fbpx

ถ้าโควิด-19!…จะทำให้รถแห่ (แชมป์) คว่ำเสียก่อน!

เรื่อง: สันทัด โพธิสา

จากที่เป็นแค่การตั้งข้อสังเกต ถึงเวลานี้ ชักจะกลายเป็นเรื่องที่กำลังพูดถึงกันอย่างจริงจังเสียแล้วละครับ ประเด็นเรื่องของการก้าวขึ้นเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของสโมสรลิเวอร์พูล…

สำหรับเรื่องลุ้นแชมป์ ตอนนี้คงไม่ต้องไปพูดถึงให้มากความ เพราะขอแค่ชนะอีกแค่ 4 นัดต่อจากนี้ ลิเวอร์พูลก็จะสิ้นสุดการรอคอย 30 ปีอันยาวนาน หลังจากคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 อังกฤษหนสุดท้ายเมื่อปี 1990

แต่! ประเด็นร้อนในขณะนี้ ที่แม้แต่สื่อที่อังกฤษเอง ก็เริ่มเล่นข่าวนี้กันใหญ่โตแล้ว นั่นคือ หากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา หรือเจ้าโควิด-19 ลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้ เป็นไปได้ว่า พรีเมียร์ลีกปีนี้จะยุติลงก่อนจบฤดูกาล นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูลจะไม่ได้รับถ้วยแชมป์?!

นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ในโลกกีฬา ไม่ได้กล่าวกันเกินจริงไป เพราะอย่างที่รู้กัน ลิเวอร์พูลมีแฟนบอลที่ติดตามกันไม่น้อย อย่าเรียกว่าไม่น้อยดีกว่า เรียกว่ามีทั่วโลก ลำพังแค่แฟนๆ ในเมืองไทย ก็น่าจะครองใจอันดับ 1 ทีมฟุตบอลต่างประเทศของเมืองไทยแล้วละครับ

ย้อนกลับมาที่เส้นทางสู่แชมป์สักนิด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลไปแพ้วัตฟอร์ด 0-3 ทำให้ต้องรอคอยการเข้าป้ายแชมป์ลีกอีก 4 นัดเท่าเดิม นับไล่เรียงไปจากนี้คือ วันที่ 7 มีนาคม 63 พบสโมสรบอร์นมัธ วันที่ 17 มีนาคม 63 พบสโมสรเอฟเวอร์ตัน วันที่ 22 มีนาคม พบสโมสรคริสตัล พาเลซ และวันที่ 5 เมษายน จะบุกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถ้าชนะทั้งหมด ก็จบข่าว ฉลองแชมป์ได้

ไม่ได้สิครับ! เพราะนั่นคือภาคทฤษฎี แต่หากเป็นภาคปฏิบัติ ลิเวอร์พูลจะต้องไปเล่นนัดสุดท้ายของฤดูกาล ในวันที่ 17 พฤษภาคม พบกับสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ให้เรียบร้อยเสียก่อน และพอจบจากนัดนั้น ในวันที่ 18 พฤษภาคม ตามหมายกำหนดการจะเป็นการนำถ้วยแชมป์ขึ้นรถแห่ฉลองไปรอบๆ เมืองลิเวอร์พูล

ทว่า ถึงตอนนี้ มีเงื่อนไขที่รถแห่จะไม่ได้ออกตัว ประการแรก อย่างที่เล่าไปตอนต้น หากทางผู้จัดการแข่งขันที่อังกฤษ พิจารณาแล้วว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่น่าไว้วางใจ อาจมีการประกาศยุติการแข่งขันได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3-4 อาทิตย์ต่อจากนี้ และประการต่อมา ในกรณีที่สถานการณ์ยังทรงๆ ต่อไปแบบนี้ ลิเวอร์พูลอาจจะได้รับถ้วยแชมป์ก็จริง แต่เมื่อถึงวันนั้น (เดือนพ.ค.) ก็อาจมีมาตรการคุมเข้มเรื่องการห้ามชุมนุมของผู้คนทั่วโลกออกมาก็เป็นได้ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของโรค

