นางฟ้าวงการเทนนิสผู้เคยมีเงินติดตัวเพียง 700 เหรียญ
เรื่อง: สันทัด โพธิสา
ปลายเดือนก่อน แม้จะมีข่าวใหญ่สารพัดทั้งโลกออนไลน์-ออฟไลน์ แต่ก็มีข่าวหนึ่งที่ผุดขึ้นมาให้เราใจหายไม่น้อย มันเป็นข่าวการอำลาอาชีพนักเทนนิสของ ‘นางฟ้าแห่งวงการเทนนิส’ มาเรีย ชาราโปวา…
กล่าวไม่ผิดไปหรอกครับ, สำหรับฉายา ‘นางฟ้า’ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า เหล่ากระทาชายทั่วโลก คงเคยติดตามดูเธอลงแข่งขันเทนนิสกันมาบ้าง ไม่ว่าจะดูเพราะเธอสวย เธอหุ่นดี หรือจะติดอกติดใจเสียงร้องของเธอยามเมื่อนำแร็กเก็ตไปหวดเข้ากับลูกเทนนิส ทุกสุ้มเสียง ทุกท่วงท่า และทั้งหลายทั้งปวงของมาเรีย เป็นสิ่งที่พวกเรา…ล้วนหลงใหลในความเป็นเธอ
แต่ก็เหมือนตลกร้ายนะครับ ด้วยความสวย ความมีเสน่ห์ชวนมองนี่เอง กลับทำให้มีคนค่อนขอดแกมเหน็บแนมเอาว่า ‘ที่เธอดังเพราะสวย ไม่ใช่เก่ง’
เรื่องแบบนี้เหมือนเหรียญสองด้านว่าไหมครับ ถ้าคุณเลือกที่จะมองที่รูปลักษณ์ คุณอาจจะคิดว่า เธอไม่เก่ง ทว่าหากคุณมองสิ่งที่เธอทำมาตลอดอาชีพการเล่นเทนนิส ผู้หญิงคนนี้จัดว่าไม่ธรรมดาทีเดียว…
มาเรียเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ก่อนที่ตอนอายุ 7 ขวบ พ่อของเธอจะพาเธอมายังสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าฝึกที่วิทยาลัยเทนนิสที่มีชื่อว่า นิค บอลเลทเทอรี ตอนนั้นผู้คนรอบข้างบอกว่า มาเรียมีแววจะเอาดีทางกีฬาเทนนิสได้ นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มจับแร็กเก็ตเลยทีเดียว โดยโค้ชคนแรกในชีวิต ยูริ ยัตคิน เคยพูดถึงลูกศิษย์ของตัวเองไว้ว่า มาเรียมีพรสวรรค์ โดยเฉพาะการใช้มือกับสายตาของเธอ ที่มันประสานงานกันได้อย่างเหลือเชื่อ!
ทว่าในพรสวรค์ ตลอดจนความเก่งกาจที่ค่อยๆ ฉายประกายออกมา ในมุมกลับกัน, การย้ายมาใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา ก็ไม่ได้สวยหรูนัก ตอนหนึ่งในหนังสืออัตชีวิตประวัติของเธอที่ออกวางจำหน่ายในชื่อ Unstoppable: My Life So Far บอกเอาไว้ว่า เมื่อครั้งที่เดินทางมาถึงอเมริกากันสองพ่อลูก เธอกับคุณพ่อมีเงินติดตัวมาเพียง 700 เหรียญสหรัฐฯ (20,000 กว่าบาท) เท่านั้น ทั้งคู่ใช้ชีวิตในห้องเช่าเล็กๆ มีกิจกรรมเพียง 2 อย่างคือ ออกไปฝึกเทนนิส และฝึกภาษาอังกฤษผ่านทางรายการทีวี
“เมื่อไรที่ฉันคิดถึงแม่ ฉันจะโทรสัพท์ไปหาเธอแต่ไม่นาน เพราะค่าโทรข้ามประเทศแพงมาก ฉันร้องไห้ทุกครั้งที่รู้สึกเหงา แต่ก็คิดนะว่า ร้องไปก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ จึงสัญญากับตัวเองว่า จะไม่ร้องอีก แม้จะเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม” มาเรียกล่าวไว้ในหนังสือเล่มนั้น
จากความมุ่งมั่นที่ต้องการพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิม มาเรียสามารถเทิร์นโปรเป็นนักเทนนิสอาชีพได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี จากนั้นชื่อของเธอก็เริ่มถูกพูดถึง และเริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นๆ บวกกับรูปร่างหน้าตาที่เตะตากว่านักเทนนิสสาวคนใด ทั้งหมดส่งให้ นักเทนนิสสัญชาติรัสเซียคนนี้ กลายเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในเวลานั้น
