ถึงอยู่บ้านก็ชมวิวได้ กับ 9 หนังวิวสวยดูเพลินดู
เรื่อง : Softlens
เพราะเรากำลังอยู่ในภารกิจอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แม้ว่าต้องงดการออกไปนอกบ้าน ออกไปท่องเที่ยว ที่ทำกันเป็นประจำทุกปีในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะอดไปเสียทุกอย่าง อย่างน้อยลิสต์ภาพยนตร์เล็กๆ นี้จะช่วยให้เพลิดเพลิน ชมวิวสวยๆ ดูกันแบบสบายๆ เรียกว่าเอ็นจอยกันได้ทุกเพศทุกวัย
1.The Sound of Music (1965)
แนว : ภาพยนตร์เพลง-ครอบครัว
เปิดเรื่องแรกขอย้อนไปที่ภาพยนตร์เพลงระดับตำนาน อย่าง The Sound of Music หรือชื่อไทยว่า มนต์รักเพลงสวรรค์ นำแสดงโดย จูลี่ แอนดรูว์ ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากละครเพลงชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องของหญิงสาวผู้รักเสียงเพลงชื่อมาเรีย และเป็นแม่ชีฝึกหัดในเมืองซาลซ์บูร์ก ออสเตรีย ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เธอได้รับมอบหมายจากคุณแม่อธิการให้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก 7 คน ของ จอร์จ ฟอน แทรปป์ ทหารเรือพ่อหม่ายผู้เคร่งครัด
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีอายุมากกว่าครึ่งศตวรรษและดำเนินเรื่องค่อนข้างอืดอาดตามสไตล์หนังเพลงยุคนั้น แต่เป็นหนังที่คว้ารางวัลระดับโลกมามากมายและมีแฟนคลับเหนียวแน่นอยู่ทั่วโลก ด้วยเนื้อหาที่เปี่ยมด้วยความหวัง ที่พอเริ่มเปิดฉากไม่ทันไรรู้ตัวอีกทีคุณจะหลงเข้าไปบทเพลงและฉากอันสวยงามอลังการของเมืองซาลซ์บูร์กและทิวเขาสุดลูกหูลูกตายุค 60 แบบไร้ CG ใดๆ สมชื่อเรื่องภาษาไทยจริงๆ
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0059742/
2. The Lord of the Rings (2001–2003)
แนว : ผจญภัย-แฟนตาซี
เรื่องนี้คงไม่ต้องเล่าเยอะ กับภาพยนตร์มหากาพย์ที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักดินแดนแห่งจินตนาการที่มีชื่อว่า มิดเดิลเอิร์ธ ที่มีทั้ง มนุษย์ เอลฟ์ ฮอบบิท คนแคระ พ่อมด และอีกมากมาย โดนใจแฟนหนังรุ่นเยาว์ โดยตลอดทั้งเรื่องผู้ชมจะได้เห็นสุดยอดทิวทัศน์ตระการตา ทั้งทุ่งหญ้า หมู่บ้าน ภูเขา ธารน้ำ และอีกสารพัดธรรมชาติ แท้จริง คือ โลเคชั่นในนิวซีแลนซ์เป็นส่วนใหญ่ มีบางฉากผสม CG เข้ามาช่วยบ้าง แต่วิวส่วนใหญ่ก็ยังทำให้ผู้ชมทึ่งอยู่ดี
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0120737/
3.The Secret Life of Walter Mitty (2013)
แนว : ฟิลกู้ด-สร้างแรงบันดาลใจ
ขยับมาใกล้ชีวิตจริงอีกหน่อย ใน The Secret Life of Walter Mitty อีกหนึ่งหนังแนวสร้างแรงบันดาลอันดับต้นๆ ที่ใครๆ ต้องเอ่ยถึงเมื่อยกตัวอย่างถึงหนังแนวนี้ แม้พล็อตเรื่องจะแสนธรรมดา แต่ตัวหนังใส่ลูกเล่นและครีเอตมุมกล้องได้อย่างน่าดู และเชื่อว่าพล็อตเรื่องคงไปโดนกับชีวิตใครหลายๆ คน ที่เสี่ยงกับการตกงานเมื่อโลกแห่งการทำงานเข้าสู่ภาวะ disruption สะท้อนผ่านชีวิตของวอลเตอร์ มิตตี้ ผู้จัดการฝ่ายฟิล์มเนกาทีฟสำนักงานนิตยสาร “Life” ผู้ที่มักหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของตัวเองอยู่บ่อยๆ จนเกิดเหตุพลิกผันเมื่อนิตยสารปรับตัวไปเป็นนิตยสารออนไลน์ และสถานการณ์ทำให้เขาต้องออกเดินทางตามหาฟิล์มหมายเลขที่ 25 หายไป
การตามหาของเขาเหมือนพาเราเดินทางไปรอบโลก เสพวิวประหนึ่งพลิกดูหน้านิตยสาร National Geographic ผ่านหน้าจอ ตั้งแต่นิวยอร์ก กรีนแลนซ์ ไอซ์แลนด์ เยเมน ที่ซึ่งสุดท้ายผู้ชมจะได้เรียนรู้และจุดประกายการใช้ชีวิตให้หลุดไปจากห้องทำงานสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0359950/
