‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ นักกีฬาที่จะติดโควิด-19 เป็นคนสุดท้ายของโลก!
เรื่อง: สันทัด โพธิสา
“ตอนนี้โลกของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเอามากๆ ที่ผมจะพูดในวันนี้ ไม่ใช่ในฐานะนักฟุตบอล แต่เป็นในฐานะลูกชาย ฐานะคนเป็นพ่อ และมนุษย์คนหนึ่ง ที่กำลังเป็นห่วงกับผลกระทบที่มีต่อโลก มันสำคัญมาก ที่เราจะต้องทำตามคำแนะนำขององค์กรอนามัยโลก (WHO) และหน่วยงานที่คอยดูแลเรื่องนี้ เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น…”
นี่เป็นส่วนหนึ่งของถ้อยความที่ซูเปอร์สตาร์โลกฟุตบอล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้เผยผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงกีฬาระดับโลกในเวลานี้ สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ได้รุกลามไปสู่ ‘คนกีฬาระดับโลก’ กันหลายต่อหลายราย
จึงเป็นที่มาของการแบ่งปันความห่วงใยของนักเตะเจ้าของฉายา CR7 คนนี้ โดยก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่าเจ้าตัวจะอยู่ในกลุ่ม ‘สุ่มเสี่ยง’ ที่อาจติดเชื้อไวรัสร้ายนี้ไปด้วย เนื่องจากประเทศอิตาลี อันเป็นที่ตั้งของสโมสรยูเวนตุส ต้นสังกัดของโรนัลโด้ ตอนนี้ได้กลายเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของไวรัสอย่างหนัก แถมนักฟุตบอลร่วมสโมสรกับเจ้าตัว อย่าง ดานิเอเล รูกานี ก็ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปแล้ว
ทว่าล่าสุด มีการยืนยันแล้วว่า โรนัลโด้ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ประการใด แต่ต้องอยู่ในการกักตัวเช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวก็เดินทางกลับไปเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ณ ประเทศโปรตุเกส เป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีข่าวลือออกมาว่า นักเตะจอมสับรายนี้ได้เปลี่ยนโรงแรม PESTANA CR7 HOTEL ของตัวเองในโปรตุเกส ให้กลายเป็นโรงพยาบาลเฉพาะกิจ เพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 อีกด้วย
อย่างที่ทราบว่า ไวรัสไม่เลือกคนรวย คนจน คนดัง หรือคนไม่ดัง แถมยังไม่เลือกคนแข็งแรง หรืออ่อนแอ ทว่า หากไวรัสจะมี ‘สมอง’ สักนิด ไวรัสโควิด-19 คงไม่เลือก ‘คนอย่างโรนัลโด้’ เป็นแน่!
ใช่ครับ, มันคงเหนื่อยการเอาเรื่อง เพราะหากจะหานักกีฬาระดับโลกสักคนที่มีร่างกายเข้าขั้นคำว่า ‘เพอร์เฟกต์’ เชื่อว่า หลายคนคงเริ่มต้นสะกดชื่อบุคคลคนนั้นด้วยตัวอักษรนำหน้าว่า C ก่อนจะตามมาด้วยตัวอักษร R ในการขึ้นต้นนามสกุลอย่างแน่นอน
ปัจจุบันเจ้าของฉายา CR 7 หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อายุปาเข้าไป 35 ปีแล้วนะครับ แต่ว่ากันว่า ร่างกายของเขาเหมือนคนอายุ 24-25 ปีแค่นั้นเอง เขาไม่ได้มียาวิเศษ หรือยาผีบอก ประเภทที่กินแล้วเนื้อหนังมังสาไม่เหี่ยวย่น หรือร่างกายฟิตเกินผู้เกินคนหรอกนะครับ
แต่เขามี, มียาส่วนตัวที่เรียกว่า ความขยัน ความมีวินัย และการมีทัศนคติที่ดี
โรนัลโด้ไม่ได้เป็นคนกำยำ แข็งแรง ซิกแพ็กแน่นเอี๊ยดมาแต่อ้อนแต่ออกหรอกนะครับ กลับกัน, เขาเป็นนักกีฬารูปร่างผอมบางเสียด้วยซ้ำไป
“ผมจำได้ตอนผมอายุ 11 ขวบ สมัยอยู่ที่ลิสบอน (สโมสรสปอร์ติง ลิสบอน) ทั้งโค้ชและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ บอกว่า ผมมีฝีเท้าการเล่นที่ยอดเยี่ยมแล้ว แต่ว่าตัวเล็กไป ซึ่งมันก็จริง ตอนนั้นผมตัวเล็กมาก ไม่มีกล้ามและผอมสุดๆ ผมเลยตัดสินใจว่า จะทำงานหนักกว่าคนอื่น เพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแรงกว่านี้”โรนัลโด้เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรูปร่างตัวเองเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
