หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มี New Year’s Resolution ทุกปี เราเชื่อว่าหนึ่งในคำสัญญาที่จะทำให้กับตัวเองก็คือเรื่องของการออกกำลังกายเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่ต่างกับ ‘คำมั่นสัญญา’ ของ เอไอเอ ประเทศไทย ในปี 2019 ที่ยังคงยึดมั่นและเน้นย้ำเรื่องของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น เอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ของ เอไอเอ ประเทศไทย บอกกับ GM ว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก โดยเฉพาะพฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้แนวทางในการสื่อสารและการทำการตลาดของเอไอเอต้องปรับตัวอยู่เสมอ ถ้ามองอดีต ประกันยุคก่อนๆ จะเริ่มต้นจากประกันชีวิต ซึ่งมี Business Model คือ คุณตายเราจ่าย คุณเจ็บเราจ่าย คุณป่วยเราจ่าย ซึ่งโมเดลแบบนี้เป็นโมเดลที่ Low Engagement กับลูกค้ามาก เมื่อจะมีการพูดคุยในแต่ละครั้งก็จะเป็นเรื่อง Negative มากกว่า เจ็บ ตาย อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง เรื่องเหล่านี้ที่เราสื่อสารออกไปกับลูกค้า ผมมองว่ามันไม่ได้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างแท้จริง เพราะในเรื่อง Negative เหล่านั้น มันยังมีช่องว่างให้เราเข้าไปช่วยเหลือดูแลลูกค้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเรื่องเหล่านั้นได้ “ที่ผ่านมาเราคุยกับลูกค้าในแง่มุมเดียวว่าถ้าเกิดโรคร้ายแรงขึ้น ประกันจะช่วยคุณได้อย่างไร […]Read More
Netflix บริการสตรีมมิงขวัญใจคอหนัง ที่เปลี่ยนโลกของการดูหนังไป และวันนี้เราขอแนะนำหนัง LGBTQ ที่ออกมาในปี 2018-2019 Reason To Read Netflix บริการสตรีมมิงขวัญใจคอหนัง ที่เปลี่ยนโลกของการดูหนังไปโดยไม่ต้องไปถึงโรงหนังก็มีความบันเทิงมาเสิร์ฟกันถึงหน้าจอโทรทัศน์ที่บ้าน แถมมีหนังหลากหลายแนวให้เลือกดูทั้งเก่าทั้งใหม่ และวันนี้เราขอแนะนำหนัง LGBTQ ที่ออกมาในปี 2018-2019 และมีให้ดูบน Netflix ว่าสนุกและมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง What Keep You Alive เรื่องราวของ ‘จูลี่’ และ ‘แจ็กกี้’ คู่รักเลสเบี้ยนคู่หนึ่งที่เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์และฉลองวันครบรอบแต่งงาน 1 ปีที่บ้านกลางป่าหลังหนึ่ง แต่แล้วขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินชมความงามของผืนป่าอันกว้างใหญ่และมาหยุดอยู่ที่หน้าผา เหตุการณ์ที่คนดูไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นแบบกระชากอารมณ์สุดๆ และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งสอง และเป็นจุดพลิกผันสำคัญที่พาคนดูเข้าสู่โหมดระทึก ทำให้คนดูอยากรู้ปมที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นั้น ตัวละครหลักในเรื่องแทบจะมีแค่พวกเธอ 2 คน (มีตัวละครสมทบเป็นคู่สามีภรรยาชายหญิงอีก 2 คน) หนังมีฉากหลังเป็นบ้าน (กึ่งร้าง) กลางป่าใหญ่ที่เงียบสงัดและดูเวิ้งว้าง สร้างความรู้สึก ‘ไม่น่าไว้วางใจ’ ให้คนดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะมีตัวละครหลักเป็นคู่รักเลสเบี้ยน แต่เรื่องราวใน What Keep You Alive กลับไม่ได้ให้น้ำหนักกับประเด็น LGBTQ […]Read More
