fbpx

นวัตกรรม คือ อนาคต กุญแจสำคัญเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย

“เราจะเห็นอนาคตได้ ถ้าเราเป็นคนสร้างอนาคตนั้นขึ้นมาเอง”

ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวไว้เนื่องในฐานะประธานในพิธีเปิดงาน สตาร์ทอัพและอินโนเวชั่น ไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023 (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023) หรือ SITE 2023 ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP – TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา

ในงานนี้ ได้กล่าวถึงมุมมองต่อ หุ้นส่วนนวัตกรรม ซึ่งเป็นธีมงานหลักของปีนี้ว่า จะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมได้ตามเป้าหมาย โดยให้แนวคิดว่า “นวัตกรรม” ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งอำนวยความสะดวก แต่ได้กลายเป็น “อนาคตของการยกระดับคุณภาพชีวิต คุณภาพสังคม และคุณภาพเศรษฐกิจ” ที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

การผลักดันนวัตกรรมสู่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ให้กลายเป็นผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม (Innovation-Based Enterprise) เป็นส่วนสำคัญของการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และยกระดับความสามารถเดิมที่มีให้สูงขึ้นไปในระดับสากล และจะช่วยแก้ปัญหารวมทั้งสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

ดังนั้น การส่งเสริมให้คนไทยเปลี่ยนบทบาทจากผู้บริโภค มาเป็นผู้สร้างสรรค์หรือเป็นผู้คิดนั้น แม้จะเป็นความท้าทาย แต่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติซึ่งจัดงาน SITE 2023 มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นทิศทางที่ดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งตอกย้ำด้วยความร่วมมือผ่านหุ้นส่วนนวัตกรรมของหลายภาคส่วน ยิ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดพลังความร่วมมือ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการพัฒนาที่เดินมาถูกทาง และทำให้แนวโน้มของการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นประเทศนวัตกรรมมีแนวโน้มประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เหมือนที่ได้เห็นผลจากการหว่านเมล็ดสร้างรากฐานสตาร์ทอัพและนวัตกรของไทยที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่นอกจากเติบโตในระดับประเทศยังมีความแข็งแรงในการเป็นผู้เล่นในระดับสากลด้วย

“เคยมีผู้กล่าวไว้ว่า วิธีดีที่สุดที่เราจะมองเห็นอนาคตได้ ก็คือการที่เราเป็นผู้สร้างอนาคตนั้นขึ้นมาเอง นั่นคือการสรุปบทบาทอันสำคัญยิ่งของนวัตกรรมต่อการพัฒนาประเทศ นวัตกรรมไม่ได้เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ “นวัตกรรม คือ อนาคต” อนาคตของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ลักษณะสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ดังที่ได้ปรากฏชัดมาแล้วในประวัติศาสตร์โลก จากโลกยุคเกษตรกรรม มาเป็นโลกยุคอุตสาหกรรม มาเป็นโลกยุคข้อมูลและสารสนเทศ ทั้งหมดนี้เกิดจากนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งสิ้น” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำและกล่าวด้วยว่า

ที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในด้านนวัตกรรม เพื่อให้มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ​ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านการแพทย์ อาหาร และยา ด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ ด้านเศรษฐกิจและสังคมอันสืบเนื่องมาจากการเพิ่มการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้ผลผลิตมีปริมาณและ/หรือมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมด้านวัฒนธรรม และในแง่ขององค์กร นวัตกรรมมีความสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ (comparative advantage) การเพิ่มผลผลิต (productivity) และผลตอบแทนของการลงทุน (Return on Investment) และการที่ไทยจะเป็นประเทศที่มีการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นเลิศได้ จึงจำเป็นจะต้องมีหุ้นส่วนในด้านนวัตกรรม (Innovation Partnership) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ ในการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในทุกๆ ด้าน

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวิสาหกิจกลุ่มใหม่ หรือสตาร์ทอัพ ว่า เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีลักษณะพิเศษ คือมีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการสามารถประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อมาสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และสร้างรายได้จำนวนมาก เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงเป็นวิสาหกิจแห่งอนาคตที่จะเป็นอีกหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว

“การส่งเสริมให้คนไทยเปลี่ยนจากการเป็นผู้บริโภคนวัตกรรม มาเป็นผู้ที่สามารถสร้างสรรค์และผลิตชุดความคิด หรือผลงานและสิ่งประดิษฐ์ใหม่นั้น ถือเป็นความท้าทายของประเทศ และเป็นนโยบายหลักนโยบายหนึ่งในการพัฒนาประเทศ งาน SITE 2023 ปีนี้ จะทำให้พวกเราระหนักถึงความสำคัญของพลังความร่วมมือ ระหว่างวิสาหกิจกลุ่มใหม่และภาคนวัตกรรมจากทุกภาคส่วน ในการสร้างเสริมการเติบโตและความแข็งแรงให้เรากลายเป็นผู้เล่นในระดับสากลได้”

