การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board) ร่วมกับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) ครีเอทีพเวิร์คส (CreativeWorks) เปิดตัวแคมเปญ อันซีนสิงคโปร์ (UNSEEN/SINGAPORE) นำเสนอประเทศสิงคโปร์ในมุมมองใหม่ที่นักท่องเที่ยวไม่เคยได้สัมผัส ฐานะจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวผ่านมุมมองจากช่างภาพชื่อดังของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการนำเสนอผ่านทางภาพถ่าย โดยแคมเปญนี้จะมีการจัดแสดงผลงานภาพถ่ายเสมือนจริง เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสและเปิดประสบการณ์ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวลับต่างๆ เพื่อค้นพบกับความงดงามแบบอันซีนของประเทศสิงคโปร์ “เรามุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังสิงคโปร์ได้ค้นพบกับความสนุกสนานจากการท่องเที่ยวอีกครั้ง ทางหนึ่งก็คือการนำเสนอประเทศของเราในมุมมองใหม่ที่แตกต่าง ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เห็นความสดใหม่ผ่านสายตาของคนอื่น แคมเปญอันซีนสิงคโปร์ (UNSEEN/SINGAPORE) จึงใช้การมองผ่านเลนส์ของช่างภาพที่มีพรสวรรค์จากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มาเล่าเรื่องราวการเดินทางและการค้นพบของพวกเขาผ่านทางภาพถ่าย เราหวังว่าพวกเขาจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ให้มาค้นพบสิงคโปร์อีกครั้ง” นายจอห์น เกรกอรี่ คอนเซเซา ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว แคมเปญอันซีนสิงคโปร์เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา โดยแสดงคอลเลกชันภาพถ่ายผ่านนิทรรศการเสมือนจริง ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นผลงานของช่างภาพทั้ง 6 ท่านจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย เวียตนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ การรวบรวมผลงานคอลเลกชันในแคมเปญอันซีนสิงคโปร์ ช่างภาพแต่ละท่านได้เดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์ในช่วงกลางปี 2565 เพื่อถ่ายภาพที่มีทั้งภาพธรรมชาติ ตึกเก่า โบราณสถาน และสถานที่ทางวัฒนธรรมและศิลปะต่างๆ ช่างภาพแต่ละคนได้นำเสนอมุมมองสุดอันซีนจากสิงคโปร์ในสไตล์ของตัวเอง […]Read More
กล่าวกันถึงบทบาทของ ‘ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์’ แล้วนั้น โดยหลักยึดปฏิบัติโดยทั่วกันตามที่เข้าใจ คือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชน สร้างความปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกลโจรผู้ร้าย และทำให้แน่ใจ ว่าจะไม่มีเหตุเภทภัยใดๆ เกิดขึ้น รบกวนความสงบสุขของบ้านเมือง แต่ในอีกทางหนึ่ง ถ้าแต่ไหนแต่ไรมา ผู้ใหญ่ใช้คำขู่เด็กดื้อว่า ‘ถ้ายังไม่หยุดดื้อ จะให้ตำรวจมาจับ!’ คือสิ่งที่ได้ยินกันคุ้นชินหู บทบาทของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ที่กล่าวไปข้างต้น ก็คงจะไม่ได้เป็นไปตามอุดมคติมากนัก…. แต่ก็อย่างว่า เช่นเดียวกับทุกองค์กร ทุกหน่วยงาน มีดีมีเลวปะปนกัน แม้ว่าองค์กรที่ขึ้นชื่อว่าตำรวจ มันควรจะต้อง ‘ดี’ กลบ ‘เลว’ จนเป็นเรื่องสามัญ แต่ภาพจำของประชาชน ความเชื่อใจที่มีต่อหน่วยงานนี้ ก็ดูน้อยต่ำ เรียกว่าถ้าไม่เข้าไปข้องแวะกันได้มากเท่าไร ก็น่าจะดีกับชีวิตและสวัสดิภาพมากเท่านั้น ข่มขู่ รีดไถ ใช้กำลังเกินขอบเขตอำนาจ วางท่าบาตรใหญ่ สารพัดวิสัยตำรวจไทย (และตำรวจประเทศอื่นๆ ในบางส่วน…) จะสาธยายความ และความงามหน้าก็ได้บังเกิด และสร้างความเสื่อมเสียให้กับตำรวจไทย และประเทศชาติขึ้นมาอีกหน คราวนี้ ดังปังฟังชัดยาวไกลไปต่างแดน และอาจจะทั่วโลก ที่ชัดยิ่งกว่าเดิม ถ้าตามข่าวในรอบสัปดาห์กว่าๆ ที่ผ่านมา น่าจะพบว่า กรณีของนักแสดงสาวชาวไต้หวัน […]Read More