4.EAT PRAY LOVE (2010)
แนว : ฟิลกู้ด-สร้างแรงบันดาลใจ
เรื่องนี้ตัวเอกของเราเป็นผู้หญิง นำแสดงโดย จูเลีย โรเบิตส์ นางเอกสาวยิ้มกว้าง สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกับหนัง เรื่องของ ลิซ กิลเบิร์ต หญิงสาวผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ทว่าเธอกลับรู้สึกว่าชีวิตของเธอว่างเปล่าและสับสน เธอจึงตัดสินใจออกเดินทางเพื่อแสวงหาคำตอบอะไรบางอย่าง
ภาพยนตร์จะพาคุณไปพบกับวิถีชีวิต อาหาร ทิวทัศน์ และความเชื่อใน 3 ประเทศ ทั้งอิตาลี, อินเดีย และบาหลี แม้พล็อตเรื่องเหมือนจะดูค้นหาปรัชญา แต่ตัวหนังเล่าออกมาได้อย่างเรียบง่าย ดูสบาย อาจเพราะความเป็นจูเลีย โรเบิตส์ การแสดงของเธอจึงซ่อนกลิ่นความเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ ซึ่งเป็นแนวถนัดของเธอ จึงทำให้อารมณ์ของหนังค่อนข้างเสพง่าย
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0879870/
5.MAMMA MIA (2008)
แนว : โรแมนติก-คอมเมดี้-เพลง
MAMMA MIA คือ อีกหนึ่งหนังที่จะพาเราไปสัมผัสสวรรค์บนดิน ด้วยทิวทัศน์สีฟ้ากระจ่างของท้องฟ้าและพื้นมหาสมุทร บนประเทศกรีซและอังกฤษ กับเรื่องราวสุดชุลมุนดัดแปลงมาจากละครเพลงที่ใช้บทเพลงของ ABBA จนสร้างปรากฏการณ์มาแล้วทั่วโลก นำแสดงโดย เมอริล สตรีพ นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออกสาร์ ที่มารับบท ดอนน่า คุณแม่ของโซฟี (อแมนด้า ไซย์ฟริด) หญิงสาวที่ต้องการตามหาคุณพ่อตัวจริงให้ได้ก่อนที่เธอจะเข้าพิธีวิวาห์
ด้วยบทเพลงแนวลั้นลาสไตล์ ABBA บวกกับฉากท้องทะเลอันงดงามกับรีสอร์ทเล็กๆ แสนน่ารัก จะพาให้เราสนุกสนานและเคลิ้มไปกับภาพที่อยู่ตรงหน้า จนต้องหลุดปากออกมาเลยว่า นี่หรือคือสถานที่ที่มีอยู่จริงบนโลกนี้
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0795421/
6.Letter to Juliet (2010)
แนว : โรแมนติก-คอมเมดี้
อีกเรื่องกับ อแมนด้า ไซย์ฟริด มารับบทโซเฟีย นักเขียนคอลัมนิสต์จากนิวยอร์กที่เดินทางมาเมืองเวโรนา อิตาลี กับวิกเตอร์ คู่หมั้นหนุ่ม เพื่อศึกษางานด้านอาหาร สำหรับนำมาปรุงปรับร้านอาหารของวิกเตอร์ ระหว่างอยู่ที่นี่โซเฟียใช้เวลาท่องเที่ยวสถานที่ชื่อดังที่สาวๆ นิยมมาฝากจดหมายรักไว้ และเธอได้พบแคลร์เจ้าของจดหมายเมื่อ 50 ปีที่แล้ว พร้อมกับชาร์ลีหลานชายปากร้ายของเธอ ทั้งสามตัดสินใจออกตามหาตัวชายคนรักผู้ที่แคลร์เขียนจดหมายถึง เพื่อทำให้ฝันของแคลร์เป็นจริง
แม้ว่าการผูกเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้ต่างไปจากภาพยนตร์รักทั่วๆ ไป แต่ด้วยมูดของหนังที่แสนจะโรแมนติก ยิ่งเมื่อมารวมความสวยงามของสถานที่ของเมืองเวโรนา เมืองซีอานา ทำเอาสาวๆ ตกหลุมรักหนังเรื่องนี้ไปเลย
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0892318/
7.Before Sunrise (1995)
แนว : โรแมนติก-ดราม่า
