fbpx

สูตรลับคน Blue Zones อายุยืน 100 ปี อย่างมีคุณภาพ

สุขภาพดี

เคยคิดกันบ้างหรือเปล่าว่าตัวเราจะมีอายุยืนยาวถึงเมื่อไหร่ และทำอย่างไรให้มีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี ซึ่งประเด็นนี้ GM Live มีบทความดีๆ จาก “แอมเวย์” ที่ได้  Dan Buettner” มาเปิดสูตรลับคน Blue Zones อายุยืน 100 ปี อย่างมีคุณภาพ ให้ได้ว้าว!! กัน        

ด้วยปณิธานที่จะส่งเสริมวิถีชีวิตที่สมดุลทั้งกายและใจ แอมเวย์ จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สุขภาพและสุขภาวะที่ดีให้กับผู้คน โดยให้ความสำคัญกับการมีช่วงชีวิตสุขภาพ หรือHealthspanที่ยืนยาว ควบคู่ไปกับอายุขัยที่เพิ่มขึ้น

เพราะในยุคที่ไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต่างต้องเผชิญกับกิจกรรมและสิ่งเร้ามากมายที่ดึงดูดความสนใจ ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ อีกทั้งปัจจัยลบต่าง ๆ เช่น สภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยและความเครียดที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้คนละเลยการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิต โดยสอดคล้องกับข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข ที่บ่งชี้ว่า ประชากรไทยมีอายุขัยเฉลี่ยราว 77 ปี และมีแนวโน้มจะพบปัญหาสุขภาพในช่วง 5-10 ปีสุดท้ายของการใช้ชีวิต     

และแนวคิดนี้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาว Blue Zones” ซึ่งเป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงด้านอายุยืนและสุขภาพดี โดยหล่อหลอมขึ้นจากการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การใช้ชีวิตอย่างสมดุล และการสร้างความยั่งยืนให้กับชีวิต เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และแรงบันดาลใจจากดินแดนแห่งความลับนี้  ทางแอมเวย์ จึงได้เชิญ มิสเตอร์แดน บิวต์เนอร์ (Mr. Dan Buettner) ผู้ก่อตั้งแนวคิด Blue Zones นักสำรวจผู้ร่วมงานกับ National Geographic และเป็นผู้ดำเนินรายการและโปรดิวเซอร์ร่วมของรายการชื่อดังบน Netflix ผู้ซึ่งอุทิศตนศึกษาและสำรวจดินแดนเหล่านี้นานกว่า 25 ปี มาเผย insight ไขความลับการมีอายุยืนจาก 5 ชุมชน Blue Zones ทั่วโลก ได้แก่ ซาร์ดิเนีย (อิตาลี), อิคาเรีย (กรีซ), โอกินาวา (ญี่ปุ่น), คาบสมุทรนิโคยา (คอสตาริกา) และโลมา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นแหล่งรวมวิถีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์และเอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม

โดยผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า การมีสุขภาพดีแบบชาว Blue Zones นั้น เกิดจากสามปัจจัยหลัก โดย 15% มาจากพันธุกรรม 15% มาจากระบบสาธารณสุขและการแพทย์ และอีก 70% มาจากการดูแลตัวเอง วิถีชีวิต และการบริโภคอาหาร ซึ่งแอมเวย์ ได้สรุปสาระสำคัญเหล่านี้ออกมาเป็นหลักการและข้อปฏิบัติที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย ดังนี้

รูปที่ 1

การปรับเปลี่ยนวิถีการบริโภคอาหาร เริ่มต้นจากการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเน้นการรับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ หรือรับประทานให้อิ่มเพียง 80 % เลือกอาหารที่ย่อยง่ายและดีต่อสุขภาพอย่างผัก ปลา สัตว์ปีก อาหารทะเล และธัญพืช ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานและลดไขมันในเลือดได้ นอกจากนี้ การเติมเต็มคุณค่าทางอาหารด้วยข้าวกล้อง ข้าวโพด เต้าหู้ และถั่วเปลือกแข็ง อย่างวอลนัทและอัลมอนด์ เพียงวันละหนึ่งกำมือ จะช่วยให้ร่างกายได้คุณประโยชน์จากวิตามินและกรดไขมันจำเป็น อย่างครบถ้วน

ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารหวานหรือเค็มจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือหากจะรับประทาน ควรจำกัดเฉพาะในโอกาสพิเศษ และอีกเคล็ดลับง่าย ๆ  คือ การรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน เพื่อฝึกให้รับประทานอาหารอย่างช้า ๆ ระหว่างพูดคุยบนโต๊ะอาหาร ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ดียิ่งขึ้น

การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นขยับร่างกายเป็นประจำจนเป็นนิสัย เช่น การเดินเล่นในสวนสาธารณะ เดินรอบหมู่บ้าน เป็นกิจกรรมง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวัน นอกจากนั้น การทำกิจกรรมภายในบ้าน เช่น การเข้าครัวทำอาหาร การทำความสะอาดบ้าน หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ทำสวน ออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาสนุก ๆ ร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ก็ทำให้ร่างกายเกิดการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติเช่นกัน และสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ การเปลี่ยนจากการใช้ลิฟต์เป็นการเดินขึ้นลงบันได ก็เป็นอีกวิธีช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ดีเลยทีเดียว

