อ่อนโยนบนความแข็งแกร่งแบบลาเต้
เรื่อง : ชัชฎาพร จุ้ยจั่น
สูตรสำเร็จของกาแฟสักแก้วสามารถบอกความเป็นตัวตนของคนเราได้หรือไม่ ‘เติมพงศ์ อยู่วิทยา’ หรือ ‘ต่อ’ เคยกล่าวว่าตนเองนั้นคือส่วนผสมของลาเต้ จริงจังราวเอสเปรสโซ แต่ก็ถูกเบลนด์ด้วยครีมฟองนุ่มๆ กลมกล่อม กลายเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่นค้นหาเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมเพื่อนำมาเสิร์ฟให้กับคอฟฟี่เลิฟเวอร์ในร้านกาแฟคาซ่า ลาแปง (Casa Lapin)
“ผมเริ่มต้นศึกษาต้นตอของกาแฟ ตั้งแต่เฟ้นหาเมล็ดกาแฟคุณภาพ เริ่มต้นหัดชงกาแฟที่ร้านจนได้เรียนรู้ว่า อาชีพบาริสต้านั้นนอกจากจะได้ชงกาแฟอร่อยๆ ยังได้เจอผู้คนที่หลากหลาย เล่าเรื่องราวการเดินทางผ่านกาแฟอย่างภาคภูมิใจ” ต่อเล่า
จากนักบริหารที่ทุกคนมองว่า เขาสามารถกุมอาณาจักรใหญ่โตได้ไม่ยาก แต่ต่อกลับหลงใหลในธุรกิจร้านกาแฟโดยตั้งใจยกระดับแบรนด์กาแฟไทยไปสู่สากล เขากล่าวว่า “คาซ่า ลาแปง ซึ่งเดิมอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท คอฟฟี่ โปรเจคท์ จำกัด มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจกาแฟเป็นหลัก ได้ร่วมกับบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ ร่วมกันจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด ซึ่งมีแผนจะขยายคาซ่า ลาแปง ไปสิงคโปร์ โซล โตเกียว และไทเปอีกด้วย”
ณ ปัจจุบัน พวกเราทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤติกับโรคระบาดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น เขาและคาซ่า ลาแปงยังเชื่อมันว่าแนวคิดภายใต้‘วิกฤติ’ มี ‘โอกาส’ อยู่เสมอ ยังใช้ได้ดี ซึ่งเมื่อต้นปีจึงมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการด้านเวลาในยุค ‘Lazy Economy’ จากที่ใช้บริการขนส่งตรงถึงบ้าน หรือ เดลิเวอรี่ระยะไกล เริ่มขยับมาสู่ระยะใกล้ ภายในอาคาร ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง
“การผนึกกำลังภายใต้ความแข็งแกร่งของกลุ่มเจมาร์ทจะทำให้บีนส์แอนด์บราวน์ สามารถต่อยอดธุรกิจร้านอาหารและกาแฟได้อย่างแตกต่าง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการขาย ตอบโจทย์คนยุคใหม่ สร้างความได้เปรียบให้ คาซ่า ลาแปง ในการขยายฐานลูกค้า จากการต่อยอดผ่านแพลตฟอร์มใหม่บนโลกออนไลน์ และบริการเดลิเวอรี่ซึ่งเป็นที่นิยมและเติบโตสูงต่อเนื่อง”