พร้อมกันนี้ภายในงาน ทิ้งท้ายตัวอย่างความสำเร็จจากกลุ่มธุรกิจ องค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ทำให้เห็นผลสำเร็จดังที่กล่าวมาอย่างเป็นรูปธรรมจากการมอบรางวัล Prime Minister Award: National Startup 2023 จำนวน 7 ราย จาก 5 สาขา และรางวัล Innovation for Global Challenge จำนวน 3 องค์กร ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนมอบรางวัลภายในงาน SITE 2023

สำหรับรายชื่อองค์กรที่ได้รับรางวัลในหมวดต่าง ๆ ได้แก่

หนึ่ง-รางวัล Startup of the year ได้แก่ Lineman Wongnai โดยมี อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ เป็นตัวแทนรับรางวัล

สอง-รางวัล Evangelist of the Year ได้แก่ ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคม Thai Startup, รองคณบดีและอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร iTAX และ รศ.ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดี ด้านการวางและกาหนดยุทธศาสตร์ นวัตกรรมและพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สาม-รางวัล Investor of the Year ได้แก่ Innospace ในฐานะที่เป็น National Startup Platform ในการส่งเสริมและพัฒนาสตาร์ทอัพไทยให้พร้อมขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม

สี่-รางวัล Best Brotherhood of the Year ได้แก่ สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ในฐานะทำหน้าที่เป็นองค์กรสำคัญในการทำงานร่วมกับภาคเอกชน รัฐบาล และภาคประชาชน อันนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล การพัฒนาบุคคลากรด้านดิจิทัล ให้เกิดการประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ห้า-รางวัล Best of Contributor in Human Capital Development ได้แก่ Huawei ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และอุปกรณ์อัจฉริยะ ด้วยการแก้ปัญหาแบบครบวงจรและลงทุนในเรื่องการพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง และ STeP CMU อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสะพานแห่งการสร้างนวัตกรรม (Bridge for Innovation) ข้ามหุบเหวแห่งความท้าทาย (Valley of Challenge) โดยเชื่อมโยงและผสานการทำงานระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาชนสังคมที่อยู่ภายนอกมหาวิทยาลัยบนพื้นฐานของการนำทรัพยากรที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย (ผลงานวิจัย นักวิจัยและเครื่องมือวิจัย) มาใช้ประโยชน์และสร้างคุณค่า

อีก 3 รางวัล เป็นรางวัล Prime Minister Award: Innovation For Global Challenge เพื่อประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติแก่องค์กรที่มีศักยภาพส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมที่สามารถแก้ปัญหาความท้าทายในระดับสากล แบ่งเป็น 3 สาขา คือ

1) สาขา Competitiveness เป็นรางวัลเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติแก่องค์กรที่ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป (WHA) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีเป้าหมายในการสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทคใหม่ในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น การบิน พลังงานชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิทัล สุขภาพ และหุ่นยนต์ตามความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ฯลฯ

2) สาขา Environmental เป็นรางวัลเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติแก่องค์กรที่ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพในการผลักดันเรื่องสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จากที่มีการประกาศ KBank ESG Strategy 2566 ธนาคารด้าน ESG แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการ ESG พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน ESG ของกลุ่มธนาคารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำพาลูกค้าและธุรกิจไทยเดินหน้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

3) สาขา Social เป็นรางวัลเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติแก่องค์กรที่ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพในการผลักดันเรื่องสังคม ได้แก่ Young Happy กิจการเพื่อสังคม ที่มุ่งสร้างคอมมูนิตี้ของผู้สูงอายุในประเทศไทยและทั่วโลกโดยยังแฮปปี้ มีความตั้งใจสร้างสังคมเพื่อผู้สูงอายุและเปลี่ยนแปลงมุมมองของสังคมที่มีต่อผู้สูงอายุ

ศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ในฐานะหน่วยงานผู้จัดงาน SITE 2023 กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาสำนักงานฯ ทำหน้าที่ในฐานะหน่วยงานบูรณากรเชิงระบบ (System Integrator) โดยมุ่งมั่นในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบนวัตกรรมไทยและเชื่อมโยงการทำงานของทุกภาคส่วนภายใต้ระบบนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการนำนวัตกรรมไปขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย เช่น เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ฯลฯ

สำหรับก้าวต่อไปของ NIA ภายใต้บทบาทใหม่ของการเป็น “ผู้อำนวยความสะดวกทางนวัตกรรม หรือ Focal Facilitator” นั้น มุ่งเน้นการพัฒนาระบบนวัตกรรมที่เปิดกว้างในการเข้าถึงโอกาสและความร่วมมือในการพัฒนาระบบการเงินนวัตกรรม พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ข้อมูลนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ และพัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรที่พร้อมต่อความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทุกภาคส่วนพร้อมมุ่งสู่การเป็น “ประเทศแห่งนวัตกรรม (Innovation Nation)”

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