ร้านอาหารริมน้ำ วันที่ 27 กันยายนที่จะถึงนี้ จะมีงานขบวนเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารคครั้งสำคัญ แน่นอนว่า การรับชมงานที่ยิ่งใหญ่ ที่นั่งสุดพิเศษและอาหารแสนอร่อยก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน รวมมุมเก็บภาพสวยๆ ที่ไม่ควรพลาด ซึ่งชื่อของร้านอาหาร Eat Sight Story  ซึ่งอยู่ภายในโรงแรมศาลาอรุณ (Sala Arun) ก็แว็บขึ้นมาเป็นอันดับแรก  ว่าแล้วก็ต้องไปอัพเดทกันสักหน่อยว่าตอนนี้มีเมนูอะไรบ้าง ที่จริงร้านอาหารย่านท่าเตียนนั้นมีหลายร้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและสามารถมองเห็นความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับ  Eat Sight Story แล้วนั้น คือข้อยกเว้น เพราะนี่คือจุดที่อยู่ตรงกับพระปรางค์วัดอรุณฯ เลยทีเดียว จึงทำให้มองเห็นความงดงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้อย่างเต็มตาในองศาที่สวยแบบสุดๆ โดยเฉพาะเงาสะท้อนขององค์พระปรางค์ที่ทอดสู่ลำน้ำเจ้าพระยายามค่ำ สำหรับEat Sight Story ในวันนี้ นอกจากจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ที่ยังคงสไตล์ไทยฟิวชั่นแล้ว ยังได้เปิดโซนใหม่บนพื้นที่ชั้น 2 เพิ่มความฟินในการชมวิวพร้อมๆ ไปกับการดื่มด่ำรสชาติอาหารในราคาที่จับต้องได้อีกด้วย โดยเมนูใหม่มีทั้ง  appettizer ,salad ,pasta , soup , maindish และของหวาน บอกได้เลยว่าอร่อยทุกเมนู เริ่มประเดิมด้วยถุงเงินยัดไส้ผัดโขมมอสเซอเรลล่าชีส (Lucky Money Bag): […]Read More

อาหารพื้นเมือง ใครที่ชมชอบรสชาติของอาหารภาคเหนือ ที่มีความหลากหลายอย่างไม่มีสิ้นสุด GM Live ขอพาลัดฟ้ามุ่งสู่งเมืองเชียงใหม่ ดินแดนล้านนาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรมอันดีงามของไทย โดยมีหมุดหมายปลายทางที่ ยุ้งข้าวล้านนา อาหารพื้นเมือง (Lanna Ricebarn Restaurant) ชมของเก่า  กินข้าว เล่าความหลัง ยุ้งข้าวล้านนาแห่งนี้ ได้รับการออกแบบ – ตกแต่ง โดยอาจารย์อดุลย์ เหรัญญะ (Adul Herunya) สถาปนิก   ล้านนาผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งทั้งโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม การตกแต่ง และบรรยากาศ มีความสวยงามสอดคล้องกับภูมิสถาปัตย์ทั้งยังสะท้อนภาพความเป็นท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการนำเรือนยุ้งข้าว อีกทั้งเรือนไม้พื้นถิ่นมาเป็นองค์ประกอบหลักในงานออกแบบที่สร้างความโดดเด่นได้อย่างมีเอกลักษณ์ ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์เรือนไม้เก่า เรือนยุ้งข้าวเก่าที่เคยเป็นเรือนสำคัญของชาวบ้านในอดีต ซึ่งนับวันจะหายไปจากวิถีชีวิตของคนล้านนาไปแล้ว ซึ่งอาจารย์อดุลย์ เหรัญญะ ได้บอกเล่าแรงบันดาลใจในการตกแต่งร้านอาหารแห่งนี้ว่า ” ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาอาคารยุ้งข้าว กับ เรือนไม้พื้นถิ่นเขตเชียงใหม่-ลำพูนไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อยอดให้ยั่งยืน ก่อนจะสูญหายไป ด้วยปัจจัยต่างๆ อย่างน่าเสียดาย…จะทำอย่างไรให้ของเก่ากับของใหม่อยู่ร่วมกันได้อย่างสง่างาม ในฐานะที่เกิดเป็นลูกหลานชาวล้านนาคนหนึ่ง ผมจึงนำเอาองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรมที่มีอยู่มาทำการออกแบบประยุกต์ ยุ้งข้าว และ เรือนไม้พื้นถิ่นให้ตอบสนองกับการใช้งานของปัจจุบันในทุกมิติ แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ดั่งเดิมที่สวยงาม สร้างบรรยากาศลักษณะคล้ายรีสอร์ท และเป็นที่มาของ “ยุ้งข้าวล้านนา”  อันประกอบไปด้วยที่พัก […]Read More