ไม่น่าเชื่อว่า เวลาผ่านไปแค่เพียง 2 ปี และแล้ว มาเรีย ชาราโปวา ในวัยเพียง 18 ปี ก็ก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเทนนิสหญิงหมายเลข 1 ของโลก นับตั้งแต่ปี 2003-2015 เธอไม่เคยขาดถ้วยแชมป์แม้แต่ปีเดียว! มาเรียสามารถคว้าแชมป์เทนนิสประเภทหญิงเดี่ยวได้อย่างน้อยปีละ 1 แชมป์มาโดยตลอด สถิตินี้เป็นร้องแค่ สเตฟฟี่ กราฟ, มาร์ตินา นาฟราติโลวา และคริส เอเวิร์ต 3 นักเทนนิสหญิงรุ่นพี่เท่านั้นเอง
ทว่าชีวิตมีขาขึ้น ก็ต้องมีขาลง ในปี 2016 เกิดมีข่าวช็อกๆ ขึ้นมากับวงการเทนนิสโลก เมื่อมาเรีย ชาราโปวา ถูกตรวจพบว่ามีการใช้สารกระตุ้นเมลโดเนียม จนไม่ผ่านการตรวจโด๊ปเพื่อลงทำศึกในรายการออสเตรเลียน โอเพ่น 2016 จากคดีความดังกล่าว ส่งผลให้เธอถูกโทษแบนยาว 15 เดือน! แต่สิ่งที่ทำร้ายจิตใจเธอยิ่งกว่าการถูกลงโทษ นั่นคือ การถูกเพื่อนร่วมอาชีพรุมซ้ำเติมอย่างมากมาย
“มันน่าเสียใจที่ว่าคนเหล่านั้นไม่ได้รู้ความจริงเลยว่าเป็นอย่างไร แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ฉันทำได้ มีเพียงต่อสู้เพื่อแสดงความยุติธรรม และเมินเสียงวิจารณ์จากคนไม่รู้จริงเท่านั้น” มาเรียบอก
ภายหลังกลับจากโทษแบน ดูเหมือนเส้นทางอาชีพนักเทนนิสจะไม่สวยหรูสำหรับมาเรียอีกต่อไป เธอไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้เหมือนเดิม เรื่องมันมีสาเหตุมาจากอาการบาดเจ็บหัวไหล่ที่เรื้อรังมานาน แม้จะจะผ่านการผ่าตัดมาแล้วก็ตามที จนสุดท้ายมาเรียก็ออกมาประกาศว่า เธอตัดสินใจยุติเส้นทางการเล่นเทนนิสอาชีพลงในที่สุด
‘เสียดาย’ เป็นคำสั้นๆ ที่หลุดจากปากหลายคน เมื่อได้ทราบข่าวการอำลาครั้งนี้ ด้วยวัย 32 ปี มาเรียยังน่าจะไปได้อีกไกล ยิ่งเมื่อเทียบกับคู่รักคู่แค้นอย่าง 2 พี่น้องตระกูลวิลเลี่ยมส์ วีนัสและเซเรน่า ที่สมัยช่วงพีกๆ ถือเป็นคู่ปรับที่ขับเคี่ยวกันมาตลอด ปัจจุบันทั้งสองพี่น้องอายุปาเข้าไป 38-39 ปีแล้ว แต่แพสชั่นในโลกเทนนิสยังมาเต็มตลอด
แต่ถึงกระนั้น หากย้อนกลับมามองสิ่งที่มาเรียได้สร้างเอาไว้ เธอได้แชมป์มาทุกแกรนด์สแลมของโลก คว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวมาอีกอย่างน้อย 35 รายการตลอดอาชีพการเล่นเทนนิสกว่า 28 ปี นี่ยังไม่นับการได้รับการขนานนามให้เป็น 1 ใน 30 ตำนานเทนนิสหญิง ของนิตยสาร TIME หรือถูกยกให้เป็น 1 ใน 100 ผู้ยิ่งใหญ่สุดตลอดกาลของนิตยสาร FORBES เท่านี้ก็น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอแล้ว ที่ทำให้เธอตัดสินใจวางแร็กเก็ตลงอย่างไม่ยากเย็นอะไร
จากวันที่มีเงินติดตัวแค่ 700 เหรียญ ผู้หญิงคนนี้เคยทำสถิติเป็นนักกีฬาหญิงที่มีรายได้สูงสุดในโลก 11 ปีติดต่อกัน และเคยทำรายได้แตะไปถึง 285 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาแล้ว คงไม่ต้องบอกนะครับว่า เธอมาไกลแค่ไหน แต่หากย้อนกลับไปถึงเสียงค่อนแคะว่า เธอมีดีแค่ความสวย คงเป็นการยากเอาเรื่อง หากความสวยจะพาเธอมาไกลได้ขนาดนี้
เพราะเธอคือนักสู้คนหนึ่ง…
เส้นทางหลังยุติอาชีพการเป็นนักเทนนิสของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป แฟนๆ คงได้ติดตามกันเร็วๆ นี้ แว่วๆ ว่า เธอจะเบนเข็มมาสู่โลกธุรกิจและด้านแฟชั่นเต็มตัว อืม..หนุ่มๆ หลายคนคงยกมือสนับสนุนเห็นด้วย และอยากจะสารภาพกับมาเรียว่า พวกเราไม่ได้ติดตามเธอแค่ความสวย แต่…
ผู้หญิงสวยที่เล่นกีฬาเก่งน่ะ โคตรจะเซ็กซี่ที่สุดแล้วละครับ ในสายตาของพวกเรา…