มุมมองต่อคนรุ่นใหม่และการเมืองในปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมาโดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตบรรณาธิการนิตยสารสารคดี เจ้าของรางวัลศรีบูรพา และอดีตรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Thai PBS รวมถึงอดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว PPTV Reasons To Read มุมมองต่อคนรุ่นใหม่และการเมืองในปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมาโดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตบรรณาธิการนิตยสารสารคดี เจ้าของรางวัลศรีบูรพา และอดีตรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Thai PBS รวมถึงอดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว PPTV นอกจากเรื่องราวการเมืองกับคนรุ่นใหม่ อีกสิ่งหนึ่งที่เขามีความสนใจ เป็นห่วงและอยากกระตุ้นเตือนสังคมคือปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเข้าขั้นวิกฤต ท่ามกลางหมอกควันพิษ PM 2.5 ที่เชียงใหม่ รุนแรงควบคู่ไปกับหมอกควันแห่งความไม่ชัดเจนที่อำพรางผลการเลือกตั้งของประเทศไทยในรอบ 5 ปี โดยไม่รู้ว่าอย่างไหนรุนแรงกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ คนรุ่นใหม่บนโลกออนไลน์นั้นร้อนระอุไปด้วยคำถาม หากไร้ผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจมาให้ความกระจ่าง แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่ใจดีบางท่านที่พร้อมจะพุดคุยกับคนหนุ่มสาว พูดเพื่อให้พวกเขายังมีความรู้ และมีความหวัง แม้ว่าผู้ใหญ่คนนี้จะโดนกระทำมาไม่น้อยก็ตาม วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร ‘สารคดี’ ที่ยืนหยัดข้างสิ่งแวดล้อมมาตลอด เขาเคยเป็นรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Thai PBS และผู้อำนวยการฝ่ายข่าว PPTV ที่ซื่อตรงในการทำหน้าที่จนต้องชนกับขั้วอำนาจทางการเมืองของรัฐบาล คสช. ถึงสองครั้ง จนต้องถอยออกจากเก้าอี้การงาน แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอุดมการณ์ผ่านตัวหนังสืออยู่สม่ำเสมอ […]Read More
กลุ่ม Extinction Rebellion และการประท้วงในโรงเรียนที่นำโดย ‘เกรตา ธุนเบิร์ก’ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน วัย 15 ปี ได้สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ นำไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติ Reasons to Read กลุ่ม Extinction Rebellion และการประท้วงในโรงเรียนที่นำโดย ‘เกรตา ธุนเบิร์ก’ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน วัย 15 ปี ได้สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่โดยแรงขับเคลื่อนที่นำไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติ การประท้วงเหล่านี้เป็นเพียงแค่ ‘ปลายภูเขาน้ำแข็ง’ เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีแรงกดดันมากมายถูกสร้างขึ้น สหราชอาณาจักรควรพยายามอย่างจริงจังที่จะไปให้ถึงเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ให้ได้ภายใน 10 ปี รัฐสภาอังกฤษมีมติประกาศภาวะฉุกเฉินการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือ ภาวะโลกร้อน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของ ‘เจเรมี คอร์บีน’ (Jeremy Corbyn) หัวหน้าพรรคแรงงาน พรรคฝ่ายค้าน ที่เรียกร้องให้ใช้แผนปฏิบัติการเร่งด่วนและรวดเร็วเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำให้รัฐสภาอังกฤษเป็นรัฐสภาแรกที่ประกาศภาวะโลกร้อนเป็น ‘สถานการณ์ฉุกเฉิน’ ซึ่ง เจเรมี คอร์บีน หวังว่าจะเป็นการจุดประกายให้ทั่วโลกปฏิบัติตาม และในขณะที่การประกาศภาวะฉุกเฉินทางสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นที่คนสนใจ รัฐบาลก็กำลังดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อมุ่งสู่นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่แข็งแกร่งขึ้น […]Read More
รัฐบาลในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ปรารถนาจะสร้างภาพลักษณ์ประเทศให้ดูทันสมัย ขณะเดียวกันกลับยังใช้บทลงโทษประหารอย่างเหี้ยมโหด สำหรับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานแล้ว เขาไม่ได้มองว่านั่นคือความขัดแย้ง หากแต่เป็นหนทางสู่อำนาจที่แท้จริง Reasons To Read: ผู้มีอำนาจในซาอุดีอาระเบียพูดถึง ‘วิถีการเปลี่ยนแปลงประเทศ’ ไปสู่ความเป็นชาติสมัยใหม่ที่ทันยุคสมัย มีการเชิญชวนต่างชาติเข้าไปลงทุน และมุ่งหวังให้การท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญของประเทศ อนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้ ในทางกลับกัน พวกเขาก็ลงโทษกลุ่มผู้หญิงที่เคยต่อสู้ เรียกร้องสิทธิเสมอภาคในการขับรถ ด้วยการทรมานอย่างทารุณ รัฐบาลเฝ้าจับตามองพลเมืองซาอุฯ ฝ่ายนิกายชีอะห์อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นฝ่ายสนับสนุนอิหร่าน ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของราชอาณาจักร กษัตริย์ซัลมาน และพระโอรสองค์โปรด มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งโดยพฤตินัยแล้วเป็นผู้บริหารแผ่นดิน ต้องการจะครองอำนาจ และปรารถนาจะนำพาซาอุดีอาระเบียให้พ้นจากสภาวะล้มละลายทางเศรษฐกิจ รัฐบาลในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ปรารถนาจะสร้างภาพลักษณ์ประเทศให้ดูทันสมัย ขณะเดียวกันกลับยังใช้บทลงโทษประหารอย่างเหี้ยมโหด สำหรับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานแล้ว เขาไม่ได้มองว่านั่นคือความขัดแย้ง หากแต่เป็นหนทางสู่อำนาจที่แท้จริง ใครที่ติดตามความเปลี่ยนแปลงของซาอุดีอาระเบียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คงต้องตั้งคำถามว่า ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศนี้มีความสอดคล้องกันอย่างไร ผู้มีอำนาจพูดถึง ‘วิถีการเปลี่ยนแปลงประเทศ’ ไปสู่ความเป็นชาติสมัยใหม่ที่ทันยุคสมัย มีการเชิญชวนต่างชาติเข้าไปลงทุน และมุ่งหวังให้การท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญของประเทศ ยินยอมให้จัดคอนเสิร์ตดนตรีป๊อป อนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้ ในทางกลับกัน พวกเขาก็ลงโทษกลุ่มผู้หญิงที่เคยต่อสู้ […]Read More
Marvel Studios ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยรายชื่อหนังแต่ละเรื่องในเฟส 4 ก็จริง แต่เพื่อไม่เป็นการใจร้ายจนเกินไป จึงประกาศวันเข้าฉายของหนังออกมาแล้ว โดยเป็นไทม์ไลน์ที่ยาวถึงปี 2022 เลยทีเดียว Reasons to Read: ตอนนี้ทางสตูดิโอคงยังไม่พร้อมจริงๆ ที่จะเปิดเผยรายชื่อหนังแต่ละเรื่องในเฟส 4 แต่เพื่อไม่เป็นการใจร้ายจนเกินไป พวกเขาได้ประกาศวันเข้าฉายของหนังออกมาแล้ว โดยเป็นไทม์ไลน์ที่ยาวถึงปี 2022 เลยทีเดียว (แต่จริงๆ ดิสนีย์มีกำหนดวันเปิดตัวภาพยนตร์ยาวถึงปี 2027 แล้ว) ปี 2022 อาจเป็นไปได้ว่า ‘Captain Marvel 2’ อาจจะมาเปิดศักราชให้จักรวาลมาร์เวล มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะมีหนังจากสตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง FOX ออกมาให้ดูด้วยก็เป็นได้ ตอนนี้ ‘Avengrs : Endgame’ หนังรวมซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดจาก ‘จักรวาลหนังมาร์เวล’ (Marvel Cinematic Universe) หรือ MCU กำลังเดินหน้าทำรายได้อย่างถล่มทลาย จนล่าสุดมีลุ้นว่าอาจจะโค่นแชมป์เก่าหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลอย่าง ‘Avatar’ ด้วยรายได้ทะลุ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งที่เข้าฉายยังไม่ถึงเดือน อีกหนึ่งเรื่องที่ ‘ดิสนีย์’ (Disney) และ ‘มาร์เวล […]Read More