การคบเพื่อนที่มีเป้าหมายและแนวคิดคล้ายกัน นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างทัศนคติเชิงบวกในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการอยู่ในคอมมิวนิตี้ของเพื่อนที่มีเป้าหมายและแนวคิดในทิศทางเดียวกันอย่างน้อย 2 – 3 คน จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายในทางที่ดีร่วมกันได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นการชวนกันดูแลสุขภาพ หรือทำสิ่งดีมีคุณค่าเพื่อเป็นการตอบแทนชุมชนและสังคม

ศึกษาและสังเกตวิถีชีวิตของผู้สูงอายุ แหล่งความรู้ที่ทรงคุณค่า ซึ่งมักซุกซ่อนอยู่ในวิถีและประสบการณ์ของผู้อาวุโส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณปู่ คุณย่า หรือผู้สูงอายุในบ้านของเราเอง ซึ่งเป็นแบบอย่างที่สัมผัสได้และเชื่อถือได้จริง แม้ว่าความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ไปอย่างมาก แต่ภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนยังคงเป็นแนวทางที่น่าศึกษาในการช่วยดูแลสุขภาพของคนรุ่นต่อๆ มา เช่น การศึกษาสูตรอาหาร ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติอย่างขมิ้น  ขิง กระเทียม และสมุนไพรอื่น ๆ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายและเสริมภูมิคุ้มกัน อีกทั้ง วิถีชีวิตคนรุ่นก่อนที่ใช้ชีวิตโดยการเดินและทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง เช่น ทำอาหารให้ลูกหลาน ปลูกผักผลไม้ ออกไปรับแดดตอนเช้า เดินซื้อของ หรือพบปะเพื่อนฝูงในพื้นที่ชุมชน สิ่งเหล่านี้จึงมีส่วนให้ร่างกายแข็งแรงและส่งผลให้มีอายุยืนยาว

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายและจิตใจดี จากการศึกษาวิถี Blue Zones ได้ค้นพบว่า “การนอนหลับที่เพียงพอ” เป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยาวนาน โดยปกติร่างกายของคนเราควรนอนหลับพักผ่อนให้ยาว 7-8 ชั่วโมงต่อวัน อาจนอนก่อน 4 ทุ่ม หรือไม่เกินเที่ยงคืน โดยไม่ตื่นกลางดึก และไม่ใช้ยานอนหลับ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเคล็ด(ไม่)ลับของ “การงีบระหว่างวัน” เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็มีส่วนช่วยให้สมองได้พักผ่อนและฟื้นฟูพลังงานที่ดี หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีนหลังบ่ายสอง หยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน 60-90 นาที จะเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมการนอนหลับที่ดี

ทั้งนี้ มิสเตอร์แดน บิวต์เนอร์ (Mr. Dan Buettner) ยังได้บอกเล่าเคล็ดลับส่วนตัวแบบวิถี Blue Zones เพิ่มอีกว่า

“หลังจากได้ศึกษาวิถีชีวิต Blue Zones ในพื้นที่ต่างๆ ผมได้นำหลายวิธีมาปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผม โดยทุกมื้อเช้าผมจะเน้นทานอาหารที่ทำมาจากถั่ว ซึ่งจะได้วิตามินและโปรตีนที่ดีจากพืช รวมถึงเน้นการดื่มน้ำให้เยอะ เพราะดีต่อสุขภาพ ผมจะเน้นเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการเดินมากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มสัดส่วนในการออกกำลังกาย หรือออกไปพบปะเพื่อนฝูง ใช้เวลาในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ดี ๆ ก็เป็นการผ่อนคลายไปในตัว อย่างไรก็ตามยังสามารถยืดหยุ่นหรือรับประทานสิ่งที่ชอบตามใจตัวเองได้บ้าง เพื่อให้การดูแลสุขภาพไม่ตึงเครียดจนเกินไป สามารถปาร์ตี้ ดื่มไวน์หรือแอลกอฮอล์ได้บ้าง สัก 1-2 แก้วต่อวัน ก็ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ ซึ่งการไปฉลองกับเพื่อนหรือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสังคม ก็ช่วยส่งเสริมสุขภาพด้านจิตใจเป็นอย่างดี”

เป็นอันว่าทุกคนสามารถดูแลตัวเองให้มีความสุขและมีสุขภาพดีได้ เพียงแค่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และสร้างวินัยในการดูแลตนเอง รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมี Healthspan ที่ยาวนาน เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ

ที่มา ;  แอมเวย์  Website: www.amway.co.th /Facebook: www.facebook.com/amwaythailand / Line Official: @amwaythailand  / TikTok: @sarasookth

ภาพหน้าเปิด : https://www.pexels.com/th

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