กรมการข้าว หนุนความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมข้าวไทยด้วยการปลูกพันธุ์ข้าวพื้นเมือง  และการทำนาด้วยวิถีดั้งเดิม โชว์วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไร่บ้านน้ำเย็น ตำบล   กกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ชุมชนต้นแบบการต่อยอดข้าวเหนียวซิวเกลี้ยง ซึ่งเป็นข้าว GI สายพันธุ์โบราณโดดเด่นด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการ รสชาติ ความนุ่ม และความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ปลูกได้ในเฉพาะพื้นที่ สู่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ  ข้าวบรรจุถุง ข้าวสุญญากาศ ข้าวหลาม และข้าวนางเล็ดน้ำแตงโม นอกจากนี้ ชุมชนดังกล่าวยังมีการต่อยอดข้าวสู่สินค้าสร้างสรรค์ โดยอยู่ระหว่างพัฒนานวัตกรรมแปรรูปข้าวเหนียวซิวเกลี้ยงเป็นไอศกรีม พร้อมต่อยอดอัตลักษณ์อันโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ กรมการข้าวได้เข้ามาส่งเสริมการปลูกข้าวพื้นเมืองสายพันธุ์หายากให้กับชุมชน เกษตกร เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์ข้าวที่ดีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้าวเหนียว “ซิวเกลี้ยง” เป็นข้าวไร่เฉพาะถิ่นจังหวัดเลย เป็น 1 ในสายพันธุ์ข้าวหายากและได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ปลูกในที่ราบระหว่างภูเขาที่มีความสูง 500 – 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง หรือนาในที่ลุ่มที่ไม่มีน้ำขัง ในพื้นที่อำเภอด่านซ้าย ภูเรือ และนาแห้ว โดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไร่บ้านน้ำเย็น ใช้วิธีการคัดเลือกพันธุ์ตามภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เป็นพันธุ์ข้าวไม่ล้มง่าย แตกกอดี ต้านทานโรค มีรวงยาวใหญ่ ทั้งนี้ ความพิเศษของข้าวสายพันธุ์ซิวเกลี้ยงคือถึงแม้ฝนทิ้งช่วง 10 […]Read More

งาน World Gourmet Festival 2024 (เวิลด์ กูร์เมต์ เฟสติวัล) ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้น ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 24-29 กันยายน 2567 ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เหล่านักชิมจะได้ลิ้มลองสุดยอดอาหารรสเลิศจากหลากหลายมุมโลกที่รวบรวมมาไว้ภายในงานเดียว ไม่ว่าคุณจะเคยสัมผัสประสบการณ์มื้ออาหารแบบมิชลินมาก่อนหรือไม่ งานรวมเชฟระดับโลกที่จะจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์นี้จะสร้างประสบการณ์อาหารที่น่าจดจำไม่มีวันลืม และนี่คือ 5 เหตุผลหลักที่คุณไม่ควรพลาดงาน World Gourmet Festival  ในปีนี้ 1. ปีที่รวมดาวมิชลินมากที่สุด นับเป็นปีแรกที่มีจำนวนดาวมิชลินมากที่สุด ถึง 30 ดวง เชฟและบาร์เทนเดอร์มากฝีมือระดับโลก 22 คน ซึ่งมารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ โดยบาร์เทนเดอร์มากฝีมือหลายท่านการันตีรางวัล Asia’s 50 Best Bars และ World’s 50 Best Bars จะมาร่วมสร้างสีสันและรังสรรค์เครื่องดื่มสุดพิเศษทุกค่ำคืน ณ Aqua Bar 2. รสชาติและสไตล์การทำอาหารที่หลากหลาย  โอกาสพิเศษที่จะได้ลิ้มลองเมนูอาหารนานาชาติรสเลิศจากยุโรป เมดิเตอร์เรเนียน เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ ณ ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยสไตล์การทำอาหารที่หลากหลาย โดยสามารถเลือกเพลิดเพลินกับกาล่าดินเนอร์สุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ของทีมเชฟมากฝีมือ หรือจะเลือกลิ้มรสอาหารค่ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเชฟระดับมิชลินสตาร์ที่หมุนเวียนนมารังสรรค์มื้ออาหารสุดพิเศษที่ห้องอาหารของอนันตรา สยาม ก็ได้เช่นกัน 3. ความพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน อีกหนึ่งจุดเด่นหลักของงานนี้คือการนำเสนออาหารและประสบการณ์สุดพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน ตั้งแต่ tasting menu ที่ไม่มีการทำซ้ำ ไปจนถึงการคัดสรรวัตถุดิบหายากตามฤดูกาลที่ถูกนำมารังสรรค์โดยเชฟชั้นนำ พร้อมมอบความประทับใจและประสบการณ์การรับประทานอาหารไม่รู้ลืม 4. ครั้งแรกกับดินเนอร์บนเรือสำราญ ครั้งแรกของงาน World Gourmet Festival สำหรับดินเนอร์บนเรือสำราญ Loy Pela Voyages (ลอย […]Read More