สร้างอนาคตดิจิทัลที่ปลอดภัย: ร่วมสู้ภัยไซเบอร์ที่พัฒนาการขึ้นทุกวัน

บทความโดย: Nils Andersen-Röed, หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางการเงินระดับโลก, Binance
เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ภายใต้แรงขับเคลื่อนของเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ประเทศไทยในฐานะหนึ่งในผู้นำเศรษฐกิจของภูมิภาค กำลังอยู่บนทางแยกสำคัญที่ต้องตัดสินใจว่าจะเดินต่ออย่างไร
แม้การยอมรับและใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นจะสร้างโอกาสการเติบโตมหาศาล แต่ในอีกด้านหนึ่งก็กลายเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพที่มีความซับซ้อนเข้ามาแฝงตัว เราเห็นได้จากปัญหาบัญชีม้าและการหลอกลวงข้ามชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนไทยและผู้คนในภูมิภาคอย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการคิดใหม่เรื่องแนวทางรับมือภัยคุกคามยุคใหม่
สถานการณ์ภัยคุกคามที่เปลี่ยนไป
เหมือนกับที่เราเคยเห็นในวงการเงินทั่วไป หรือพวกธุรกิจอินเทอร์เน็ตอย่างอีคอมเมิร์ซ พวกคนไม่ดีที่ฉลาดแกมโกงก็ชอบใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มาหากินในทางที่ไม่ดี เปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลให้กลายเป็นเครื่องมือทำเรื่องผิดกฎหมาย พวกการหลอกลวง การโกงลงทุน การฟอกเงิน มันซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังข้ามประเทศกันบ่อยด้วย ความซับซ้อนแบบนี้แหละที่ทำให้เราต้องร่วมมือกันให้มากกว่าเดิม
ยกตัวอย่างพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พวกนี้ไม่ได้แค่ปรับตัวตาม แต่พวกเขาสร้างวิธีใหม่ๆ ด้วย ทั้งใช้ AI ใช้จิตวิทยาหลอกลวง แล้วก็ใช้การเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อหนีรอด เราต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ปัญหาเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่มันเป็นปัญหาสังคมที่เราต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐและเอกชน
พลังของการร่วมมือกัน
ปัญหาพวกนี้มันแก้ได้ ทางออกก็คือเราต้องมีระบบที่แข็งแกร่ง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามามีส่วนร่วม ที่สำคัญคือมันไม่ใช่แค่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่ทำคนเดียว แต่เราต้องสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เหนียวแน่น
- ภาครัฐต้องเป็นผู้นำ: หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไทย หน่วยงานกำกับดูแล และโครงการต่างๆ ของรัฐบาลมีบทบาทสำคัญมากในการวางกฎหมาย สืบสวน แล้วก็บังคับใช้กฎระเบียบ ที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่าการที่รัฐบาลร่วมมือกันจัดการพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ มันมีพลังมากแค่ไหน
- ภาคเอกชนต้องร่วมด้วย: อย่างไบแนนซ์ (BINANCE) เราก็เอาประสบการณ์กับทรัพยากรที่เรามีทั่วโลกมาช่วย ทั้งเรื่องการวิเคราะห์บล็อกเชน การตรวจสอบธุรกรรม แล้วก็ระบบความปลอดภัยต่างๆ การที่เราเข้าไปช่วยทางการไทยในคดีสำคัญๆ อย่างปฏิบัติการ Cyber Guardian กับ Trust No One ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนมันได้ผลจริง
- ความร่วมมือระหว่างประเทศ: ภัยไซเบอร์มันไม่สนพรมแดน การที่เราแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด แล้วก็ทรัพยากรกับต่างประเทศ มันสำคัญมากในการทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
- ให้ความรู้: เรื่องการศึกษาและการสร้างความเข้าใจก็สำคัญสุดๆ ไม่ใช่แค่สำหรับนักลงทุน แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแล สมาชิกสภา และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ต้องพัฒนาความรู้เรื่องเทคโนโลยีพวกนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไบแนนซ์เองก็มีการฝึกอบรมให้ความรู้กับทั้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแล้วก็ประชาชนทั่วไปด้วย
การทำงานอย่างหนักของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชนอย่างไบแนนซ์ ทำให้จับกุมและดำเนินคดีกับอาชญากรได้จริงๆ การกู้คืนเงินที่ถูกขโมยไปและการทลายเครือข่ายอาชญากรรมก็แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือพวกนี้มันได้ผล
นอกจากนี้ ความพยายามของเพื่อนร่วมวงการอย่าง T3 Financial Crime Unit ที่อายัดเงินผิดกฎหมายจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ไม่ดีในแถบนี้ ก็เป็นอีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของการร่วมมือกัน
หาทางออกที่สมดุล
ถึงอย่างนั้น การที่เราใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากๆ บางทีมันก็อาจทำให้เกิดปัญหาติดขัดในระยะสั้นได้ แต่การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในระยะยาวมันจำเป็นมาก เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับทุกคน
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจัดการกับเรื่องกฎระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัลที่ซับซ้อน เราก็ได้สร้างกรอบการทำงานที่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคตได้ แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือเราต้องรักษาสมดุลด้วย คือต้องปกป้องผู้ใช้โดยที่ไม่ไปขัดขวางนวัตกรรมใหม่ๆ
มองไปข้างหน้า: สร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ยั่งยืน
ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวของรัฐบาลในการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ และความก้าวหน้าที่สำคัญในการลดความสูญเสียทางการเงิน ประเทศไทยก็ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม และทำให้ระบบนิเวศดิจิทัลแข็งแกร่งขึ้น
ในฐานะอดีตเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ผมเชื่อว่านี่อาจจะเป็นแนวทางใหม่ที่ดี ที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันมากขึ้นในภูมิภาคนี้ การต่อสู้กับอาชญากรรมทางดิจิทัลเป็นการต่อสู้ที่ไม่จบสิ้น เราต้องลงทุนต่อไปในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัย เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน พร้อมส่งเสริมการให้ความรู้ในวงการด้วยความแข็งขัน เราจะสามารถสร้างอนาคตดิจิทัลที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับประเทศไทยและที่อื่นๆ ได้
