fbpx

What’s Next  2024 โลกแฟชั่นในปี2024 มีอะไรให้ติดตาม

เรื่อง :  Santichai Apornsri

เริ่มต้นปี 2024 หลายแวดวงมีการเปลี่ยนแปลง โลกของแฟชั่นก็เช่นกัน GM Live จะภาพมาส่องแวดวงแฟชั่น ว่ามีอะไรให้น่าติดตามกันบ้าง ทั้งเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ แว่นกันแดด และรองเท้า

Next In 2024 เทรนด์ที่ยังคงจะโดดเด่นในปี 2024

Denim

การกลับมาของ Diesel ที่ทำให้โลกแฟชั้นสั่นสะเทือนอีกครั้ง โดยเฉพาะโลโก้รูปตัว D ที่กลายเป็นของเก๋ประจำปีไปแล้วไม่ว่าจะมาในรูปแบบของเข็มขัด เสื้อ หรือกระเป๋า แต่ Diesel ก็ไม่ได้มีไอเท็มฮิตแค่กระโปรงเข็มขัด หรือเสื้อมกล้ามฉลุโลโก้รูปตัว D เท่านั้น แต่ยังนำเอาเทรนด์การใส่เดนิมในแบบเดนิมออนเดนิมกลับมาอีกครั้ง เสริมทัพด้วย Calvin Klein ที่มาพร้อมแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกอย่าง Jungkook ท่ีทำให้ใครๆ ก็หันกลับมาใส่เดนิมอีกครั้ง

ในปี 2024 เทรนด์เดนิมจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบการใส่โททัลลุคหรือเดนิมออนเดนิมทั้งชิ้นบนชิ้นล่าง มากไปกว่านั้น จะได้เห็นเดนิมที่แปลกตาไปมากกว่ากว่าเดิม การฟอกสีที่ทำให้ดูพิเศษยิ่งขึ้น และเทคนิค แพตเทิร์นต่างๆ ที่จะทำให้การสวมใส่เดนิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แน่นอนว่ายังคงมาในรูปแบบงานโอเวอร์ไซส์ เห็นได้จากรันเวย์ของ Louis Vuitton, Diesel, Ferrari, Balenciaga หรือ Y/Project

Sport

แม้สไตล์สปอร์ตจะไม่ห่างหายไปไหนบนรันเวย์ไม่ว่าจะซีซั่นไหนก็ตาม จะยังคงเห็นเสื้อผ้าสไตล์สปอร์ตอยู่เสมอ เนื่องด้วยเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ง่ายและใช้งานได้จริงมากที่สุดในวิถีชีวิตในปัจจุบัน แต่สไตล์สปอร์ตก็มีวิวัฒนาการของมัน มีความนิยมในแต่ละรูปแบบแตกต่างกันไป  เช่นเดียวกันกับในปี 2024 นี้ที่สไตล์สปอร์ตมาพร้อมกับเสื้อการแข่งขันกีฬา

ที่โดดเด่นที่สุดที่ซึ่งเห็นได้ตั้งแต่ในปี 2023 ก็คือเสื้อทีมฟุตบอล ที่ทั้งทีมฟุตบอลเองพยายามสร้างสรรค์ให้มีความเป็นแฟชั่นเข้าไปด้วย หรือการหยิบเอารูปแบบของเสื้อทีมฟุตบอลมาทำเป็นเสื้อแฟชั่น เหมือนกับ Louis Vuitton, Moromoro, Mowalola รวมไปถึงเสื้อในแบบอเมริกันฟุตบอล หรือฮอกกี้ เช่น Dsquared2, Benetton รวมไปถึงเสื้อของนักแข่งรถ หรือการใช้ลวดลายกราฟิกฉูดฉาดเหมือนกับเสื้อแข่งรถ เช่น Balenciaga หรือ Diesel

Sexy

การกลับมาเป็นผู้นำเทรนด์ของ Mugler ส่งให้เกิดผลกระทบที่สำคัญอย่างหนึ่งต่อโลกแฟชั่น นั่นก็คือเสื้อผ้าในแบบบอดี้สูท หรือชุดแนบเนื้อเว้าตรงนั้นตรงนี้ โชว์เรือนร่างทั้งหลาย และที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือเทรนด์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิง แต่นั้นทำให้เสื้อผ้าของผู้ชายเปลี่ยนไปด้วย เหมือนที่ได้เห็นพีพี-กฤษฏ์ หรือแจ็กสัน หวัง สวมใส่นั่นแหละ

