You Hear the People Sing? คือบทเพลงแห่งความโกรธ การปลดปล่อย และความหวัง เห็นได้จากท่อนที่ร้องว่า ‘It is the music of the people who will not be slaves again!’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอัดอั้นของประชาชนที่มุ่งมั่นจะปลดปล่อยตัวเองจากระบอบการปกครองที่ปฏิบัติต่อพวกเขาไม่ต่างอะไรจากทาส ส่วนในท่อนที่ร้องว่า ‘There is a life about to start when tomorrow comes!’ ก็แสดงให้เห็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของมวลชนกลุ่มนี้ว่าคือ ‘ความหวังต่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า’ เพราะแม้ว่าในสภาพการณ์ปัจจุบันจะดูมืดมิด หรือสิ้นหวังเพียงใด ขอแค่เพียงวันพรุ่งนี้มาถึง ชีวิตของพวกเขาก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่สู่ความเป็นไปได้ที่ดีกว่า

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของเพลง Do You Hear the People Sing? คือ เมื่อเนื้อหาของมันพูดถึงกลุ่มก้อนของประชาชน ไม่ใช่คนเพียงคนเดียว เพลงๆ นี้จึงไม่ได้ถูกร้องผ่านเสียงร้องเพียงเสียงเดียว แต่คือการผสานรวมกันของเสียงหลายๆ เสียงจนเกิดเป็นบทเพลงๆ หนึ่งที่กลุ่มก้อนของประชาชนต่างเปล่งเสียงร่วมกัน ในแง่นี้ สถานะของเพลง Do You Hear the People Sing? จึงไม่ถือเป็นเพลงของใครคนหนึ่งคนใด ไม่ได้ผูกขาดอยู่กับเสียงร้องเสียงหนึ่งเสียงใด แต่คือเพลงของประชาชนทุกคน

หากใครได้ติดตามข่าวการประท้วงที่ฮ่องกงเมื่อปีที่ผ่านมา คงจะจำได้ว่า Do You Hear the People Sing? ได้กลายเป็นบทเพลงประจำของการประท้วง ดังที่ชาวฮ่องกงคนหนึ่งซึ่งได้เข้าร่วมในการประท้วงได้กล่าวถึงบทเพลงนี้ไว้ว่า

“ด้วยความที่เนื้อหาของเพลงนี้พูดถึงการก้าวข้ามอุปสรรค และการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของประชาชน เพลงๆ นี้สอดคล้องกับบรรยากาศทางการเมืองของฮ่องกง ที่รัฐบาลไม่เคยรับฟังเสียงประชาชน และยอมสยบให้กับอำนาจของรัฐบาลจีน สำหรับผมแล้ว ผมถือว่าผู้ชุมนุมทุกคนเป็นฮีโร่นะ เพราะพวกเขาต่างรู้ว่าราคาที่ต้องจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งเสรีภาพคืออะไร พวกเขายังยืนยันที่จะสู้ แม้ว่านั่นอาจทำให้เขาต้องติดคุกเป็นสิบปี”

แม้ว่าการประท้วงที่ฮ่องกงจะเป็นเหตุการณ์ที่ส่งให้เพลง Do You Hear the People Sing? กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หากจริงๆ แล้ว เพลงนี้ปรากฏในการประท้วงอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น ในตุรกีเมื่อปี ค.ศ. 2013

ได้มีการใช้เพลงนี้ในการประท้วงต่อประเด็นการพัฒนาเมืองของรัฐบาลตุรกีในกรุงอิสตันบูล โดยที่การประท้วงในครั้งนั้นไม่เพียงจะนำมาสู่การปะทะกันระหว่างประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ หากยังขยายผลไปสู่การชุมนุมในหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศ โดยในการประท้วงนี้ Do You Hear the People Sing?

