ดร. อัจฉรา จุ้ยเจริญ โค้ชและวิทยากรคิวทอง แห่งแอคคอมกรุ๊ป Chief Learning Officer ที่คว้ารางวัลในระดับสากลด้าน Learning & Development และ Coaching มาอีกหลายรางวัลในปีนี้ วันนี้ GM Live ได้พูดคุยกับเธออีกครั้ง
ดร. อัจฉรา เล่าให้เราฟังถึง Modern Corporate Training และความสำคัญของการให้อิสรภาพในการเรียนรู้ (Freedom to learn) ที่ต้องนำไปสู่การปฏิบัติ (Turn to actions) และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous learning)
Lifetime Learning Partnership
ในโลกของความรัก การตัดสินใจเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย ในโลกธุรกิจ การเลือกบริษัทสักแห่งมาเป็น Lifetime Partner ยิ่งยากกว่า
แอคคอมกรุ๊ป (AcComm Group) กลุ่มบริษัทที่ให้บริการด้านการพัฒนาองค์กร วัฒนธรรมองค์กร พัฒนาผู้บริหาร บุคลากร พัฒนาทีมงาน และสร้างความพร้อมให้กับองค์กรและทีมงานในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง
ด้วยความสำเร็จตลอดสิบสามปีที่ผ่านมา ลูกค้าของแอคคอมกรุ๊ป จึงเลือกกลับมาใช้บริการของแอคคอมกรุ๊ปอย่างต่อเนื่องเสมอมา และมักจะเรียกแอคคอมกรุ๊ปว่าเป็น Lifetime Partner
ดร. อัจฉรา จุ้ยเจริญประธานบริหารด้านการเรียนรู้ และกรรมการผู้จัดการ แอคคอมกรุ๊ปฯ บุกเบิกและก่อตั้ง บริษัทแอคคอม แอนด์อิมเมจ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (AcComm & Image International) ในปี พ.ศ. 2548 และเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นในด้านการพัฒนาภาวะผู้นำของลูกค้า โดยเฉพาะผู้นำรุ่นใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมให้กลุ่มนี้มีความสำเร็จและมีความสุขในการเป็นผู้นำในวันข้างหน้า และการพัฒนา Agile Leaders จึงก่อตั้งบริษัท ลีดเดอร์ชิพแอนด์โค้ชชิ่ง โซลูชั่น จำกัด (Leadership & Coaching Solutions) เมื่อสามปีที่ผ่านมา
เมื่อช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา จึงได้เริ่มสื่อสารภาพของแอคคอมกรุ๊ป ที่หมายถึงทั้งสองบริษัท และพันธกิจของแอคคอมกรุ๊ปให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Simple, Practical and Freedom to Learn
การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ทำให้การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาเป็นเรื่องง่ายขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้น
ดร. อัจฉรา จุ้ยเจริญ เล่าว่า “ที่ผ่านมางานเราแน่นมาก เลยทำงานกันสนุกจนเพลิน และลืมไปว่าเราไม่ค่อยได้สื่อสารบริการใหม่ๆที่เรานำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
“สิ่งที่เราเน้นมากขึ้นคือ การเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ที่ใช้หลากหลาย Platforms มากขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายในการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรอย่างทันกาล และเพิ่มอิสระในการเลือกหัวข้อ เวลา และระยะเวลาในการเรียน”
“ลูกค้าที่ยังสนใจการเรียนรู้เต็มรูปแบบ ที่เราเรียกว่า Formal Learning ยังมีอยู่ต่อเนื่อง เพราะบางหัวข้อมีความสำคัญต่ออนาคตขององค์กรมาก ลูกค้าจึงอยากให้ใช้เวลาในการเรียนรู้อย่างเป็นทางการ และได้มีการฝึกปฏิบัติและให้ Feedback กับผู้เข้าร่วมอย่างเต็มที่ มีการประเมินและทดสอบก่อนและหลัง ซึ่งเรียนในห้องหรือเรียนบน E-learning Platform สลับกันไปก็ได้”
