A Must Have Timepiece
Boulton นาฬิกาสุดคลาสสิกที่ประดับบนข้อมือของอินเดียนา โจนส์ในภาคสุดท้ายจาก Hamilton
อินเดียนา โจนส์ นักโบราณคดีผู้เป็นวีรบุรษในตำนานหวนคืนจอเงินด้วยการสวมนาฬิการุ่น Boulton อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hamilton จากในยุค 1940s
นาฬิการุ่น Boulton ของ Hamilton เปิดตัวครั้งแรกในยุค 1940s ถือเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ดีที่สุดของคอลเล็กชันนาฬิกาคลาสสิกของอเมริกา โดยรุ่น Boulton นี้ได้ผ่านการแปลงโฉมใหม่หลายต่อหลายครั้ง พร้อมทั้งได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังคงความเป็นตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมมนและการนำสุนทรียศาสตร์สไตล์ Arc Deco เข้าสู่โลกยุคปัจจุบันอันเป็นเอกลักษณ์ หน้าปัดสีขาว พร้อมหน้าปัดย่อยที่สองขนาดเล็กและตัวเลขแบบอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้นาฬิกาคลาสสิกรุ่นนี้ผสมผสานมรดกที่มีมาอย่างยาวนานของ Hamilton เข้ากับความแม่นยำในการทำนาฬิกาแบบสวิสที่ทันสมัยที่สุด
Luminox Mil-Spec รุ่น 3350 มาตรฐานการยอมรับจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา
บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ลูมิน็อกซ์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จับมือ มอนเดนน์ (Mondaine) บริษัทแม่ของลูมิน็อกซ์ สัญชาติสวิสฯ ส่ง Luminox Mil-Spec รุ่น 3350 เยือนไทย ครั้งแรกของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
Mil-Spec ย่อมาจากคำว่า Military Specification ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นที่ผลิตตามมาตรฐานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ทั้งการผลิต วัสดุ คุณภาพ เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์หรือส่วนประกอบตามแบบมาตรฐานระดับสูงของ Mil-Spec โดยแท้ ตามมาตรฐานข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ MIL-PRF-46374G เรื่องการกันน้ำ ความทนทาน กลไกการทำงานระบบ ETA พร้อมเทคโนโลยี HeavyDrive ซึ่งเป็นเทคโนโลยีต้านแรงกระเทือน เพื่อป้องกันกลไกและเข็มนาฬิกา ให้สามารถใช้งานได้ต่อแม้ได้รับแรงกระทบกระเทือนที่รุนแรง และ PreciDrive ความเที่ยงตรงสูง +/- 10 วินาที/ปี ใช้วัสดุชนิดพิเศษสำหรับชิ้นส่วนบนตัวเรือนเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดออกซิเดชันจากน้ำเกลือและน้ำทะเล ขอบหน้าปัดนาฬิกาทำจากไทเทเนียมทำให้มีน้ำหนักเบา ป้องกันน้ำเกลือทะเลได้ดี แบตเตอรี่มีอายุยาวนานถึง 7 ปี กันน้ำได้ถึง 300 เมตร พร้อม CARBONOX™+ ของ Luminox ทำให้ตัวเรือนมีความทนทานเป็นพิเศษขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักเบา ขนาด 46 มม.จัดเป็นนาฬิการุ่นที่ทหาร หน่วยปฏิบัติการกู้ชีพเบื้องต้น นักผจญภัยต้องมี ตลอดจนผู้รักกีฬาอย่างแท้จริงที่ต้องการสวมใส่นาฬิกา สามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะใช้บนบก ในทะเล หรือในอากาศ
Aquis Small Second Date 45.5 มม. โฉมใหม่ของนาฬิกาไดฟ์เวอร์ จาก Oris
