fbpx

Alibaba จะชนะ Amazon ได้ไหม เมื่อยอมเปิดให้บริษัทอเมริกันลงขายสินค้าได้ในเว็บไซต์

หากเป็นเมื่อก่อน บริษัทสัญชาติอเมริกาจะสามารถซื้อของกับ Alibaba.com ได้เท่านั้น (ไม่อนุญาตให้ลงขาย) แต่ล่าสุด อาลีบาบาตัดสินใจเปิดแพลทฟอร์มให้กลุ่มธุรกิจจากสหรัฐฯ สามารถลงขายสินค้าได้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคู่แข่งคนสำคัญก็คือ Amazon.com ที่เป็นแพลทฟอร์มขายสินค้าออนไลน์เช่นเดียวกัน แล้วเป็นดังนี้ใครจะชนะ?

Reason to Read

  • 1 ใน 3 ของผู้ซื้อสินค้าจากเว็บไซต์อาลีบาบาอยู่ในประเทศสหรัฐฯ ส่วนบริษัทผู้ขายกว่า 95% เป็นบริษัทสัญชาติจีน ซึ่งเหตุผลที่อาลีบาบายอมให้บริษัทสัญชาติอเมริกันมาขายสินค้าแข่งกับบริษัทจีนก็เนื่องมาจาก การเติบโตของธุรกิจแบบ B2C นั้นน้อยกว่าแบบ B2B ถึง 5 เท่า!!

ต้องบอกเลยว่าเว็บไซต์แอมะซอน (Amazon) ที่ก่อตั้งโดย เจฟฟ์ เบโซส์ และเว็บไซต์อาลีบาบา (Alibaba) ที่ก่อตั้งโดย แจ็ก หม่า เป็นสองแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงทำให้สองเว็บไซต์นี้เป็นคู่แข่งของกันและกันไปแบบกลายๆ ทว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของเว็บไซต์อาลีบาบา ก็อาจทำให้เว็บไซต์แอมะซอนต้องเริ่มระวังตัวขึ้นมาสักหน่อยแล้ว

เมื่อวันอังคาร (23 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา เว็บไซต์อาลีบาบาประกาศว่า อนุญาตให้บริษัทสัญชาติอเมริกันขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ของตนได้ จากเดิมที่บริษัทในอเมริกาสามารถซื้อสินค้าจากอาลีบาบาได้เพียงอย่างเดียว โดยอาลีบาบาจะเน้นการซื้อขายไปที่กลุ่มธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้กลุ่มธุรกิจนี้ขายสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งต่างจากแอมะซอนที่เน้นการขายสินค้าจากบริษัทขนาดใหญ่ไปสู่กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กกว่าลงมา 

การที่อาลีบาบาตัดสินใจลงเล่นในตลาดซื้อขายสินค้าระหว่างองค์กรกับองค์กร หรือ B2B (Business-to-Business) ที่มีแอมะซอนเป็นคู่แข่งในครั้งนี้ ก็เนื่องจากความตั้งใจจะดึงดูดกลุ่มธุรกิจขนาดกลางถึงเล็กในอเมริกาให้หันมาใช้แพลตฟอร์มของตนเพื่อส่งเสริมด้านการค้าขาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต กลุ่มขายส่ง และกลุ่มตัวแทนจำหน่าย 

ซึ่งอีกหนึ่งสาเหตุที่เชื่อว่าทำให้อาลีบาบายอมเปิดแพลตฟอร์มให้บริษัทสัญชาติอเมริกันมาขายสินค้าแข่งกับผู้ขายชาวจีนที่คิดเป็น 95% ของเว็บไซต์ ก็อาจเนื่องมาจากการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซของกลุ่มธุรกิจแบบ B2B ที่ในปี 2016 มีมูลค่ามากกว่า 23.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดซื้อขายระหว่างองค์กรกับผู้บริโภค หรือ B2C (Business to Customer) มีมูลค่า 3.8 ล้านล้านเหรียญฯ เท่านั้น ทั้งยังพบอีกว่า 1 ใน 3 ของผู้ซื้อสินค้าในเว็บฯ อาลีบาบาก็อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย  

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