“ลูกค้าที่สนใจจะปรับรูปแบบให้แปลกใหม่ ก็มักให้เราออกแบบการเรียนรู้แบบ Informal Learning เช่น กิจกรรมแลกเปลี่ยนในกลุ่ม การใช้กิจกรรม Simulations, Adaptive Learning, หรือ Small Group Coaching ซึ่งใช้เวลาครั้งละไม่เกินสองชั่วโมง หรือการเรียนรู้ผ่าน Microlearning ของเรา ซึ่งใช้เวลาเพียงสามถึงห้านาทีต่อคลิปวีดิโอ ทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้บน Mobile Devices อีกด้วย”
“รูปแบบที่สามคือ Learning Reinforcement ซึ่งใช้กระบวนการของแอคคอมกรุ๊ป ที่สนับสนุนในการนำความรู้และทักษะ ไปสู่การปฏิบัติ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่วัดผลได้”
E-Learning ที่คัดสรรมาให้ลูกค้ามีข้อดีอย่างไร
“E-Leaning” ที่แอคคอมกรุ๊ปใช้อยู่ปัจจุบันเกิดจากการที่เราไป เสาะหา ทดลอง เพื่อนำมาใช้กับคนภายในบริษัทของเรา เราจึงได้ทดลองการใช้งานและประสิทธิผลให้มั่นใจเองก่อน จากนั้นก็สอบถามความคาดหวังของลูกค้าและได้ลองให้ลูกค้าใช้งาน และในที่สุดเราก็เลือกพาร์ทเนอร์ที่ตอบโจทย์ได้ดีมาก 65% ขององค์กรที่ติดอันดับ Fortune 500 เลือกใช้บริการจาก Platform นี้ มีคอร์สเรียนประมาณ 165,000 คอร์ส มีวิชาที่ทันสมัยและเกี่ยวข้องกับธุรกิจและ Competencies ในการปฏิบัติงานโดยตรง”
มีคนใช้มากน้อยขนาดไหน
ปัจจุบันมีคนเรียน 130 ล้านคนต่อเดือนจากทั่วโลก คนที่เรียนมาจากทั้งหมด 160 ประเทศ ภาษาที่ใช้ในระบบมี 29 ภาษา มีการนำเสนอเนื้อหากระชับ เข้าใจง่าย มีทั้งแบบ Micro สั้นๆ ชุดเล็กๆ และ Macro ขนาดยาว เป็นแพลตฟอร์มที่ฉลาดมาก มีการแนะนำระหว่างเรียนว่าเราควรเรียนอะไรเพิ่มเติม ที่สำคัญแพลตฟอร์มนี้มีการสำรวจจากผู้ใช้งานว่าผู้เรียนนำความรู้ที่เรียนไปใช้งานได้ภายใน 6 สัปดาห์ ซึ่งการเลือกพาร์ทเนอร์ที่จะมาเติมความรู้ทักษะให้ลูกค้าของแอคคอมกรุ๊ปนั้น เราไม่ได้เลือกจากบริษัทที่ชื่อเสียงโด่งดัง แต่เราจะดูข้อแรกคือมี Research back up จริงไหม สองมีใครเป็นลูกค้าที่ใช้งานเขาอยู่บ้าง และมีการ Update หรือเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ ตลอดเวลาหรือไม่ และใช้ได้ง่ายบน Mobile Devices หรือไม่”
Learning Agility
ทำไมคนทำงานยุคนี้ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เป็นคำถามที่ดร. อัจฉราไขข้อข้องใจได้อย่างชัดเจนว่า “สมรรถนะที่สำคัญด้านหนึ่งขององค์กรในปัจจุบันคือมี Learning Agility หมายถึงความคล่องตัว ยืดหยุ่นในการเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ตลอดเวลา ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีบุคลากรที่รักการเรียนรู้อยู่เสมอ ไม่ปิดกั้นสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ถ้าคนรักการเรียนรู้ ก็จะช่วยให้องค์กรสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ดี ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆได้ ช่วยองค์กรลดต้นทุนการบริหารจัดการ ช่วยคิดและออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าได้ และเมื่อองค์กรมีความสำเร็จที่ยั่งยืน คนทำงานในองค์กรก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน และนี่เป็นโอกาสให้บุคลากรได้ Upskill และ Reskill ตนเองอีกด้วย อย่างไรก็ตามองค์การที่สนับสนุนบุคลากรด้วยเครื่องมือที่ดี ก็จะทำให้การปรับตัวต่างๆเป็นเชิงบวก และรวดเร็ว”
แอคคอมกรุ๊ป กำลังจะจัดงาน AcComm Group Open House 2019 ในวันที่ 20 มิถุนายน 2562 นี้ เพื่อสาธิตและบรรยายเพิ่มเติมเรื่อง Learning & Development Trends ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ ซึ่งจะเปิดรับลงทะเบียนเข้าฟังเร็วๆนี้ สนใจติดตามข้อมูลได้ที่ www.aclc-asia.com