ในปี 2024 เทรนด์เสื้อผ้าผู้ชายที่มีความเซ็กซี่จะยิ่งมีมากขึ้นไปอีก ตั้งแต่การสวมใส่เสื้อท่อนบนรัดๆ เพื่อโชว์รูปทรงของกล้ามเนื้อกับกางเกงทรงโอเวอร์ไซส์ ซึ่งถือเป็นเบสิก เรื่อยมาจนถึงเสื้อผ้าลูกไม้ หรือผ้าซีทรูที่เปิดเผยให้เห็นเนื้อหนังมากขึ้น ครอปท็อป เอวลอย เสื้อคอเว้าลึก ไปจนถึงเสื้อผ้าที่มีลูกเล่น ดีเทล การคัตเอาต์ ซึ่งจะเห็นได้ใน Diesel, Coperni, LaQuan Smith หรือ Dion Lee

Skirt

เทรนด์ผู้ชายใส่กระโปรงเป็นเทรนด์ที่มีมาเรื่อยๆ ด้วยกระแสการสวมใส่เสื้อผ้าในแบบไร้เพศ แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมแบบถึงที่สุดหรือในระดับแมส แต่ในปี 2024 นี้ เทรนด์นี้อาจจะกลับมาฮิตมากกว่าเดิมก็เป็นได้ เพราะไอดอลชายหลายคนได้โอบรับเอาเทรนด์นี้ไว้ โดยเฉพาะ Jungkook ในมิวสิควิดีโอ Too Much ที่สวมใส่กระโปรงยีนส์ผ่าหน้าชายรุ่ยทับกับกางเกงยีนส์อีกชั้นหนึ่ง และนี่แหละคือสไตล์การใส่กระโปรงในปี 2024 นี้

ซึ่งเห็นสไตล์ที่คล้ายคลึงกันนี้บนรันเวย์ของ Diesel ที่สวมกระโปรงทับกางเกง เช่นเดียวกันกับใน Rokh ที่ใช้กระโปรงป้ายพันรอบกางเกงอีกทีหนึ่ง เทรนด์กระโปรงป้ายในแบบใส่เดี่ยวๆ ยังเห็นได้ใน Marine Serre และ Y3 นอกจากนียังมีกระโปรงผ่าหน้าในแบบ GCDS กระโปรงผ้าตัดต่อในแบบ Balenciaga  และกระโปรงผ้าเดนิมในแบบ PONDER.ER

Crochet

ในปี 2023 หนึ่งในเทรนด์ฮิตแห่งปีก็เสื้อผ้าถักโครเชต์ หรือผ้านิต ผ้าไหมพรมต่างๆ ที่กลายเป็นยูนิฟอร์มหลักของหนุ่มๆ ในช่วงหน้าร้อน และดูเหมือนว่านวัตกรรมการสร้างเส้นใยผ้าในแบบต่างๆ ที่มาจากการรีไซเคิลจะยิ่งทำให้เทรนด์นี้ได้รับความนิยมและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทั้งการพัฒนารูปแบบ สีสันของเส้นใยที่นำมาใช้ รวมไปถึงแพตเทิร์น โครงชุดต่างๆ ที่สามารถนำเอาลักษณะของผ้าเหล่านี้มาใช้ได้

และแน่นอนว่าในซัมเมอร์ปี 2024 เสื้อผ้าโครเชต์หรือการถักนิตตัวบางทั้งหลายจะกลับมาอีกครั้ง ทั้งในรูปแบบคล้ายๆ เดิมอย่างใน Dries Van Noten, Marine Serre หรือ Coach แต่ก็จะมีการพัฒนาไปสู่รูปทรงต่างๆ ที่น่าสนใจ อย่างเชิ้ตตัวยาวในแบบ Fendi การผสมผสานกับผ้าในเท็กซ์เจอร์อื่นๆ ในแบบ Marine Serre หรือความโดดเด่นของเทคนิคในการสร้างสรรค์เนื้อผ้า การถักในแบบ JW Anderson