แน่นอนว่า ไม่ว่าจะออกเหลี่ยมใด สโมสรและแฟนบอลคงเซ็งไปตามๆ กัน นี่ยังไม่นับบรรยากาศชวนกร่อย ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ที่จะมีการฉลองแชมป์ที่เมืองลิเวอร์พูล คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนบอลหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ ปีก่อนที่ลิเวอร์พูลแห่ฉลองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังมีผู้คนเข้ามาร่วมงานราว 700,000-800,000 คน ถ้าหากเป็นเป็นการฉลองแชปม์พรีเมียร์ลีกที่รอคอยมายาวนานแบบนี้ ไม่ต้องสืบเลยว่า ผู้คนเดินทางมารวมตัวกันเป็นล้านแน่นอน

ก่อนหน้านี้มีรายงานค่าที่พักในเมืองลิเวอร์พูล โดยเฉพาะจุดที่รถแห่จะผ่านมาทางที่พัก ราคาค่าห้องโรงแรมแบบถูกที่สุด เบาะๆ อยู่ที่ราว 9,999 ปอนด์ หรือประมาณ 400,000 กว่าบาท ส่วนที่พักที่แพงที่สุด ถีบตัวขึ้นไปสูงถึง 20,000 กว่าปอนด์ (ต่อคืน) หรือประมาณกว่า 800,000 บาทกันเลยทีเดียว ส่วนราคาค่าตั๋วในนัดสุดท้ายที่จะเล่นในบ้าน พบกับสโมสรเชลซี วันที่ 9 พฤษภาคม ราคาถูกสุดอยู่ที่ 975 ปอนด์ หรือประมาณ 40,000 บาท และแพงสุดอยู่ที่ 5,250 ปอนด์ หรือประมาณ 215,250 บาท แต่เมื่อถึงเวลานั้น ราคาอาจจะพุ่งทะยานไปแตะหลัก 10,000 ปอนด์ หรือประมาณ 410,000 บาทได้เลย

แต่ที่ว่ามาทั้งหมด อาจไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ถ้าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น และทางผู้จัดการแข่งขันประกาศ ‘ยุติ’ ซึ่งเรื่องนี้มีแฟนบอลหงส์แดงหลายฝ่ายได้ออกมาแสดงความคิดเห็น บ้างเสนอว่า ถ้าอีก 4 นัดได้แชมป์ ก็จัดการรับถ้วยแชมป์ไปเสียเลย หรือยื้อเตะกันไปให้จบ 4 นัดต่อจากนี้ ถ้าผลออกมาว่าได้แชมป์ หากมีสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจจริงๆ ก็เก็บถ้วยแชมป์ไปมอบกันตอนเปิดฤดูกาลหน้าก็ได้

แต่เรื่องเหล่านี้ ก็จำเป็นต้องดูกันที่ภาพรวมและทิศทางของลีกฟุตบอลในยุโรป หรือภาพรวมของฟุตบอลทั้งโลกด้วย เพราะตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ฟุตบอลลีกทั้งโลกแข่งขันกันหมด การประกาศสภาวะฉุกเฉินในเรื่องหนึ่งเรื่องใด อาจมีผลบังคับใช้ร่วมกันทั้งหมด ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องราว ‘ระดับโลก’ ที่ผู้คนในโลกล้วนประสบชะตากรรมเดียวกัน

ถึงเวลานี้ ถ้าจะแทนใจสาวกหงส์แดง คงได้แต่ภาวนาและจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ถ้าจบ 4 นัดจากนี้แล้วชนะทั้งหมด เกิดทางการเขาจะยุติจริงๆ ก็เอาเป็นว่า แฟนๆ ช่วยจัดจำลองการฉลองแชมป์กันเองในบ้านแล้วกัน ถึงจะเล็กๆ แต่ก็ยิ่งใหญ่ในหัวใจแฟนหงส์แล้วละ อ๊อ! อย่าลืมล้างมือ ทำตัวให้สะอาดในตอนฉลองแชมป์ด้วยแล้วกันนะครับ…

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