มอนซูน แวลลีย์ ไร่องุ่นทำไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ต้นกำเนิดไวน์มอนซูน แวลลีย์ ไวน์ไทยที่ได้รับเหรียญรางวัลระดับสากลมากที่สุดของประเทศไทย ฉลองครบรอบ 20 ปีในปีนี้ พร้อมใช้โอกาสสำคัญดังกล่าวในการเปิดตัวไวน์ “องุ่นพันธุ์แมร์โลต์” เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย พร้อมเปิด “ศูนย์การเรียนรู้ไวน์รูปแบบใหม่” และอวดโฉมร้านอาหาร “เดอะ ศาลา” ซึ่งทำการปรับปรุงใหม่เป็นที่เรียบร้อย ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 300 ไร่ ปัจจุบันมีการปลูกปลูกองุ่นมากกว่า 10 สายพันธุ์ สามารถผลิตไวน์มอนซูน แวลลีย์ ได้มากกว่า 300,000 ขวดต่อปี จำหน่ายในประเทศไทยในสัดส่วน 70% และส่งออกขายไปยังต่างประเทศในสัดส่วน 30% ครอบคลุมประเทศอังกฤษ เยอรมันนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย นายวาริท อยู่วิทยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด กล่าวว่า ปี 2565 เป็นเครื่องหมายแห่ง 2 ทศวรรษความสำเร็จของมอนซูน แวลลีย์ “ในโอกาสพิเศษปีนี้ เราได้เปิดตัวศูนย์การเรียนรู้ไวน์รูปแบบใหม่ […]Read More
“ซีเอ็นเอ็น” (CNN) ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ ยกให้ กรุงเทพมหานคร เป็น 1 ใน10 เมืองเด่นของโลก และการแสดงพลุตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยาของงาน Amazing Thailand Countdown ณ ไอคอนสยาม เป็นสถานที่ที่ผู้คนทั่วโลกต้องปักหมุดร่วมนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ ตอกย้ำให้ไอคอนสยามเป็น Global Countdown Destination หนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่เป็นแลนด์มาร์กของการฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีสุดยิ่งใหญ่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ เพื่อสร้างความทรงจำและความประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งเทียบเท่ามหานครอื่นทั่วโลก ได้แก่ ซิดนีย์, ไทเป, ดูไบ, เคปทาวน์, โรม, ลอนดอน, ริโอ เดอ จาเนโร, นิวยอร์ค และลาสเวกัส ไอคอนสยาม สร้างมหาปรากฎการณ์งานเคานต์ดาวน์ระดับโลก นำประเทศไทยสู่เวทีโลกอีกครั้ง กับ “Amazing Thailand Countdown 2023” ผนึกกำลังความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น ภาครัฐ ภาคธุรกิจโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และชุมชน เนรมิตให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย […]Read More
หนาวนี้มีวันหยุดไม่ยาวอยากเดินทางไปพักผ่อนสัมผัสอากาศหนาวแบบชิลล์ๆ ไต้หวัน น่าจะเป็นประเทศที่ตอบโจทย์มากที่สุดด้วยชื่อเสียงในเรื่องอาหารที่มีให้เลือกหลากหลายทั้งของคาวและของหวาน สถานที่ท่องเที่ยวตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม และยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่าง “ออนเซ็น” ที่มีทั้งน้ำพุร้อนและน้ำพุเย็นธรรมชาติให้เลือกตามความต้องการ โดยน้ำพุร้อนเกิดจากความร้อนจากใต้ดิน รวมถึงแร่ธาตุดีหลายชนิดที่มีอยู่ทั่วเกาะ ในไต้หวันเองมีบ่อน้ำพุร้อนกว่า 100 แห่ง กระจายอยู่ในเกือบทุกเมือง จนไต้หวันได้รับสมญานามว่าเป็น “อาณาจักรแห่งบ่อน้ำพุร้อน” โดยคุณสมบัติของบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ จะเปี่ยมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ เมื่อได้ลงไปแช่หรือสัมผัสจะช่วยในการฟื้นฟูสุขภาพกาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ลดความเหนื่อยล้าและความเครียดได้ และน้ำแร่บางชนิดมีคุณสมบัติในการรักษาโรคบางอย่างได้ ในทุกๆ ปี ไต้หวันจะมีปฏิทินการท่องเที่ยวประจำเดือน เพื่อนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดูกาล หนึ่งในเทศกาลท่องเที่ยวประจำปี ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว คือ เทศกาลแช่บ่อน้ำพุร้อนและอาหารเลิศรส (Hot Spring & Fine-Cuisine Carnival) ที่เป็นการผสมผสานระหว่างการดูแลรักษาสุขภาพด้วยน้ำพุร้อน และการทานอาหารที่ดีเข้าด้วยกัน โดยจะจัดในช่วงเดือนกันยายน – มิถุนายนของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ที่อากาศค่อย ๆ เย็นลง จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การแช่บ่อน้ำพุมากที่สุด สำหรับฤดูกาลนี้การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ขอแนะนำ 3 แหล่งบ่อน้ำพุจากธรรมชาติที่คนไทยไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวที่ไต้หวัน สายเฮลธ์ตี้ฟินแตกกับน้ำพุเย็น แรร์เดสทิเนชันหายาก น้ำพุเย็นซูเอ้า […]Read More
สิ้นสุดการรอคอยที่แสนยาวนาน ในที่สุด Avatar: The Experience ก็พร้อมพาคุณเปิดประสบการณ์ท่องไปในโลกเสมือนจริงแห่งดาวแพนดอร่า ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ณ คลาวด์ ฟอเรสต์ (Cloud Forest) การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ที่ทำเงินทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลอย่าง อวตาร (The Avatar) นิทรรศการ Avatar: The Experience มาพร้อมระบบแสงสีเสียงสุดอลังการที่พร้อมพาคุณท่องไปกับ 5 โซนในโลกเสมือนจริงของดินแดนแพนดอร่า เปิดโอกาสให้คุณมีปฏิสัมพันธ์กับโครงสร้างต่างๆ ที่สร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นแบนชีขนาดเท่าตัวจริง รวมถึงลูกๆ แบนชี และไวเปอร์วูฟ ท่ามกลางบรรยากาศโดยรอบที่ถูกเนรมิตรขึ้นมาเสมือนคุณคือชาวนาวีที่หลุดไปอยู่ในโลกแห่งภาพยนตร์อวตารอย่างแท้จริง และที่พิเศษสุดคือการเปิดตัวละครในภาพยนตร์อวตารภาคใหม่ Avatar: The Way of Water เป็นครั้งแรกอีกด้วย เคธี่ แฟรงคลิน ประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ของไลท์สตอร์ม (Lightstorm’Read More
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดทิศทางการตลาดในปี 2566 ให้เป็นปีแห่งการเริ่มต้นและพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย นำเสนอ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ททท. เป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่ามุ่งสู่ความยั่งยืน” เตรียมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูในทุกมิติ พร้อมจัดทำภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบมิวสิควีดีโอ ชุด “เที่ยวนี้…ต้องดีกว่าเก่า” กับบทเพลงฮิตในตำนาน “ต้องดีกว่าเก่า” ของ ตั้ม สมประสงค์ มา Re-arrange และขับร้องใหม่โดย “เอ๊ะ จิรากร” โดยมิวสิควีดีโอดังกล่าวได้มีการปรับซาวน์ดนตรีใหม่ ปรับแต่งเนื้อร้องใหม่ พร้อมถ่ายทอดความสนุกสนานและสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวไทย นำแสดงโดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ททท. สมาคม สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมด้วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกภาคส่วน อาทิ โรงแรม สายการบิน บริษัทนำเที่ยว ภัตตาคาร รวมพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยพร้อมตอกย้ำความร่วมมือของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันการเที่ยวเมืองไทยให้ดียิ่งขึ้น