นาซ่าทดลองส่งหนู 20 ตัวไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ใน ‘แหล่งอาศัยของสัตว์ฟันแทะแห่งนาซ่า’ ซึ่งการทดลองนี้นำโดย เอพริล รอนกา ของศูนย์วิจัยนาซ่าอาเมส เพื่อศึกษาว่าพฤติกรรมของพวกหนูจะเปลี่ยนไปอย่างไรในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานของการเดินทางในอวกาศ Reasons to Read องค์การนาซ่ากำลังหาวิธีส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคาร การทำความเข้าใจปฏิกิริยาของมนุษย์อวกาศต่อการใช้เวลานานในอวกาศจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง หนูที่ถูกส่งไปยังอวกาศมีพฤติกรรมทั่วไปของสายพันธุ์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการกินอาหาร การทำความสะอาดขนด้วยตัวเอง การจับกลุ่มและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ภายใน 7-10 วัน หลังจากการปล่อยตัวสู่อวกาศ พบว่าหนูตัวเล็กจะเริ่มแสดงพฤติกรรมซ้ำๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยการเคลื่อนที่ไปรอบๆ กรงด้วยความเร็ว นาซ่าทดลองส่งหนู 20 ตัวไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ใน ‘แหล่งอาศัยของสัตว์ฟันแทะแห่งนาซ่า’ ซึ่งการทดลองนี้นำโดย เอพริล รอนกา (April Ronca) ของศูนย์วิจัยนาซ่าอาเมส (NASA Ames Research Center) เพื่อศึกษาว่าพฤติกรรมของพวกหนูจะเปลี่ยนไปอย่างไรในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานของการเดินทางในอวกาศ เนื่องจากขณะนี้องค์การนาซ่ากำลังหาวิธีส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคาร การทำความเข้าใจปฏิกิริยาของมนุษย์อวกาศต่อการใช้เวลานานในอวกาศจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Scientific Reports เอพริล รอนกา และเพื่อนร่วมงานอธิบายว่า พวกเขาส่งหนูเพศเมียจำนวน 20 ตัว ไปที่สถานีอวกาศนานาชาติ […]Read More
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระราชพิธีที่มีมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล การประกอบพระราชพิธีแต่ละขั้นตอนล้วนมีความความศักดิ์สิทธิ์ แสดงถึงวัฒนธรรมอันดีงามและการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกคือการถวาย ‘เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์’ ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชา และ ‘เครื่องราชูปโภค’ 4 อย่าง ที่ออกแบบมาอย่างประณีตสวยงาม ให้เหมาะสมเป็นไปตามพระราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชา ซึ่งพราหมณ์ผู้ทำพิธีจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในวันที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นเครื่องแสดงว่าได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดินถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ประกอบด้วยพระมหาพิชัยมงกุฎ, พระแสงขรรค์ชัยศรี, ธารพระกร, วาลวิชนี (พัดและแส้) และฉลองพระบาทเชิงงอน ซึ่งแต่ละอย่างมีลักษณะและความหมายดังนี้ พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นพระมหาพิชัยมงกุฎทองคำลงยาราชาวดีประดับเพชร สูง 66 เซนติเมตร น้ำหนัก 7.3 กิโลกรัม สร้างขึ้นเป็นเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ในรัชกาลที่ 1 ในครั้งนั้นยอดพระมหาพิชัยมงกุฎยังเป็นพุ่มข้าวบิณฑ์ประดับเพชรเม็ดเล็กๆ จนถึงรัชกาลที่ 4 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยไปเลือกสรรหาซื้อเพชรขนาดใหญ่มาจากประเทศอินเดีย นำมาประดับยอดมงกุฎแทนพุ่มข้าวบิณฑ์ พระราชทานเพชรเม็ดนี้ว่า ‘พระมหาวิเชียรมณี’ เพชรเม็ดนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.6 เซนติเมตร สูงประมาณ 1.4 เซนติเมตร พระแสงขรรค์ชัยศรี เป็นพระขรรค์โบราณ เชื่อกันว่าเป็นพระราชศาสตราคู่บ้านคู่เมืองเขมร สมัยพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ จมอยู่ในทะเลสาบเมืองนครเสียมราฐ มาเป็นเวลานานเท่าใดไม่มีใครทราบ ชาวประมงไปทอดแหติดขึ้นมา […]Read More
กระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค เป็นโบราณพิธีที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ตามหลักฐานโบราณกล่าวว่า การจัดกระบวนแห่เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครจัดเป็นกระบวนพยุหยาตราอย่างมโหฬาร เพียบพร้อมด้วยกำลังทหารเหล่าต่างๆ กระบวนพระบรมราชอิสริยยศอึงมี่ด้วยเสียงประโคม กลองชนะ แตร และสังข์ พระมหากษัตริย์จะเสด็จพระราชดำเนินทั้งไปจนกว่าจะรอบมณฑลราชธานี เพื่อบำรุงสวามิภักดิ์และแสดงพระเดชานุภาพ กระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค เป็นอีกหนึ่งพระราชพิธีสำคัญในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ถือเป็นโบราณพิธีที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย สืบทอดต่อกันจนสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน โดยเป็นการเสด็จพระราชดำเนินทางบกของพระมหากษัตริย์ กระทำโดยเสด็จเลียบพระนครเพื่อให้ราษฎรได้มีโอกาสเข้าเฝ้าชมพระบารมีและแสดงความจงรักภักดีแด่พระมหากษัตริย์องค์ใหม่ แต่เดิม การเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค นอกจากเพื่อให้ราษฎรมีโอกาสเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ ก็กระทำเพื่อเป็นการแสดงพระเดชานุภาพให้ผู้ใดคิดร้ายได้หวั่นเกรง โดยตามหลักฐานโบราณกล่าวว่า การจัดกระบวนแห่เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครจัดเป็นกระบวนพยุหยาตราอย่างมโหฬาร เพียบพร้อมด้วยกำลังทหารเหล่าต่างๆ แห่นำและตามเสด็จองค์พระมหากษัตริย์ กระบวนพระบรมราชอิสริยยศอึงมี่ด้วยเสียงประโคม กลองชนะ แตร และสังข์ พระมหากษัตริย์จะเสด็จพระราชดำเนินทั้งทางชลมารค (ทางน้ำ) และสถลมารค (ทางบก) ไปจนกว่าจะรอบมณฑลราชธานีเพื่อบำรุงสวามิภักดิ์และแสดงพระเดชานุภาพแก่พสกนิกรทั้งปวง ทว่ากาลสมัยที่เปลี่ยนไป จุดมุ่งหมายของพิธีนี้ก็เปลี่ยนเหลือเพียงเพื่อให้พระราชพิธีเป็นไปโดยถูกต้องตามโบราณราชประเพณีเท่านั้น อีกทั้งทรงเห็นว่าเป็นการลำบากโดยไม่จำเป็น จึงมีการย่นระยะทางเหลือเพียงเลียบพระนครราชธานี และต่อมาก็ย่อลงอีก เหลือเพียงเสด็จเลียบพระนครทางเรือ ส่วนทางบกนั้นแห่เสด็จเพียงรอบพระบรมมหาราชวัง กระบวนพยุหยาตราสถลมารค ตามพระราชพงศาวดารสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยนี้ ได้มีการแห่กระบวนพยุหยาตราสถลมารคเนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมาแล้วทั้งสิ้น 7 ครั้งด้วยกัน ดังนี้ สมัยรัชกาลที่ 1 บันทึกการเสด็จเลียบพระนครไว้ เมื่อ พ.ศ. 2328 […]Read More
การปกครองโดยพระมหากษัตริย์ หรือราชาธิปไตย (Monarchy) เป็นหนึ่งในระบอบการปกครองที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งสืบทอดมาจากระบบการปกครองแบบมีหัวหน้าเผ่า ปัจจุบันมี 43 ประเทศที่ยังคงมีระบอบกษัตริย์ จากทั้งหมด 196 ประเทศทั่วโลก หรือคิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ Reasons to Read การปกครองโดยพระมหากษัตริย์ หรือราชาธิปไตย (Monarchy) เป็นหนึ่งในระบอบการปกครองที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งสืบทอดมาจากระบบการปกครองแบบมีหัวหน้าเผ่า ปัจจุบันมี 43 ประเทศที่ยังคงมีระบอบกษัตริย์ จากทั้งหมด 196 ประเทศทั่วโลก หรือคิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ และนี่คือรายพระนามพระมหากษัตริย์จากทั่วโลกที่เสด็จขึ้นครองราชย์ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา การปกครองโดยพระมหากษัตริย์ หรือราชาธิปไตย (Monarchy) เป็นหนึ่งในระบอบการปกครองที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งสืบทอดมาจากระบบการปกครองแบบมีหัวหน้าเผ่า ปัจจุบันมี 43 ประเทศที่ยังคงมีระบอบกษัตริย์ จากทั้งหมด 196 ประเทศทั่วโลก หรือคิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ ในบรรดาประเทศเหล่านี้ อำนาจของพระมหากษัตริย์ก็จะแตกต่างกันไป โดยแบ่งเป็น 4 ลักษณะคือ ประเทศที่กษัตริย์ปกครองแบบมีอำนาจเต็มที่, ประเทศที่กษัตริย์ปกครองแบบมีอำนาจกึ่งหนึ่ง, ประเทศที่กษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ของรัฐ และประเทศในเครือจักรภพ […]Read More