fbpx

เตือนภัยล่วงหน้า 80 ปี ชุมชนริมฝั่งในออสเตรเลียประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศพร้อมรับมือน้ำท่วม

เขตชุมชนนูซาไม่เพียงแต่ประกาศภาวะฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังมีการทำการสำรวจว่ามีพื้นที่ชายฝั่งทะเลใดบ้างที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีที่ดินที่มีมูลค่าสูงแปลงไหนบ้างที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในอนาคต ซึ่งก็พบว่ามีบ้านหลายหมื่นหลังที่อยู่ในความเสี่ยง

Reason to Read

  • เขตชุมชนนูซาไม่เพียงแต่ประกาศภาวะฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังมีการทำการสำรวจว่ามีพื้นที่ชายฝั่งทะเลใดบ้างที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีที่ดินที่มีมูลค่าสูงแปลงไหนบ้างที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในอนาคต ซึ่งก็พบว่ามีบ้านหลายหมื่นหลังที่อยู่ในความเสี่ยง
  • ตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลีย แจ้งเตือนระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น 1.1 เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงและอาจสร้างความเสียหายต่อประเทศได้มากถึง 2.26 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงปลายศตวรรษนี้

ภัยคุกคามของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต่างแสดงความกังวล เช่นเดียวกับในประเทศออสเตรเลีย ที่เรื่องนี้ถูกยกให้เป็น Top Issue ในช่วงการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เขตชุมชนนูซา (Noosa) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ก็เป็นหนึ่งใน 888 พื้นที่ทั่วโลกที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศอย่างเป็นทางการ

แต่ที่น่าสนใจกว่าพื้นที่อื่นๆ ก็คือการที่เขตชุมชนนูซาไม่เพียงแต่ประกาศภาวะฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังมีการทำการสำรวจว่ามีพื้นที่ชายฝั่งทะเลใดบ้างที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีที่ดินที่มีมูลค่าสูงแปลงไหนบ้างที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในอนาคต ซึ่งก็พบว่ามีบ้านหลายหมื่นหลังที่อยู่ในความเสี่ยง

ตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลีย แจ้งเตือนระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น 1.1 เมตร ซึ่งถือว่าอยู่นระดับที่สูงและอาจสร้างความเสียหายต่อประเทศได้มากถึง 2.26 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงปลายศตวรรษนี้

และหากมูลค่าความเสียหายเป็นไปตามที่คาดการณ์ หมายความว่ามีบ้าน 68,000 หลังในรัฐควีนส์แลนด์และจำนวนเดียวกันในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่อยู่ในความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย ส่วนในรัฐวิกตอเรียและรัฐเซาท์ออสเตรเลียจะมีบ้านกลุ่มเสี่ยงมากถึง 48,000 หลัง รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียมากกว่า 30,000 หลัง และมากกว่า 15,000 หลังในรัฐแทสเมเนีย

ข้อมูลดังกล่าวทำให้ชุมชนชายฝั่งทุกแห่งในออสเตรเลียกำลังเร่งทำแผนที่ของตัวเอง แต่เขตชุมชนนูซาอาจก้าวไปอีกขั้น โดนนูซากำลังพิจารณาวิธีที่ดีที่สุดในการเตือนเจ้าของบ้านทั้งในปัจจุบันและอนาคตเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อบ้าน สมาชิกสภาท้องถิ่นนูซาบอกว่า มีที่ดินประมาณ 2,232 แปลงในนูซาที่น่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเวลา 80 ปี ซึ่งสามารถบอกได้โดยตรงผ่านการเรตราคาที่ดินแก่ผู้ซื้อ

โทนี เวลลิงตัน (Tony Wellington) นายกเทศมนตรีเมืองนูซา กล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นปัญหาที่สภาท้องถิ่นชายฝั่งทุกแห่งกำลังเผชิญอยู่ทั่วโลก และเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจว่าเราจะป้องกันหรือถอยหนี สิ่งที่เราต้องดูก็คือมันเหมาะสมไหมและเป็นไปได้ไหมที่จะปกป้องทรัพย์สินในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หรือมันจะเป็นไปไม่ได้ และต้องคำนึงถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายด้วย จากนั้นคุณต้องตั้งคำถามว่าผู้พักอาศัยทุกคนควรได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อปกป้องทรัพย์สินบางส่วนหรือไม่ มันเป็นปัญหาที่ซับซ้อนมาก” พร้อมระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ซื้อพึงระวัง และผู้ที่อยู่ในพื้นที่ต่ำควรรู้ถึงความเสี่ยง

ทั้งนี้ ในปี 2015 เคยมีรายงานต่อสภาไบรอน เบย์ (Byron Bay Council) รัฐนิวเซาท์เวลส์ เตือนว่าบ้านบางหลังอาจกลายเป็น ‘การซื้อขายบ้านโดยความสมัครใจ’ ซึ่งหมายถึงการที่สภาซื้อบ้านที่มีความเสี่ยงจากน้ำท่วมเพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน

จะเกิดอะไรขึ้นกับราคาบ้าน หากมีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ?

แอนโทเนีย เมอร์โซเรลลา (Antonia Mercorella) จากอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า “คำเตือนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้ผู้ซื้อบางคนเกิดความหวาดกลัวได้ในทางจิตวิทยา แต่เธอบอกว่า ผลกระทบนี้อาจเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น หรือผู้ซื้ออาจจะไม่แม้แต่จะสนใจเรื่องนี้เลย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากอยู่ใกล้ชายฝั่งเพราะพวกเราหลายคนเลือกที่จะอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งเพราะมันเป็นการตัดสินใจตามไลฟ์สไตล์”

“เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาชายฝั่ง เช่น น้ำขึ้นน้ำลง น้ำท่วมและการกัดเซาะชายฝั่ง จะเริ่มส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อมูลค่าทรัพย์สินหรือไม่ แน่นอนว่าข้อมูลต่างๆ ไม่ได้บอกเราว่ามันจะเกิดขึ้นตอนนี้ แต่อาจเป็นในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า”

แคมป์เบล ฟูลเลอร์ (Campbell Fuller) คณะกรรมการประกันภัยแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศและความหวาดกลัวต่อภาวะน้ำท่วมในระยะยาวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเบี้ยประกันภัย เว้นแต่ความเสียหายจากพายุหรือน้ำที่เกิดขึ้นจริง

“หากคุณได้เผชิญความเสี่ยงอยู่แล้ว​และคาดการณ์ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจนำคุณไปสู่ความเสี่ยงที่สูงขึ้น เบี้ยประกันภัยของคุณในช่วง 30-80 ปีข้างหน้าจะสูงขึ้น เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของความเสี่ยงนั้น”

อย่างไรก็ตาม เกรก ฮอลแลม (Greg Hallam) หัวหน้าสมาคมรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลท้องถิ่นทั้งหมดในรัฐควีนส์แลนด์และทำงานร่วมกับรัฐในการแจ้งเตือนความเสี่ยงแก่เจ้าของบ้าน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการกระจายความตื่นกลัว เราไม่ต้องการทำให้ผู้คนแตกตื่นและเราไม่ได้ต้องการให้คนคิดว่ามันจะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ แต่ในฐานะนักวางแผนระยะยาวและผู้ดูแลแผ่นดินเรามีหน้าที่ที่จะต้องบอกความจริงกับผู้คน

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