fbpx

5 ข้อน่ารู้ เกี่ยวกับ ‘ประกันชีวิต’ ที่ควรทราบ

ในตอนนี้ ปี 2565 เดินทางผ่านไปครึ่งทาง เข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง นอกเหนือจากที่ต้องชื่นชมตัวเองที่สามารถพาชีวิตฝ่านาวาแห่งความทุกข์ยากแสนสาหัสแล้ว ยังเป็นจังหวะเวลาที่ดีสำหรับการพิจารณาเรื่องการเงินและการลงทุน หลายคนอาจจะมองไปที่ ‘ประกันชีวิต’ เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนและลดหย่อนภาษี รวมถึง ‘ประกันสุขภาพ’ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ COVID-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่ทั้งนี้ ทุกการลงทุนย่อมมีทั้งข้อบวกและข้อลบ ซึ่งเราจะขอนำเสนอ 5 ข้อน่ารู้ สำหรับการพิจารณาเกี่ยวกับการซื้อประกันชีวิตมาฝากกัน

-พึงระลึกไว้เสมอว่า การทำประกันชีวิต ‘ไม่ใช่’ การฝากเงิน

หลายคนมองว่า การซื้อประกันชีวิต ก็ถือว่าเป็นการฝากเงินเอาไว้ในทางหนึ่ง ขอให้ปรับเปลี่ยนความคิดนี้ใหม่ เพราะการทำประกันชีวิต คือการทำสัญญาระยะยาว โดยมีการจ่ายเบี้ยตามที่กำหนดไว้ แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ในยามจำเป็น หรือจำต้องทำการเวนคืนกรมธรรม์ ซึ่งจะทำให้เงินที่ได้กลับมามีมูลค่าน้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไป ดังนั้น ก่อนทำประกัน ควรพิจารณาถึงความพร้อมทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้ดี

-ข้อดีของประกันชีวิตไม่ได้มีไว้เพื่อลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว

การลดหย่อนภาษี จัดเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของการทำประกันชีวิตเท่านั้น ซึ่งถ้าทำประกันเพียงเพื่อหวังลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว อาจจะเป็นการวางแผนทางการเงินที่ไม่ยืดหยุ่นเท่าใด ควรมองถึงความพร้อมและความจำเป็นจริงๆ จะเหมาะสมกว่า

-จ่ายเบี้ยสั้น ไม่ได้ดีกว่าจ่ายเบี้ยยาวๆ เสมอไป

บางคนมองว่า ถ้าต้องพักเงินและจ่ายเบี้ยประกันรายปีเป็นระยะเวลานานๆ สู้เลือกทำประกันชีวิตแบบจ่ายเบี้ยสั้นจะเหมาะกว่า แต่ก็อีกเช่นกัน ที่ไม่ได้เป็นข้อดีเสมอไป การจ่ายเบี้ยสั้นนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีความพร้อม เพราะเบี้ยสั้น จะมีมูลค่าที่ต้องจ่ายสูงกว่า ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็อาจจะขาดสภาพคล่องได้ ขอให้พึงระวังในจุดนี้ให้ดี

-ประกันชีวิตที่เหมาะสำหรับการลดหย่อนภาษีไม่ได้มีแค่แบบสะสมทรัพย์เพียงอย่างเดียว

ประกันแบบสะสมทรัพย์อาจจะฟังดูน่าสนใจในแง่ของการฝึกวินัยทางการออม รวมถึงเงินที่ได้รับคืนในภายหลังที่สูงกว่า แต่การทำประกันนั้น ก็ควรดูตามการใช้งานจริงเป็นหลัก เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ประกันแบบสะสมทรัพย์จะให้ความคุ้มครองและการตอบแทนสำหรับผู้ที่อยู่ข้างหลังได้น้อยกว่าประกันแบบคุ้มครองชีวิต ซึ่งต้องพิจารณาบริหารการจัดการและความต้องการให้ถูกต้องอีกด้วย

-การทำประกันสุขภาพ ไม่ได้หมายถึงเราต้องทำการ ‘เคลม’ เสมอไปจึงจะคุ้ม

ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหลายคนคิดว่า ทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตไปแล้ว ถ้าไม่เคลมก็คงไม่คุ้ม จ่ายเบี้ยทิ้งไปเป็นรายปีไปเสียเปล่าๆ แต่ขึ้นชื่อว่าประกันสุขภาพ จะเคลมได้ก็ต่อเมื่อมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยแม้แต่น้อยเมื่อเทียบเวลา ค่าใช้จ่าย และความรู้สึกที่เสียไป ดังนั้น ขอให้ตัดความคิดนี้ออก แล้วเน้นทำเผื่อไว้ในฉุกเฉิน (แบบไม่ต้องหาทางไปเคลม) จะเหมาะกว่า

เราหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า คุณจะสามารถวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม และลึกๆ แล้วเราก็ยังเชื่อ ว่าการทำประกัน ยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ถ้าผ่านการพิจารณาด้านการใช้งาน ก็จะช่วยให้คุณอุ่นใจ ทั้งยังฝึกวินัยทางการเงินภายใต้สภาพการณ์ที่ทุกอย่างไม่ได้มีความแน่นอนเสมอไปได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกั

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