Oris นําเสนอประดิษฐกรรมแห่งเวลา รุ่น Aquis Small Second Date 45.5 มม. โฉมใหม่ของนาฬิกาไดฟ์เวอร์ประสิทธิภาพสูงที่แสดงเวลาและวันที่ซึ่งพร้อมที่จะลุยได้ทุกท่ีทุกเวลาทั้งยังโดดเด่นด้วยหน้าต่างย่อยแสดงวินาทีท่่ี่ตําแหน่ง9นาฬิกา พร้อมเข็มนาฬิกาท่ีเคลือบด้วยสารเรืองแสงSuper-LumiNova® ที่บ่งบอกว่่านาฬิกากําลังเดินอยู่ แม้ในสภาวะท่ี่มีแสงน้อย ซึ่งเป็นส่วนสําคัญของนาฬิกาดําน้ำ และยังสามารถกันน้ำ ได้ ถึงระดับ50 บาร์ (500 เมตร) ซึ่งรุ่น AquisDateโดยทั่วไปจะกันน้ำได้อยู่ที่ระดับ30บาร์(300เมตร) นอกเหนือจากนั้นแลวก็ยังคงคุณสมบัติอัน โดดเด่นของAquisDateที่นักดําน้ำไว้วางใจนั่นคือเม็ดมะยมแบบขันเกลียวพรอ้มบ่าป้องกัน วงแหวนขอบหน้าปัดเคลือบเซรามิกแบบหมุนได้ทิศทางเดียว และสายสเตนเลส สตีลหรือสายรับเบอร์ที่มาพร้อมเฟืองล็อคสายแบบบานพับที่ได้รับการจดสิทธิบตัรของOrisซึ่งสามารถปรับขยายได้ นอกจากนี้หน้าปัด ขอบหน้าปัดนาฬิกา และตัวเลือกสายรับเบอร์ทั้งหมดยังมาในเฉดสีน้ำเงินเข้มDeep Blue ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความลึกของมหาสมุทร
Piaget Polo Skeleton Arty แรงบันดาลใจจากงานศิลปะ Hexa Grace
เพียเจต์ (Piaget) รังสรรค์เรือนเวลาหนึ่งเดียวสุดพิเศษสำหรับงานประมูลนาฬิกาเพื่อการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ Only Watch 2023 ซึ่งจัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี เพื่อระดมทุนให้กับองค์กร Monegasque Association เพื่อสนับสนุนโครงการวิจัยเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ Duchenne muscular dystrophy โดยปีนี้ เพียเจต์ ส่งผลงาน Piaget Polo Skeleton Arty เข้าร่วมประมูล ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะ Hexa Grace โดยศิลปิน Victor Vasarely บนหลังคาของ Auditorium Rainier III ในประเทศโมนาโก มาพร้อมตัวเรือนโรสโกลด์ขนาด 42 มม. ที่มีความหนาเพียง 6.5 มม. เท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ 1200S1 ที่บางแบบสุดขั้วเพียง 2.4 มม. ซึ่งพัฒนาและผลิตขึ้นในโรงงานของเมซงเอง โดดเด่นด้วยบริดจ์สีเขียว, น้ำเงิน, โรสโกลด์ และสายสีน้ำเงินที่ดีไซน์ขึ้นพิเศษเฉพาะเรือนเวลาแบบหน้าปัดเปลือย Piaget Polo Skeleton Arty เรือนนี้เท่านั้น โดยงานประมูล Only Watch 2023 จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่กรุงเจนีวา
Seascoper 300 Black Edition เรือนเวลาที่มาพร้อมกับความเที่ยงตรงระดับโครโนมิตอร์
นับว่าเป็นหนึ่งในนาฬิกาสปอร์ตสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่หลงใหล และมีจิตใจอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักในการผจญภัยรวมถึงกิจกรรมกลางแจ้ง นำเสนอสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของความแข็งแกร่งและการออกแบบสไตล์สปอร์ตซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในนาฬิกาคอลเลคชั่น Seascoper ทุกรุ่น และจุดเด่นของเรือนเวลาระดับโครโนมิเตอร์รุ่นพิเศษนี้อยู่ที่การเลือกคุมโทนให้อยู่ภายใต้ความเข้มของสีดำด้านที่ได้จากการเคลือบด้วยกรรมวิธี DLC อันทำให้เกิดสีดำที่มีความดำยิ่งขึ้น เข็มของนาฬิกาและหลักชั่วโมงถูกออกแบบมาให้เป็นสีเทาอย่างตั้งใจ ให้การผสมผสานกับภาพรวมอย่างลงตัวแต่ทว่าก็ยังสร้างพลังอันน่าดึงดูดให้กับรุ่นที่มีความโดดเด่นนี้ ในส่วนของขอบตัวเรือนเซรามิคแบบดำเงามีการเซาะร่องและลงสีเทาอ่อนไว้ในส่วนของสเกลจับเวลาพร้อมกับสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมที่บริเวณ 12 นาฬิกาอีกด้วย และยังเป็นรุ่นที่ผลิตขึ้นเพียง 500 เรือนเท่านั้น โดยหนึ่งในจุดเด่นของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่สายยางดีไซน์สปอร์ตและยังมาพร้อมด้วยสายผ้าที่ผลิตขึ้นจากการรีไซเคิลขยะพลาสติกที่เก็บได้จากมหาสมุทร ซึ่งให้ความสบายในสไตล์ลำลอง สายทั้งคู่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ และให้สัมผัสที่เบาสบายไม่ระคายเคืองผิว นาฬิกาและอุปกรณ์ทุกชิ้นถูกบรรจุอยู่ภายในกล่องบ็อกเซ็ตดีไซน์พิเศษ และยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกซ่อนไว้ที่ฝาด้านหลังของนาฬิกา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของบานหน้าต่างเรือที่ถูกตกแต่งด้วยการปัดเส้นแฮร์ไลน์เป็นวงกลมล้อไปตามรูปทรง ยิ่งไปกว่านั้นที่บริเวณฝาหลังยังสลักหมายเลข COSC และหมายเลขประจำตัวเรือนในแบบคำภาษาอังกฤษเพื่อระบุว่าเป็นเรือนที่เท่าไหร่จากการผลิตแบบจำกัด 500 เรือน
SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023
ขอปิดท้ายแนะนำเรือนเวลาด้วยงานนี้ SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023มหกรรมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE ENCHANTING MASTERPIECE” ชวนสัมผัสประดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลา ผ่านนวัตกรรมชั้นเลิศอันทรงคุณค่า จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลก
Grand Seiko รุ่น SBGD213 : ผลงานชิ้นเอกอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของนาฬิกาสปริงไดรฟ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามของแผงคอสิงโต สัญลักษณ์แห่งความปรารถนาการก้าวสู่การเป็น King of watch ของ Grand Seiko ตัวเรือนขนาด 44.5 มม. หน้าปัดประดับเพชร 5.62 กะรัต และแซฟไฟร์สีน้ำเงิน 1.25 กะรัต มีจำนวนจำกัดเพียง 8 เรือนทั่วโลก และนำเข้ามาในประเทศไทย 1 เรือนเท่านั้น
Breitling Premier B09 Pendulum Limited Edition : นำเสนอตัวเรือนเรดโกลด์ 18K หน้าปัดสีน้ำเงิน และ สายอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาล การผสมผสานกันของหน้าปัดน้ำเงินซึ่งเป็นสีที่สื่อถึงทั้งไบร์ทลิ่งและเพนดูลัม จับคู่กับเรดโกลด์ดูสง่างามและประณีต นาฬิกาพรีเมียร์ เฮอริเทจ โครโนกราฟ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. เป็นแบบไขลานด้วยมือ โดยทุกเรือนจะมีการแกะสลักข้อความ “One of 30” ตอกย้ำความเอ็กซ์คลูซีฟของแต่ละเรือน ทั้งยังได้รับการรับรองคุณภาพ COSC และมีประสิทธิภาพกันน้ำได้ถึง 100 เมตร ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 30 เรือนในประเทศไทยเท่านั้น
FREDERIQUE CONSTANT รุ่น Highlife Worldtimer Manufacture : ผลิตเพียง 35 เรือน ประเทศไทยเมีพียง 1 เรือนเท่านั้น ด้วยฟังก์ชั่นแสดงเวลาแบบเข็มชั่วโมง นาที วินาที, เข็มแสดงวันที่, แสดงเวลารอบโลก, ประเภทเครื่อง FC-718 caliber, ระบบออโตเมติก ทุกฟังก์ชั่นสามารถปรับเปลี่ยนด้วยเม็ดมะยมเพียงเม็ดเดียว ตกแต่งลวดลายแกะสลักเพอร์ลาจ (Perlage) และลายวงกลมวน โคตส เดอ เฌแนฟ (Côtes de Genève) โดดเด่นด้วยตัวเรือนขัดเงา ทองคำ 18K สีโรสโกลด์ ขนาดหน้าปัด 41 มม. กระจกคริสตัลแซฟไฟร์นูนป้องกันรอยขีดข่วน ฝาหลังซีทรู หน้าปัดสีน้ำเงินตกแต่งด้วยลาย Sunray และลวดลายลูกโลกนูนตรงกลาง
