fbpx

Office Syndrome: โรคประจำตัว ของผู้คนยุคสมัยใหม่ ที่แก้ได้ไม่ยาก หากรู้วิธี

ทำงานไม่พัก รักงานไม่หยุด ใครเป็นแบบนี้บ้าง แน่นอนว่าสำหรับหลายคน งานคือเครื่องพิสูจน์ความสามารถ ความสำเร็จ ความรับผิดชอบและคุณค่าทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง แต่อย่าลืมว่าถ้าโหมงานหนักเกินไปหรือจดจ่ออยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการเกิด ‘ออฟฟิศซินโดรม’ (Office Syndrome) โรคยอดฮิตที่ได้ยินชื่อกันมานาน แต่คนรักงานไม่เคยสลัดให้หลุดได้ซักที แถมอาการก็ไม่ใช่เล่น ๆ เพราะอาจลามไปสู่ปัญหาใหญ่ได้ภายหลัง ก่อนจะสายไป เราลองมาทำความรู้จักโรคนี้ พร้อมวิธีป้องกันและผ่อนคลายให้ร่างกายกลับคืนสู่สมดุลกันดีกว่า

ถึงไม่ได้ไปออฟฟิศก็เป็นออฟฟิศซินโดรมได้

Profile portrait of a young woman at the desk with a laptop, stretching, backache position. Business concept photo, lifestyle


ไม่ว่าตอนนี้ หลายคนจะเริ่มกลับไปทำงานที่ออฟฟิศหรือยังคงทำงานแบบ Work From Anywhere จะนอนอยู่บนเตียงหรือริมทะเล แต่รู้ไหมว่า สาเหตุของอาการออฟฟิศซินโดรมไม่ได้เกิดแค่จากการนั่งทำงานที่ออฟฟิศเท่านั้น แต่เป็นเพราะการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำนาน ๆ หรือใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง

โดยเฉพาะการ การนั่งผิดท่า งอตัว ก้มหน้า ไขว่ห้าง ฯลฯ หากไลฟ์สไตล์หรืออุปนิสัยและความเคยชินของเราทำให้เกิดอิริยาบถเหล่านี้เป็นประจำก็จะทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรมตามมาได้ไม่ยาก ปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่ คอ บ่า ไหล่สามจุดสำคัญที่ชาวสู้งานคุ้นเคยกันดี แต่ความจริงแล้วยังมีอาการอีกมากมายตามมา เช่น การปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดบริเวณหลัง เข่า ปวดตึงสะโพก รวมทั้งอาการของระบบประสาทอัตโนมัติและเส้นประสาทถูกกดทับ ทำให้ปวดหัวและไมเกรนกำเริบ นอนไม่หลับ ตาแห้ง ตาพร่ามัวและเหนื่อยล้า มึนงง วูบ แขนและเท้าชา อาการอ่อนแรง นิ้วล็อค

ยิ่งไปกว่านั้นความเครียดจากการทำงานยังส่งผลกระทบต่อจิตใจและสามารถลุกลามไปถึงระบบย่อยอาหารโดยที่เราไม่รู้ตัว หากปล่อยไว้นานก็อาจลุกลามไปกันใหญ่ จนเป็นอาการเรื้อรังที่กระทบต่อสุขภาพในระยะยาว อาการเหล่านี้ล้วนบ่งชี้ว่าร่างกายกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพและเริ่มส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เจ้าของร่างกายจะทำเป็นไม่รับไม่รู้แล้วฝืนสู้งานต่อไม่ได้แล้วนะ

แก้ออฟฟิศซินโดรม ต้องดูแลให้ครบด้าน

การดูแลรักษาออฟฟิศซินโดรมในปัจจุบันมีทางเลือกที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นการรักษาตามอาการ อย่างไรก็ตามอาการออฟฟิศซินโดรมเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ รวมถึงปัจจัยการดำรงชีวิต ดังนั้นการดูแลที่ดีที่สุดควรเป็นการดูแลแบบองค์รวม ในทุก ๆ ด้าน ทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การดูแลด้วยแพทย์แผนดั้งเดิมจากศาสตร์หลากหลายประเทศ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่  เพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาพในระยะยาว  