และตอนที่โรนัลโด้ย้ายจากสโมสรสปอร์ติง ลิสบอน ในโปรตุเกส มายังสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของอังกฤษ ตอนนั้นรูปร่างของเขาก็ยังไม่ใหญ่โตสักเท่าไร เวลาวิ่งในสนามก็ยังถูกกองหลังคู่แข่งเตะกลิ้งเป็นลูกขนุนอยู่เป็นประจำ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทะยานไปสู่การเป็นนักเตะชั้นแนวหน้า บวกกับความขยันของตัวเอง จึงทำให้เขาเร่งสร้างกล้ามเนื้ออย่างหนัก
“ผมพยายามหาเวลาออกกำลังกาย เช่น การบริหารกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและแกนกลางลำตัว สิ่งเหล่านี้เราสามารถทำมันได้ในห้องนอน เมื่อตื่นนอนตอนเช้า หรือก่อนจะเข้านอน และเมื่อทำมันทุกๆ วัน จะกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน และมันจะง่ายขึ้นเมื่อเราทำมันจนเป็นนิสัย” โรนัลโด้บอก
เคยมีตัวเลขที่หลายคนเห็นแล้วอ้าปากค้าง บอกว่า ใน 1 อาทิตย์ โรนัลโด้จะต้องซิตอัพให้ได้ประมาณ 1,000 ครั้ง ลำพังแค่หลักร้อย หลายคนยังทำยอดแตะไปไม่ถึงด้วยซ้ำ! แต่หากมองข้ามตัวเลขเหล่านี้ไป สิ่งที่นักเตะคนนี้ทำ คือภาพสะท้อนของการมีวินัยชั้นดี เขาเคยบอกว่า การมีวินัยในการดูแลตัวเอง พยายามกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอ และทำเป็นกิจวัตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดคือกุญแจสำคัญที่ทำให้สภาพร่างกายเป็นไปอย่างที่ต้องการ
“สำหรับผม ไม่มีที่ว่างสำหรับการผ่อนผัน” โรนัลโด้บอก
นอกจากปัจจัยสำคัญเรื่องความขยัน มีวินัย อีกปัจจัยที่ทำให้เขามาได้ถึงขนาดนี้ นั่นคือ การมีทัศนคติที่ดีร่วมด้วย โรนัลโด้เป็นคนใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลตัวเองอย่างมาก เชื่อไหมว่า เขาไม่เคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ตลอดทั้งชีวิต!
กลับกัน, เขาดื่มน้ำเปล่าเป็นสรณะ ดื่มมากกว่าคนอื่น รวมทั้งต้องนอนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะคืนก่อนที่จะลงแข่งขัน รวมถึงเลือกกินอาหาร และต้องกินให้ได้วันละ 6 มื้อ เพื่อให้แน่ใจว่า มีพลังงานให้ร่างกายเพียงพอต่อการออกกำลัง
“หัดฝึกฝนทั้งจิตใจและร่างกาย ความแข็งแกร่งของจิตใจสำคัญเท่ากับความแข็งแรงของร่างกาย สิ่งนี้จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ”
ว่ากันมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนจะไม่มีจุดไหนเลยที่แลดูจะเป็น ‘เคล็ดลับ’ ที่นักเตะคนนี้มี ‘เหนือกว่า’ คนอื่น เอาเข้าจริง มันดูพื้นฐาน-เบสิคเอามากๆ ซึ่งใครๆ ก็หาข้อมูลทำนองนี้ได้กันทั้งนั้น แต่ประเด็นมันอยู่ที่…เราทำไม่ได้เหมือนกันกับเขา
โดยเฉพาะเรื่องความขยัน ความมีวินัย และทัศนคติที่ดี
ซึ่งผู้ชายคนนี้มาเต็ม! และที่สำคัญ มาแบบไม่เคยลดมาตรฐานลงเสียด้วย…
เคยมีนักข่าวชาวสเปน นามว่า ซานติอาโก เซรูโกลา ได้นิยามการดูแลร่างกายของโรนัลโด้ ว่าคล้ายกับการดูแลรถเฟอร์รารี่ กล่าวคือ เขาเติมเชื้อเพลิงที่เหมาะสม ดูแลทั้งรูปลักษณ์และเครื่องยนต์อย่างดีและชาญฉลาด เพื่อให้มันสามารถแสดงสมรรถนะสูงสุดได้ตลอดเวลา
รถดี ราคาสูง เพราะมีชิ้นส่วนและอะไหล่ที่เป็นเลิศ ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์สักคน หากมูลค่าของเขาจะสูงเกินคนทั่วไป ก็ไม่แปลกอะไร หากเราจะเห็นรูปลักษณ์ภายนอกของเขา ‘แตกต่าง’ จากคนอื่นๆ
นี่ขนาดยังไม่สแกนดูภายในว่าปึ้กขนาดไหนนะครับ ถึงได้บอกว่า ถ้า ‘โควิด-19’ คิดจะทะลุทะลวงร่างกายผู้ชายคนนี้ อาจต้องรวมพรรคพวกเยอะสักหน่อย โอเค, โควิด-19 อาจไม่เลือกคนรวย คนจน หรือคนแข็งแรง คนอ่อนแอ และคงไม่รู้จักคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นการส่วนตัว แต่หากจะพูดอะไรกับไวรัสได้ เราก็คงอยากจะบอกว่า…
‘ช่วยไปไกลๆ จากผู้ชายคนนี้เหอะ สเป็กแบบนี้ โลกนี้ไม่ได้มีกันง่ายๆ นะว้อย!’