AVANT-GARDE WATCH
เรื่อง : FULLMOON
นาฬิกาแห่งโลกล้ำยุค ที่ไม่เพียงประดิษฐ์ขึ้นด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย แต่ยังอัดแน่นไปด้วยไอเดีย และแนวคิดการสร้างสรรค์แห่งโลกอนาคตอย่างแท้จริง
HUBLOT
Big Bang MP-11 Red Magic
ความล้ำยุคของนวัตกรรมวัสดุใหม่ทำจากไฮเทคเซรามิกสีแดงสด ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาและผลิตขึ้นทั้งหมดโดยแบรนด์ นำมาผสมผสานเข้ากับความล้ำสมัยของสมรรถนะกลไกจักรกล HUB9011 ที่มอบพลังงานสำรองได้ถึง 14 วัน ผ่านกระปุกลานทั้งหมด 7 ตัว และยังสามารถมองเห็นได้ผ่านด้านหน้าปัด ผลงานนาฬิการุ่นสุดล้ำทั้งแนวคิด งานออกแบบ และพลังสร้างสรรค์นี้จึงเปิดตัวพร้อมด้วยสิทธิบัตรการคิดค้นใหม่ทั้ง 3 ฉบับ ทั้งที่มอบให้กับนวัตกรรมวัสดุและกระบวนการผลิตขึ้นรูปชิ้นส่วนตัวเรือนที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้ได้ซึ่งคุณสมบัติของสีและความแข็งแกร่งทนทานชั้นเลิศ โดยนาฬิการุ่นนี้จะผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนเท่านั้น
HYT
H1.0 x MR PORTER
รุ่นผลิตจำนวนจำกัด ที่เป็นการเฉลิมฉลองความร่วมมือระหว่างแบรนด์นาฬิกาด้วยเอกลักษณ์สุดล้ำของการแสดงเวลาด้วยจักรกลและสารเหลว รวมถึงงานดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร กับเว็บไซต์ออนไลน์ชื่อดังสำหรับสุภาพบุรุษผู้เปี่ยมด้วยสไตล์ อย่าง MR PORTER โดยนาฬิการุ่นพิเศษแห่งความร่วมมือของสองพันธมิตรนี้ยังคงบรรจุด้วยการแสดงเวลาผ่านสารเหลว 2 สี สำหรับแสดงชั่วโมง ควบคู่กับหน้าปัดย่อยแสดงนาทีด้วยตัวเลขและเข็มชี้ จากการขับเคลื่อนของกลไกความถี่ 4 เฮิรตซ์ และ Micro-fluidic Module ผ่านการจดสิทธิบัตรโดย HYT พร้อมทั้งการสำรองพลังงานได้นาน 65 ชั่วโมง ประกอบตัวเรือนสเตนเลสสตีล เคลือบ DLC สีดำสุดล้ำสมัย
VACHERON CONSTANTIN
Traditionnelle Twin Beat Perpetual Calendar
นาฬิกาจักรกล 2 ความถี่ ระหว่าง 5 เฮิรตซ์ ในโหมด Active และ 1.25 เฮิรตซ์ ในโหมด Standby ที่พัฒนาขึ้นให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟของผู้คนยุคสมัยใหม่ ขณะที่ยังคงความสลับซับซ้อนด้วยการแสดงเวลา ควบคู่กับปฏิทิน Perpetual Calendar ประกอบด้วยการแสดงวันที่ เดือน รอบของปีอธิกสุรทิน และบอกพลังงานสำรองจากการทำงานของกลไก Calibre 3610 QP ผลิตขึ้นแบบ In-house ซึ่งสามารถปรับความถี่ การทำงานให้ลดลงสู่โหมด Standby พร้อมกับช่วยขยายระยะเวลาของการสำรองพลังงานให้ยาวนานขึ้นถึงสูงสุด 65 วัน ที่ถือว่ายาวนานอย่างมากสำหรับนาฬิกาจักรกล ณ ปัจจุบัน ความล้ำสมัยทั้งหมดนี้ยังบรรจุอยู่ในนาฬิกาข้อมือสุดกะทัดรัด ด้วยขนาดตัวเรือนเพียง 42.0 มิลลิเมตร และหนาแค่เพียง 12.3 มิลลิเมตรเท่านั้น
RICHARD MILLE
RM 61-01 Ultimate Edition Yohan Blake
สุดไฮเทคด้วยการรังสรรค์ตัวเรือนขึ้นจาก Carbon TPT® และ Quartz TPT® โดยผลิตขึ้นเพียง 150 เรือน กับคุณสมบัติสุดล้ำสมัยของวัสดุที่มีทั้งความหนา ความแข็งแกร่งทนทานสูง กับลวดลายของเนื้อวัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพียงชิ้นเดียว ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนเหล่านี้มีความพิเศษและไม่ซ้ำแบบใครอย่างแน่นอน พร้อมทั้งเผยให้เห็นถึงความน่าทึ่งของโครงสร้างกลไกจักรกลแบบสเกเลตัน รังสรรค์ขึ้นจากไทเทเนียม เกรด 5 เคลือบ PVD โดยมอบพลังงานสำรองได้นาน 55 ชั่วโมง ทนต่อแรงกระแทกที่ผ่านการทดสอบมาแล้วได้ถึงกว่า 5,000 g’s