  • การฝังเข็ม ด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน

เพื่อบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม โดยเฉพาะการปวดคอ หลัง ไหล่และไมเกรน ซึ่งในบางกรณีอาจลุกลามพัฒนาไปเป็นอาการหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือกระดูกเสื่อมกดทับเส้นประสาท   อาการที่เกิดจากการกดทับจากการอยู่ในอิริยาบถเดิมนาน ๆ ทำให้เลือดไหลเวียนไปล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้น้อยลงจนกล้ามเนื้อเกิดเป็นพังผืด   สามารถดูแลได้ด้วยการฝังเข็มลงบนแนวเส้นลมปราณ จะช่วยให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้นและคลายความตึงของกล้ามเนื้อบริเวณที่มีอาการ  ทั้งนี้ การฝังเข็มนอกจากช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้ดีแล้วยังช่วยปรับฮอร์โมนให้สมดุลและปลดล็อคความตึงเครียดฝังลึกได้อีกด้วย

  • การนวดไทย  

ศาสตร์แพทย์แผนไทย เป็นศาสตร์การรักษาที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เน้นการสร้างสมดุลของธาตุในร่างกาย ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ    การนวดไทย ถือเป็นหนึ่งในแขนงศาสตร์แพทย์แผนไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลก จากองค์การยูเนสโก เน้นการใช้นิ้วและฝ่ามือในการส่งน้ำหนักและนวดคลึงบริเวณที่มีอาการปวดตึงอย่างตรงจุด แก้อาการออฟฟิศซินโดรมที่มักเกิดบริเวณกล้ามเนื้อและแนวกระดูกสันหลัง อาการชา ปวดกระบอกตาและกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง พร้อมการประคบร้อนด้วยสมุนไพรไทย ยิ่งช่วยคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวกขึ้น

  • เทคโนโลยีกายภาพบำบัดสมัยใหม่

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมายที่เข้ามาช่วยบำบัดและฟื้นฟูอาการออฟฟิศซินโดรม โดยใช้เครื่องมืออาทิ Shock Wave อัลตร้าซาวด์ เลเซอร์รักษา การกระตุ้นไฟฟ้าด้วยเครื่อง Peripheral Magnetic Stimulation (PMS) ซึ่งเป็นวิธีการกระตุ้นประสาทส่วนปลายด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า ทำการส่งคลื่นเข้ากระตุ้นเนื้อเยื่อ และการไหลเวียนของเลือดในตำแหน่งนั้น ๆ โดยไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บของอวัยวะโดยรอบ ช่วยบำบัดรักษาอาการปวด ชา และอาการทางประสาทต่าง ๆ ได้  อีกทั้งยังช่วยดูแลกล้ามเนื้อได้อย่างตรงจุด ลดอาการบาดเจ็บพร้อมปรับสมดุลกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลาย

  • การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมได้ในระยะยาว โดยเฉพาะ พิลาทิส ที่ถือว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างตรงจุด เพราะเน้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและข้อต่อกระดูกเป็นหลัก ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย ช่วยคลายผังผืดในกล้ามเนื้อที่ส่งผลโดยตรงกับอาการของออฟฟิศซินโดรม ทั้งยังช่วยพัฒนาความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

  • อายุรเวท ศาสตร์แพทย์แผนอินเดีย

ศาสตร์อายุรเวทนับเป็นศาสตร์การแพทย์แผนโบราณของอินเดียที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี และเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ในการรักษาออฟฟิศซินโดรม เน้นการดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจและความคิด ผ่านธาตุต่าง ๆ สร้างความเข้าใจต่อสภาวะร้อนและเย็นที่มีผลต่อร่างกาย ครอบคลุมทั้งการนวดบำบัดทรีตเมนต์ รวมทั้งการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสม เพื่อคืนพลังงานสมดุลให้มีชีวิตสมบูรณ์ยืนยาว