ได้ถูกใช้ในฐานะเสียงร้องอันไม่พอใจของประชาชนต่อความรุนแรงของอำนาจรัฐที่พยายามจะสลายการชุมนุม หรืออย่างในเกาหลีใต้ ช่วงปี ค.ศ. 2016 – 2017 ที่ได้มีการประท้วงประธานาธิบดี Park Guen-Hye ต่อประเด็นคอรัปชั่น เพลง Do You Hear the People Sing? ที่ถูกแปลเป็นภาษาเกาหลีก็ได้ถูกร้องขึ้นมาก่อนที่ประชาชนจะได้รับชัยชนะ และ Park Guen-Hye ก็ได้ถูกปลดจากตำแหน่งประธานาธิบดีในท้ายที่สุดhttps://www.youtube.com/embed/3BnamWoGebs?feature=oembed

หรือกระทั่งช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในประเทศไทยของเรา ที่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ได้รวมตัวเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองทั้งไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรม และไม่เห็นด้วยต่อการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลเผด็จการ เพลง Do You Hear the People Sing? กึกก้องขึ้นอีกครั้งในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ

โดยที่เหล่านักศึกษาเองต่างกู่ร้องเสียงของพวกเขาอย่างมุ่งมั่นและหวังว่าพลังของพวกเขาจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ ว่าแต่ทำไมเพลง Do You Hear the People Sing ถึงได้กลายเป็นเพลงยอดนิยมของการประท้วงทั่วโลกันล่ะ?

Marva Barnett ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัย Virginia แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้สนใจชีวประวัติของ Victor Hugo และเรื่องราวของ Les Miserables อธิบายว่า สาเหตุหนึ่งที่เพลงๆ นี้กลายเป็นบทเพลงแห่งการประท้วงอาจสอดคล้องกับมุมมองทางสังคมของตัว Hugo เองที่เชื่อว่า ความรัก และความมีมนุษยธรรมจะพามนุษย์ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ไปได้ ดังที่ Les Miserables เองก็คือนวนิยายที่ส่องแสงให้เห็นถึงความรัก และพลังของประชาชนที่หากผสานรวมเข้าด้วยกัน และขับเคลื่อนไปด้วยกันภายใต้อุดมการณ์อันเป็นหนึ่งได้ ไม่ช้านาน ความอยุติธรรมใดๆ ก็จะถูกล้มล้างลงได้ด้วยอำนาจของประชาชน

Barnett กล่าวว่า “Do You Hear the People Sing? เป็นเพลงที่ดึงดูดใจเพราะหลายๆ เหตุผลด้วยกัน มันเป็นทั้งเสียงร้องของการต่อสู้ เป็นบทเพลงที่กระตุ้นให้รู้สึกเร่าร้อน และมันก็เป็นดั่งข้อเรียกร้องที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมที่ก้าวหน้า ผ่านเสียงร้องของผู้คนผู้ถูกกดขี่ ในขณะเดียวกัน เนื้อหาของเพลงๆ นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความหวัง และการมองโลกในแง่ดีของมนุษย์แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้สถานการณ์อันเลวร้ายก็ตาม”

Victor Hugo เขียนไว้ว่า “บทเพลงจะช่วยบอกเล่าในสิ่งที่ไม่อาจเล่าผ่านถ้อยคำ และสิ่งที่ไม่อาจถูกปิดเงียบไว้ได้” บทเพลงคือความจริง คืออารมณ์ความรู้สึก และคือพลัง ในโมงยามที่ความโกรธแค้นชิงชังต่อความอยุติธรรมปรากฏให้เห็น และสร้างแรงกระเพื่อมอย่างเป็นรูปธรรม อาจกล่าวได้ว่า เพลง Do You Hear the People Sing? ที่ดังขึ้นอีกครั้ง จึงเป็นดั่งคำยืนยันว่า นับแต่วันนี้ไป ประชาชนจะไม่ยอมรับอำนาจอันไม่เป็นธรรมที่คอยการกดขี่พวกเขาอีกต่อไปแล้ว

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