พร้อมปลุกพลังคนไทยทั้งประเทศให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศด้วยการเชิญชวนคนไทยทุกคนมาช่วยกันทำให้การเที่ยวเมืองไทยให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมมาช่วยกันดูแลและเป็นเจ้าบ้านที่ดีเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีมีคุณภาพและที่สำคัญเป็นการแสดงความ พร้อมของภาคเอกชนในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีกว่าเดิมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า“ขณะนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเริ่มมีแนวโน้มในการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องด้วยประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในการดึงนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศสูง ทั้งนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ สร้างความพร้อม ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง และต้อง ดีกว่าเก่า […]Read More
ถ้าให้นึกถึงประเทศสิงคโปร์ เชื่อว่าหลายคนจะคิดถึงภาพของเมอร์ไลอ้อนเหมือน ๆ กัน ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองสิงคโปร์ แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่สงสัยถึงความเป็นมาของเจ้าสิงโตทะเลตัวนี้ไม่มากก็น้อย วันนี้เราจะพาคุณ ๆ ไปทำความรู้จักกับประวัติของสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับสิงคโปร์มาอย่างยาวนานให้มากขึ้นกัน จุดกำเนิดของเมอร์ไลอ้อนนั้น ไม่ได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่มีตำนานเล่าขานกันถึงที่มาของเมอร์ไลอ้อนว่า เจ้าชายแสง นิลา อุตามา แห่งเมืองพาเล็มบัง (ประเทศอินโดนีเซีย) ผู้ค้นพบท่าเรือสินค้าเก่าแก่ของเมืองเทมาเส็ก ได้เห็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายสิงโตตอนที่มาถึงเกาะแห่งนี้ จึงตั้งชื่อเมืองแห่งนี้ขึ้นใหม่ว่า สิงหปุระ หรือสิงคโปร์ในปัจจุบัน ซึ่งมีรากศัพท์จากภาษาสันสกฤตคำว่า “สิงห์” และ “ปุระ” ซึ่งแปลว่า เมืองสิงห์ และได้ขนานนามอีกชื่อว่า “เมอร์ไลอ้อน” ที่เกิดจากคำว่า “Mer” ที่แปลว่า ทะเล และ Lion ที่แปลว่า สิงโต ต่อมาในปี 2507 สัตว์ในตำนานที่มีหัวเป็นสิงโต และมีลำตัวเป็นปลา ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นโลโก้ให้กับการท่องเที่ยวสิงคโปร์ โดยการออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากความเป็นหมู่บ้านชาวประมง (Fishing Village) รวมกับสิงหปุระ (Lion City) เพื่อเป็นการรำลึกถึงช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่เกาะแห่งนี้ได้ถูกค้นพบ โลโก้เมอร์ไลอ้อน ได้จดทะเบียนการค้าเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. […]Read More
ในบรรดาประเทศเกิดใหม่แถบยุโรปตะวันออก ที่แยกตัวออกมาจากการแตกสลายของสหภาพโซเวียต และการจบสิ้นของสงครามเย็นและพังทลายของกำแพงเบอร์ลินนั้น ชื่อของ ‘เอสโตเนีย’ น่าจะเป็นหนึ่งในดินแดนที่กำลังมาแรงและเป็นที่กล่าวถึงที่สุดในชั่วโมงนี้ จากหลายเหตุผล และปัจจัยประกอบกัน ประเทศขนาดเล็ก จำนวนประชากรไม่มาก พื้นที่ย่อมเยาพอเดินทางทั่วได้ในหนึ่งวัน สามารถสร้างตัวตนและพละกำลังทางเศรษฐกิจด้วยการประยุกต์และโอบรับเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT เข้าเป็นกระดูกสันหลัง พัฒนาให้ประชากรรุ่นใหม่มีความเป็น ‘Technology Native’ และ ‘Global Citizen’ ที่พร้อมออกไปสู่และสู้กับตลาดโลกได้อย่างเท่าทัน ท่วงที และอาจหาญ พร้อมสาธารณูปโภคพื้นฐานที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ล้ำหน้า มีความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ ผลผลิตมวลรวมประชาชาติของเอสโตเนีย จากการวางรากฐานในอดีต เพียงระยะเวลาสองทศวรรษ ออกดอกผลสมใจหมาย กลายเป็นหนึ่งในกำลังขับเคลื่อนและที่หมายสำคัญของเหล่านักลงทุน ผู้ประกอบการ และธุรกิจไอทีขนาดย่อม เพราะขอแค่เพียงมีบริษัทที่เป็นตัวเป็นตน การจดทะเบียน ‘ประชาชนไซเบอร์’ หรือ ‘e-Estonia’ ด้วยชุดสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องมีสถานที่ตั้งในประเทศก็ยังไหว เป็นใครก็จ้องมองประเทศเกิดใหม่นี้ตาเป็นมัน แต่ในอีกด้านหนึ่ง … เอสโตเนียก็ยังคงบุคลิก และเอกลักษณ์ของความเป็นชาติ ‘ยุโรปตะวันออก’ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน จนหลายครั้ง แตกต่างจากภาพที่แสดงให้เห็น และทำให้ผู้ไปเยือน เกิดอาการ ‘Culture […]Read More
เรื่อง: อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ บ่อยครั้งที่ผมเจอกับคำถามว่า..หากจะไปเที่ยวประเทศใกล้ๆ แต่ได้รสชาติอะไรที่แปลกใหม่ควรจะไปประเทศไหน ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้เวลานี้…ผมตอบแบบที่ไม่ต้องคิดเลย คือ โฮจิมินห์ซิตี้ หรือว่า ไซง่อน ของประเทศเวียดนามครับ แน่นอนว่าสำหรับใครที่ชอบแนวหรูหราหรือต้องการความสะดวกสบายก็จะต้องประเทศสิงคโปร์หรือฮ่องกงเป็น จุดหมายปลายทางประเภทที่รับประกันความปลอดภัยหรืออย่างน้อยก็ได้บริการที่ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่คาดไว้ ส่วนใครที่ชอบแบบผจญภัยหรือต้องการค้นหา สำหรับผมรู้สึกว่าประเทศเวียดนามดูจะไม่น่าสนใจเท่ากับประเทศกัมพูชา และไม่มีเสน่ห์ลึกๆ เหมือนกับประเทศพม่า ผมเลยขอไม่เปรียบเทียบนะครับ ไม่ว่าจะทั้งสไตล์สแตนดาร์ดแบบประเทศสิงคโปร์ หรือ วัฒนธรรมในแบบกัมพูชา แต่ผมอยากจะบอกว่าประเทศเวียดนามมันมีอะไรที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะเวียดนามใต้อย่างโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งผมอยากจะไฮไลท์ว่ามีความผสมผสานที่พอดีเป็นที่สุด จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะมาถึงสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของโฮจิมินห์ซิตี้ ทั้งยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม และมีความทันสมัยในแบบสากลอีกด้วย #มองการเมืองผ่านสถาปัตยกรรม มองในแบบการเมืองและวัฒนธรรมถ้าคุณต้องการสถานที่ท่องเที่ยวแบบด่วนได้ถ่ายรูปดีให้เข้าไปที่ใจกลางเมืองคุณก็จะพบกับสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสมากมายเต็มไปหมดทั้งโบสถ์นอตเตอร์ดาม ที่ที่สวยงามเป็นสง่าพร้อมกับหอคอยคู่และพระแม่มารีด้านหน้า ซึ่งสร้างขึ้นจากผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศส โดยใช้วัตถุโดยใช้วัตถุดิบเกือบทั้งหมดมาจากตะวันตกโดยเฉพาะหินมาจากมักเซย อิตาลี จากนั้นจากนั้นเดินไปไม่ถึง 10 เมตรคุณก็จะได้เห็นอาคารที่ทำการไปรษณีย์กลางของกรุงโฮจิมินห์ ซึ่ง ณวันนี้ยังคงทำการอยู่ซึ่งอาคารสีเหลืองที่เห็นอย่างชัดเจนนี้ออกแบบโดยกุสตาฟไอเฟล ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่สร้างหอไอเฟลที่ ปารีส ฝรั่งเศส แล้วถ้าหากแล้วถ้าหากคุณเป็นแฟนสถาปัตยกรรมตัวยงขอให้เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะได้เจอกับวิหารสีชมพูที่มีเสน่ห์อย่างลึกซึ้ง ที่สำคัญกับบรรยากาศของอาคารสถานที่ในแบบตะวันตกเหล่านี้จะมีร้านกาแฟซ่อนตัวอยู่ระหว่างทางเต็มไปหมดให้คุณได้ค้นหาทั้งในแบบท้องถิ่นและแบบที่รังสรรค์จนหลายร้านคุณคิดว่าคุณไม่มีโอกาสได้เห็นในเมืองไทย […]Read More