PASTICHE (แพสทีช) หากใครกำลังมองหาของขวัญในช่วงเทศกาลคริสต์มาสอยู่ละก็ GM Live ขอบอกว่า ฟรุตเค้ก  (Fruitcake) คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นของหวานที่ชาวคริสต์รับประทานกันมาตั้งแต่ยุคโรมัน แทบจะเรียกได้ว่า ของหวานแห่งเทศกาลคริสต์มาสเลยก็ว่าได้   สำหรับฟรุตเค้ก คือ เค้กเนยสดที่ประกอบไปด้วยผลไม้แห้ง ถั่วจำพวกนัท และเครื่องเทศเป็นหลัก บางสูตรจะมีส่วนผสมของเหล้าเพื่อเพิ่มความหอมและความอบอุ่นให้ร่างกาย เนื่องจากนิยมแจกและบริโภคกันเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสหรือปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยในอังกฤษยังนิยมใช้เป็นเค้กแต่งงานด้วย เพราะเป็นเค้กที่มีลักษณะเนื้อแน่น อยู่ตัวดี จึงทนน้ำหนักได้มาก อีกทั้งยังเก็บได้นานที่อุณหภูมิห้อง และเมื่อมีส่วนประกอบของเหล้าหากเก็บไว้ที่ช่องแช่แข็งก็จะยืดอายุของฟรุตเค้กได้นานเป็นปีเลยทีเดียว ฟรุตเค้กยุคเก่าก่อนนิยมโรยน้ำตาลไอซิ่งหนาจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Royal icing และมีกันหลายสูตรมาก แต่สำหรับคนไทยแล้วจะคุ้นเคยกับฟรุตเค้กสไตล์อังกฤษหรืออเมริกัน เพราะมีเนื้อเค้กนุ่มฉ่ำ รสหวานจัด และมีกลิ่นเหล้าชัด อัดด้วยผลไม้เชื่อมอย่างลูกเกดและถั่ว แต่สำหรับฟรุตเค้ก PASTICHE (แพสทีช) เกิดจากความตั้งใจของเชฟยุ้ย  ลภัสรดา เลิศศุภมาศ ที่ต้องการขยายแบรนด์เดิม มาทำแบรนด์ใหม่เพื่อเติบโตขึ้นในชื่อ Pastiche เพื่อให้ให้ทุกคนเข้าถึงขนมได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น จากจุดเริ่มต้นที่การขายทางออนไลน์มาสู่การเปิดหน้าร้านในปี 2568 นี้ โดยประสบการณ์ของเชฟยุ้ยที่ทำขนมมามากกว่า 15 ปี รวมทั้งเป็นครูสอนทำขนมมานานกว่า 12 ปี ภายใต้ชื่อที่คุ้นเคย […]Read More

ห้องอาหารนิลา โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ เปิดให้บริการในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567 นำเสนอรสชาติอันรุ่มรวยของอาหารอินเดียในยุคแห่งความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมและการค้าทางทะเล ที่นิลา เชฟรังสรรค์เมนูอาหารจากเมืองกัว (Goa) และมะละบาร์ (Malabar) โดยเน้นการใช้อาหารทะเลสด ๆ ปรุงด้วยส่วนผสมและสูตรที่ได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกส อีกทั้งยังมีเมนูจากแถบชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย รวมถึงอ่าวเบงกอล ที่มีกลิ่นอายของยุโรปอีกด้วย เมนูอาหารของห้องอาหารนิลา มีรากฐานมาจากเมืองท่าและท่าเรือบริเวณแม่น้ำของอินเดียสมัยก่อน  ด้วยแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ผนวกกับเทคนิคและฝีมือในการทำอาหารร่วมสมัยของเชฟ เกิดเป็นสูตรอาหารเลิศรสในวันนี้ที่การันตีว่าจะเกินความคาดหมายของนักชิมยุคใหม่ทุกท่าน คำว่า “นิลา” (NILA) ในภาษามาลายาลัมแปลว่าสีน้ำเงิน ที่สื่อถึงสีของน้ำทะเลตามแนวชายฝั่ง การออกแบบตกแต่งภายในของร้านได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันอันสดใสของสถาปัตยกรรมของโปรตุเกส ที่พบเห็นในเมืองกัว เสริมแต่งให้สวยงามยิ่งขึ้นด้วยการใช้ผนังลวดลายแบบอินเดียยุคดั้งเดิม ห้องอาหารนำเสนอเรื่องราวของพ่อค้าที่เดินทางไปตามพื้นที่ชายฝั่งทะเลของอินเดีย เริ่มต้นจากเมืองโกลกาตา (Kolkata) จนในที่สุดมาถึงเมืองกัว ที่เขาได้ตั้งรกรากอยู่ที่นี่ โดยประกอบอาชีพค้าขายเครื่องเทศ สมุนไพร และงานศิลปะทางวัฒนธรรม ห้องอาหารนิลา เปรียบเสมือนเป็นบ้านของพ่อค้าคนนั้น ที่ซึ่งเครื่องเทศ สมุนไพรและส่วนผสมต่าง ๆ ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นอาหารอินเดียร่วมสมัยที่ถอดแบบมาจากอาหารดั้งเดิม และงานศิลปะ สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ถูกจัดวางไว้เป็นของตกแต่งอย่างเหมาะเจาะ ทำให้เกิดบรรยากาศที่อบอุ่นบ่งบอกถึงการผจญภัยและเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่พ่อค้าได้พบเผชิญในระหว่างการเดินทางของเขา เชฟบารัธ ชรินดาร์ […]Read More

ห้องอาหาร “แอนติโต้” ห้องอาหารอิตาเลียนและบาร์สุดชิคแนวป็อปอาร์ต ณ บริเวณริมสระน้ำ วิวพาโนราม่าใจกลางเมือง บนชั้น 14 ของโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ ขอนำเสนอเมนูใหม่ โดยเชฟอเมริโก้ ติโต้ เซสทิ เชฟชาวอิตาเลียน เชฟหนุ่มรุ่นใหม่ที่มากด้วยความสามารถ มารังสรรค์เมนูใหม่เอาใจนักชิม ซึ่งแต่ละเมนูยังคงแฝงกลิ่นอายของความเป็นอิตาเลียน โฮมเมดในแบบฉบับของเชฟ อาทิ พิซซ่าเพสโต้พิสตาชิโอและมอร์ทาเดลลา แฮม เพสโต้พิสตาชิโอ, มอสซาเรลล่า, พาร์เมซาน, มอร์ทาเดลลา, มะเขือเทศแห้ง และสลัดร็อกเก็ต (440 บาท) ส่วนพาสต้าจะเป็น คาโบนาร่า ในแบบฉบับของเชฟที่เสิร์ฟมาพร้อมแพนแชตต้าโฮมเมดกับกุ้ง (530 บาท) อาหารจานหลัก ไส้กรอกอิตาเลียนย่าง เสิร์ฟกับ มันบดเห็ดพอร์ชินี และหอมทอด จานที่ดูเรียบง่าย แต่อร่อยถูกปากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (390 บาท) เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี ของห้องอาหาร เชฟอเมริโก้นำเสนอเมนูพิเศษใสส่วนของ พิซซ่าซูคก้าเอสเป็ก ที่มีส่วนผสมของ ฟักทองหวานมัน ชีสมาสคาโปเน […]Read More