Workwear

ความฮิตของของการเกงคาร์โก้ในปี 2023 ที่กลายเป็นเทรนด์ระดับโลก ไม่จำกัดเฉพาะหัวเมืองแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังระบาดไปสู่ทั่วทุกท้องถนน ทั้งเสื้อผ้าในระดับไฮเอนด์ไปจนถึงสตรีทแบรนด์ รวมไปถึงประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน จะทำให้ถูกนำมาดัดแปลงพลิกแพลงต่ออีกครั้งในปี 2024 ในรูปแบบของเสื้อผ้าสไตล์เวิร์กแวร์ที่มีความสนุกสนานและแปลกตามากขึ้น

โดยเฉพาะฟังก์ชั่นของกระเป๋า ซึ่งเป็นจุดเด่นของเสื้อผ่าเวิร์กแวร์จะถูกนำมาใช้กับการผสมผสานกับเสื้อผ้าในสไตล์อื่นๆ อย่างชุดสูทใน Sacai การนำไปใช้กับเดนิมในแบบ Ferrari การเปลี่ยนแมตทีเรียลเป็นหนังในแบบ Louis Vuitton ผ้าร่มในแบบ Dries Van Noten หรือการนำไปใช้ในรูปแบบแอ็กเซสซอรี่ในสไตล์ Givenchy หรือเสื้อกั๊กของ Jacquemus

Sunglasses

ในปี 2023 รูปทรงของแว่นกันแดดที่กลายเป็นเทรนด์คือแว่นรูปทรงแบบตาของไอ้มดแดง หรือตาของสไปเดอร์แมน ซึ่งคือทรงวงรีเฉียงเหมือนกับแว่นสไตล์สปอร์ตของ Oakley ที่ถูกหยิบจับมาทำใหม่ และแน่นอนว่าผู้นำ      เทรนด์นั้นก็คือ Balenciaga และดูเหมือนว่าเทรนด์นี้จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปี 2024 เพราะมองไปยังรันเวย์ไหนเราก็จะเจอตาไอ้มดแดงเต็มไปหมด

Balenciaga เองซึ่งเป็นผู้นำเทรนด์แว่นตากันแดดทรงนี้ก็ยังคงผลิตรูปทรงนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการนำเสนอรูปทรงใหม่ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกันคือโค้งแนบไปกับใบหน้า อย่างแว่นทรงหน้ากากอินทรีย์แดงก็เป็นหนึ่งในนั้น ทรงคล้ายๆ กันนี้ยังเห็นใน Diesel หรือทรงที่ดูคล้ายกับแว่นตาดำน้ำในขนาดที่ดูเล็กกว่าหรือแว่นตาว่ายน้ำก็มีให้เห็นในแบบ Versace, Zegna หรือ Louis Vuitton ในขณะที่ Prada นั้นมาในแบบเลนส์ใส

Sneakers

ในขณะที่เทรนด์อื่นๆ มาแล้วก็ไป แต่เทรนด์และความนิยมนี้ยังคงเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือรองเท้าสนีกเกอร์  ปี 2023 ตลาดรองเท้าสนีกเกอร์มีมูลค่าสูงถึง 72.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2026 ไม่ว่าจะรันเวย์แบรนด์ไหน รองเท้าสนีกเกอร์คือไอเท็ม Must Have ที่แบรนด์ต้องมี พอๆ กับการต้องสร้างสรรค์กระเป๋า IT Bag ประจำซีซั่นให้ได้ และแน่นอนว่าหากเป็นรองเท้าสนีกเกอร์ในแบบแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์ คงไม่มีแบรนด์ไหนจะขายดีไปกว่า Balenciaga อีกแล้ว และ Balenciaga ก็มาพร้อมรุ่นใหม่ Cargo ที่ดูคล้ายกับรุ่น Triple S และรุ่น Trainer ที่พื้นหนา รูปทรงใหญ่เทอะทะ ซึ่งรูปทรงคล้ายกันนี้ยังเห็นได้ใน Diesel ในขณะที่ Coperni เลือกความเพรียวบางกับสนีกเกอร์รุ่นใหม่ที่เป็นงานคอลแล็บกันกับ PUMA หรือ Miu Miu เองก็เอางานคอลแล็บกับ New Balance กลับมาอีกครั้ง Loewe ก็มาพร้อมสนีกเกอร์รุ่นแรกของแบรนด์ ในขณะที่ Fendi เป็นไฮบริดผสมผสานทั้งสนีกเกอร์ คร็อค และสลิปออนไว้ด้วยกัน

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