  • การดูแลจิตใจและความเครียด

การดูแลสภาวะจิตใจและความเครียด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการออฟฟิศซินโดรม เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรละเลย หากร่างกายเผชิญภาวะเครียดน้อยลง กล้ามเนื้อต่าง ๆ จะมีการผ่อนคลายมากขึ้น ปัจจุบันมีการนำศาสตร์พลังงานบำบัด คลื่นเสียง คลื่นแรงสั่นสะเทือน มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานด้านลบที่ส่งผลกระทบกับการทำงานของระบบประสาทส่วนต่าง ๆ  ช่วยปรับกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลาย ส่งผลให้นอนหลับสนิทขึ้น พร้อมประสานร่างกายกับจิตใจให้กลับมาทำงานได้อย่างสมดุลอีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม การรักษาแต่ละศาสตร์ต่างมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดของการแก้ไขปัญหาเฉพาะด้าน การรักษาและบรรเทาอาการของออฟฟิศซินโดรมเรื้อรังให้ได้ผลอย่างยั่งยืน จึงไม่อาจเน้นการดูแลเพียงแค่ด้านใดด้านเดียว แต่ควรผสมผสานวิธีการดูแลสุขภาพจากหลายศาสตร์ รวมถึงปรับพฤติกรรม รูปแบบการใช้ชีวิตและดูแลเรื่องอาหารการกินใหม่ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกายและจิตใจจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างครบด้าน

ทั้งนี้ การทำความเข้าใจใน ‘สภาวะสุขภาพที่แท้จริงของตนเอง’ ก่อนนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ เพราะแม้จะเป็นออฟฟิศซินโดรมเหมือนกัน แต่ร่างกายและจิตใจของแต่ละคนก็มีความต้องการที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนแตกต่างกัน การตรวจวิเคราะห์และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้เราทราบถึงจุดที่ควรปรับปรุง เลือกวิธีรักษาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตที่เหมาะสมโดยเฉพาะกับร่างกายของตนเอง  

ที่ RAKxa Wellness ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในเอเชีย เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเชิงป้องกันที่ผสมผสานวิทยาการทางการแพทย์ และศาสตร์แห่งการบำบัดหลากหลายแขนง ทั้งการแพทย์แผนจีน แผนไทย แผนอินเดียและพลังงานบำบัด เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ นักกายภาพบำบัด นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ทำงานร่วมกันในการวิเคราะห์ร่างกาย โดยใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย เพื่อร่วมออกแบบโปรแกรมการดูแลสุขภาพ บนพื้นฐานของการแก้ไขปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพของสุขภาพที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล พร้อมทั้งนักโภชนาการทีทำงานร่วมกับเชฟคอยดูแลด้านอาหารภายใต้ คอนเซ็ปต์ อาหารต้านการอักเสบ เสิร์ฟรสชาติดีอุดุมไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติและโภชนาการที่เหมาะสม ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากภายในสู่ภายนอก

เอาใจสายรักงานแต่สุขภาพก็ต้องรักด้วยที่ RAKxa Wellness จัดแพ็กเกจ Office Syndrome Relief ที่ถูกใจคนรักงาน เน้นการคืนความผ่อนคลายให้แก่กล้ามเนื้อที่ตึงเครียดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ามาเป็นเวลานาน เริ่มจากการวิเคราะห์ต้นตอของอาการออฟฟิศซินโดรมเพื่อออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล พร้อมให้คำแนะนำโดยแพทย์และ
ผู้ชำนาญจากหลากหลายศาสตร์ ปรับไลฟ์สไตล์ให้คุณแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว และ
ทรีตเมนต์บำบัดที่เหมาะสมตรงจุดซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปัจจุบัน พร้อมฟื้นฟูจิตใจจากช่วงเวลาอันเหนื่อยล้า สร้างความรู้สึกโล่งเบาสบาย แน่นอนว่าถ้ากายและใจกลับสู่สมดุล เราก็สามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