URWERK
UR-100 GunMetal
พัฒนามาจากแนวคิดของการโคจรระหว่างโลก และดวงอาทิตย์ รวมถึงแรงบันดาลใจที่ได้มาจากห้วงอวกาศ สู่นาฬิกาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งเทคโนโลยีล้ำสมัย เริ่มจากการแสดงเวลาผ่านระบบดิสก์หมุนโคจรสำหรับทั้งการแสดงนาทีและชั่วโมง ซึ่งทำจากโลหะผสมสุดล้ำยุค ทั้ง Beryllium-bronze, Aluminium และ ARCAP alloy โดยการทำงานของกลไก Calibre 12.01 สำรองพลังงานได้นาน 48 ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวเรือนไทเทเนียมและสเตนเลสสตีล ตกแต่งด้วยเทคนิคเคลือบ PVD GunMetal พร้อมทั้งความซับซ้อนล้ำสมัยของกระบวนการผลิตกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโค้งพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องหน้าปัดของนาฬิกาสุดล้ำยุคเรือนนี้
IWC
Big Pilot’s Watch Perpetual Calendar Edition ‘Mercedes-AMG Petronas Motorsport’ (Ref. IW503003)
จะดีแค่ไหน ถ้าคุณสามารถย่อโลกแห่งความเร็วอย่าง Formula One มาไว้บนข้อมือได้สำเร็จ และนั่นคือผลลัพธ์สุดล้ำยุคที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย IWC Schaffhausen กับนาฬิการุ่นเด่นด้วยลุคล้ำๆ ที่จะผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือน อุทิศให้กับพันธมิตรจากโลกแห่งความเร็วอย่าง Mercedes-AMG Petronas Motorsport โดยประดิษฐ์ขึ้นด้วยนวัตกรรมวัสดุ ระหว่างตัวเรือน Zirconium Oxide Ceramic สีดำด้าน และหน้าปัด Carbon Fibre ซึ่งทั้งคู่เป็นวัสดุไฮเทคที่มักใช้ในรถแข่งระดับพรีเมียมคลาส อย่าง Mercedes-AMG F1 W10 EQ Power+ กับดีไซน์โดดเด่นของการตกแต่งบนหน้าปัดด้วยรายละเอียดสี Emerald Green ที่เป็นสัญลักษณ์ของทีม Petronas
MB&F
Legacy Machine Thunderdome
ครองตำแหน่งนาฬิกาล้ำยุคแห่งศตวรรษที่ 21 ที่บรรจุไว้ด้วยเทคโนโลยีจักรกล ‘TriAx’
ใหม่ ประกอบด้วย 3 แกนซึ่งหมุนรอบด้วยความเร็วต่างกัน โดยทำสถิติด้วยการหมุนรอบได้
เร็วที่สุดในโลก ภายใน 8 วินาที, 12 วินาที และ 20 วินาที พร้อมทั้งผสมผสานด้วย Potter Escapement กับบาลานซ์ทรงครึ่งวงกลม และแฮร์สปริงแบบเกลียว ทั้งหมดนี้มอบผลลัพธ์เป็นความเที่ยงตรงสูงสุดของนาฬิกา เช่นกันกับมอบภาพอันล้ำสมัยสูงสุดของจักรกล ให้เราได้เห็นบนหน้าปัดอย่างชัดเจน โดยครอบไว้ด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์รูปทรงโดม และความสง่างามของตัวเรือนแพลทินัม คู่หน้าปัดสีน้ำเงินอ่อนแกะลายกิโยเช่ ซึ่งจะผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 33 เรือน
ULYSSE NARDIN
Blockchain Technology
เป็นนาฬิกาแบรนด์แรกที่มอบความปลอดภัยและการรับประกันอย่างสูงสุดให้กับลูกค้าของแบรนด์ทุกคน ผ่านเอกสารรับรองดิจิทัลและ Blockchain Technology อันล้ำสมัย ซึ่งนั่นทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนของ Ulysse Nardin ล้วนมี Digital Fingerprint ผ่านเอกสารรับรองดิจิทัลและ Blockchain Technology อันล้ำสมัย ซึ่งนั่นทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนของ Ulysse Nardin ล้วนมี Digital Fingerprin นับจากวันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 2019 เป็นต้นไปจะได้รับการคุ้มครองโดยเอกสารรับรองดิจิทัลและเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ทันที