ยังคงอยู่ในวังวนของหนังรัก แต่คราวนี้ไม่ได้โรแมนติกมากเท่า กับ Before Sunrise ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า ที่กลายเป็นต้นกำเนิดของไตรภาค Before Trilogy (ตามด้วย Before Sunset และ Before Midnight) Before Sunrise เล่าถึง เจสซี หนุ่มอเมริกัน และซีลีน สาวฝรั่งเศส คนแปลกหน้าที่พบกันบนรถไฟระหว่างทางไปเวียนนา โดยทั้งคู่มีเวลาทำความรู้จักกันเพียง 1 วัน 1 คืน เท่านั้น เพราะเจสซีต้องเดินทางกลับอเมริกาในวันรุ่งขึ้น ส่วนซีลีนต้องกลับไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้อยู่ที่บทสนทนาที่เป็นธรรมชาติ ฉากอันงดงาม และการแสดงของ อีธาน ฮอว์ก และ จูลี เดลปี ที่มารับบทนำ เพราะทั้งเรื่องมีเพียงนักแสดงทั้งสองโต้ตอบและเดินเล่นในเมืองเวียนนากันตลอดทั้งเรื่อง แต่เชื่อไหมว่าด้วยบทสนทนาที่ถกกันมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องความรัก ความทรงจำ ความสัมพันธ์ บวกกับฉากที่เหมือนพาเราได้เดินเล่นไปกับพวกเขาจริงๆ ตั้งแต่บนสะพาน จิบกาแฟในคาเฟ่ นั่งคุยกันที่อนุสาวรีย์กลางเมือง หรือฉากเจอกันครั้งแรกและฉากจบที่สถานีรถไฟ
และภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างนิยามใหม่ของหนังรักและกลายเป็นหนังที่อยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนอย่างเงียบๆ
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0112471/
8.Amelie (2001)
แนว : ตลก-โรแมนติก
เมื่อพูดถึงหนังวิวสวย อย่างน้อยต้องมีปารีสอยู่ในลิสต์ คราวนี้ขอแนะนำ Amelie ภาพยนตร์ฝรั่งเศสที่ว่าด้วยพนักงานเสิร์ฟสาวช่างฝันผู้แสนขี้อายชื่อเอมิลี่ ที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนรอบๆ ตัวเธอให้สมหวังในชีวิต ไปพร้อมกับหาทางออกให้กับความโดดเดี่ยวของตัวเอง
ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้จงใจขายวิวอย่างตั้งใจ แต่ด้วยวิธีเล่าเรื่องที่ต่างไปจากสไตล์ฮอลีวู้ดที่ คุ้นเคย โดยออกแนวเพ้อฝันเล็กๆ แต่ด้วยคีย์หลัก คือ ติดตามชีวิตของเอมิลี่ ที่ทำงานเป็นสาวเสิร์ฟกลางกรุงปารีส บวกกับสไตล์ของผู้สร้างที่โดดเด่นด้วยการใช้คู่สีต่างๆ มาสร้างสีสันให้กับฉาก ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกไปกับการได้เสพวิวถนนหนทาง ร้านรวงต่างๆ และคาเฟ่เมืองปารีสไปโดยปริยาย โดยเฉพาะเรื่องราวของสาวน้อยเอมิลี่ที่มีวิธีแก้สถานการณ์อันแสนพิลึก เรียกว่าใครที่ได้รู้จักเธอเป็นต้องอมยิ้ม
ภาพ : www.imdb.com/title/tt0211915/
9.ชัมบาลา (2012)
แนว : ดราม่า
พูดถึงหนังต่างประเทศมาหลายเรื่องแล้ว มาดูหนังไทยกันบ้าง กับภาพยนตร์ที่ชวนเดินทางไปถึงประเทศที่ถูกขนานนามว่าหลังคาโลก “ทิเบต” ดินแดนแห่งศรัทธาและพุทธศาสนา ในเรื่องนี้เป็นเสมือนบันทึกการเดินทางของสองหนุ่มที่เดินทางไปชัมบาลา ดินแดนที่เชื่อกันว่าเป็นประตูสู่สรวงสวรรค์ ด้วยเหตุผลและมุมมองที่แตกต่างกัน นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และอนันดา เอเวอริงแฮม
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องแสนประทับใจ ทั้งบทบาทการแสดงและทิวทัศน์ที่ถ่ายทอดความงามของหุบเขา ท้องฟ้า และสีสันของทิเบตได้อย่างมหัศจรรย์
ทั้ง9 เรื่องนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของโลกภาพยนตร์ ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่จะทำให้ชีวิต ไม่หยุดอยู่แค่ห้องสี่เหลี่ยม แต่จะได้เสพทั้งวิว ซึมซับทั้งเรื่องราวน้ำดี แถมได้ใช้เวลาแบบไกลเชื้อโควิท-19
แต่ถ้ายังต้องการจะเพิ่มดีกรีความเข้มข้นไปอีก ก็ไปต่อกันได้ที่ภาพยนตร์ Seven Years in Tibet (1997), The Motorcycle Diaries (2004), Into the wild (2007), Under the Tuscan Sun (2003), Wild (2014) กันได้เลย
#GMLive #Entertainment #TheSoundofMusic #LordoftheRings #SecretLifeofWalterMitty
#EATPRAYLOVE #MAMMAMIA #LettertoJuliet #BeforeSunrise #Amelie #ชัมบาลา