MAURICE LACROIX รุ่น AIKON Automatic Limited Summer Edition : มีให้เลือกสามขนาดเคส โดยแต่ละขนาดมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง
ตัวเลือก
ตัวเรือนขนาด 35 มม. มาพร้อมกับหน้าปัด Ballerina Pink ซึ่งเป็นสีที่คล้ายกับรูปลักษณ์ของท้องฟ้ายามค่ำคืนก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า หรือผู้สวมใส่สามารถเลือกใช้หน้าปัดที่แต่งกายด้วย Tanager Turquoise ซึ่งเป็นสีที่ชวนให้นึกถึงน้ำทะเลตื้น ทั้งสองรุ่นมี index เพชรเพื่อแสดงชั่วโมง ลิมิเต็ดซัมเมอร์เอดิชั่น ขนาด 39 มม. เหมาะกับข้อมือทั้งชายและหญิง โดยมาในสี Ballerina Pink และTanager Turquoise ให้ความดึงดูดมีเสน่ห์และความมีชีวิตชีวาที่อ่อนเยาว์ สาวก Maurice Lacroix จะรับรู้ภาษาการออกแบบที่น่าดึงดูดของ AIKON
ปิดท้ายด้วยชุดลิมิเต็ดซัมเมอร์เอดิชั่นขนาด 42 มม. อีกครั้งที่หน้าปัด Tanager Turquoise ปรากฏตัว แต่คราวนี้มาพร้อมกับตัวเลือกหน้าปัดโซดาสีส้มที่มีจิตวิญญาณสูง เฉดสีหลังนี้สะท้อนโทนของดวงอาทิตย์เที่ยงวันและแสดงลักษณะที่กระฉับกระเฉงซึ่งยังคงไม่แบ่งแยกแม้ในขณะที่เมฆปรากฏขึ้น หน้าปัด Orange Soda ที่สอดคล้องกับรุ่น Limited Summer Edition ทุกรุ่นระบุชั่วโมง นาที วินาที และวันที่ แต่เน้นสีเงินในโทนสีดํา ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน
CASIO เผยโฉม G-SHOCK รุ่น Aurora Oval MTG-B3000PRB-1ADR : Limited Edition เพียง 100 เรือนเฉพาะในงานเท่านั้น
เรือนเวลาที่เปล่งประกายด้วยการออกแบบโลหะรูปแบบใหม่ เป็นการผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมตั้งแต่การคัดสรรวัสดุ การทำสี รวมถึงการตกแต่งชิ้นงานให้สมบูรณ์แบบ โดยการออกแบบนี้ี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันของแสงออโรรา บอเรลลีส (หรือที่รู้จักกันในชื่อ แสงเหนือ) โดดเด่นบนขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีล ที่ผ่านกระบวนการ Recrystallisation และ Deep-layer hardening เพื่อเพิ่มลวดลาย และความคงทน อีกทั้งเทคนิค rainbow ion-plated (IP) เพื่อให้ได้ขอบตัวเรือนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นการนำเสนอรูปแบบความงามที่น่าประทับใจผ่านคอลเลคชั่น MTG-B3000 Aurora Oval เรือนนี้ พร้อมทั้งเปิดตัวครั้งแรกในไทยกับ G-SHOCK Metal face ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ GM-5600CL-3DR, GM-2100CL-5ADR และ GM-110CL-6ADR (เพียงรุ่นละ 10 เรือน) นาฬิกาซีรีส์ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์หรูหราแบบออฟโรด โดยกรอบโลหะมีการเคลือบสีด้วยเทคนิคไอออน Ion-plated (IP) ไล่ระดับการขัดพื้นผิวโลหะเพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่หรูหราบนตัวเรือน ผสมผสานกับสายสีกึ่งโปร่งแสงแบบด้าน นอกจากนี้ภายในงานยังมีนาฬิกาไฮไลท์อื่นๆ อีกมากมาย