fbpx

20 ปี “มิสเตอร์พี” (Mr. P) เด็กทะลึ่งอารมณ์ดี แค่เห็นก็อมยิ้มแล้ว

หากย้อนเวลากลับไปเกือบ 20 ปีที่แล้วเชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดีกับPop-culture  ที่มีชื่อเรียกขานอย่างเป็นทางการว่า  “มิสเตอร์พี” (Mr. P) ตัวการ์ตูนสัญชาติไทยแท้ ซึ่งมีคาแรคเตอร์เป็นเด็กทะลึ่ง  ขี้อายแต่กล้าโชว์อวัยวะเพศ อวดโฉมในรูปแบบของใช้ในชีวิตประจำวัน ภายใต้แบรนด์ พร็อพพาแกนดา (Propaganda)

ทำความรู้จัก “มิสเตอร์พี” (Mr. P)

สำหรับใครที่ไม่คุ้นหรือไม่เคยรู้จัก  “มิสเตอร์พี” (Mr. P) คงจะสงสัยว่า คือตัวอะไร ซึ่งคงที่จะตอบคำถามนี้ได้เป็นอย่างดี คือ  สาธิต กาลวันตวานิช หรือ “พี่แก่” นักคิด นักสร้างสรรค์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฟีโนมีนา จำกัด บริษัทโปรดักชั่น เฮ้าส์แถวหน้าของคนไทย และยังเป็นผู้ก่อตั้งพร็อพพาแกนดา (Propaganda) แบรนด์สินค้าของใช้ของตกแต่งบ้าน ซึ่งเล่าว่า  “หลังจากที่พร๊อพพาแกนดาได้ทำแบรนด์สินค้าเครื่องใช้ที่ใส่ไอเดียสนุกและสร้างสรรค์ได้ประมาณ 10 ปี นักออกแบบของแบรนด์ ซึ่งในตอนนั้นคือ ตุ๊ด-ชัยยุทธ์ พลายเพ็ชร์ (รางวัลศิลปาธรสาขาการออกแบบ 2557) ก็นึกสนุกอยากออกแบบคาร์แรคเตอร์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนขึ้นมา และในปี พ.ศ. 2547 Mr. P จึงได้กำเนิดขึ้นจากอารมณ์ขันแบบไทยๆ กลายเป็นคาร์แรคเตอร์เด็กทะลึ่งแต่ขี้อาย ซึ่งอุทิศอวัยวะของตัวเองให้เป็นฟังก์ชั่นใช้งาน เพื่อสะท้อนการใช้งานแบบ Emotional Approach

โดยสินค้าตัวแรกเป็น Mr. P Lamp หรือ One Man Shy สะท้อนความขี้อาย แต่ก็อยากโชว์ ภายใต้รูปลักษณ์โคมไฟในร่างเด็กผู้ชายเปลือยกายล่อนจ้อนมีเพียงฝาครอบที่ศีรษะ โดยมีสวิตช์เปิด-ปิดอยู่ที่อวัยวะเพศ ซึ่งใช้วัสดุเป็นยาง ให้เกิดความนุ่มเวลาสัมผัส หลังจากเปิดตัวเพียง 1 ปี โคมไฟ Mr. P Lamp ก็กลายเป็นสินค้ายอดฮิต  และส่งออกไปขายไม่ต่ำกว่า 40 ประเทศทั่วโลก จนเกิดเป็นไลน์สินค้าอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแท่นตัดสก็อตช์เทป (Tape Dispenser) หรือแก้วกาแฟ (Mug Lick)  และสินค้าอีกกว่า 50 รายการ โดยได้มีการเพิ่มลูกเล่นและดีไซน์ แต่ยังคงความน่ารัก ความตลก และความสุข ความทะเล้น ทำให้ Mr. P เข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และทำให้แบรนด์ไทยอื่นๆ เริ่มสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมายด้วยความเชื่อที่ว่าไม่มีถูกไม่มีผิด หากคิดจะนอกกรอบหรือไม่เหมือนใคร และที่สำคัญเชื่อมั่นในสไตล์ของตัวเอง”

แลนด์มาร์คแห่งสยาม

ซึ่งหลังจากวันที่ Mr. P Lamp กำเนิดขึ้น ส่งผลให้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี  Mr. P ก็โด่งดังจนทำให้ ร้าน Propaganda สาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ กลายเป็นเดสติเนชั่นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเวียนมาเยี่ยมชม และซื้อหา Mr.P ติดไม้ติดมือกลับไป รวมไปถึงหนังสือแนะนำแหล่งท่องเที่ยว (Guidebook) เกือบทุกเล่มของทุกประเทศแนะนำว่า Propaganda คือที่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาให้ได้!!!!

 และในปี พ.ศ. 2556  “มิสเตอร์พี แอ็บโซลูทสยาม” (Mr. P Absolute Siam) ก็ได้กำเนิด ขึ้นบริเวณสยามเซ็นเตอร์ โดยได้รับการออกแบบด้วยวัสดุไฟเบอร์กลาสในลักษณะของตัวหุ่นสีขาวขนาดประมาณ 5 เมตร ที่กำลังเพลิดเพลินกับการฟังเพลงด้วยการสวมหูฟัง พน้อมกับทำท่าเดินอย่างมีความสุข ในขณะที่เส้นทางข้างหน้ามีก้อนอุจจาระสีเหลืองกองอยู่ตรงหน้า สะท้อนถึงประสบการณ์จริงว่าการเดินทางของชีวิตมนุษย์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะในบางครั้งก็อาจพบเจออุปสรรค แต่จะเห็นจะว่า Mr. P เดินอย่างสบายใจ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่ง ทั้งความสุข ความทุกข์ และอุปสรรค  ทั้งยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวข้ามไปได้ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นไอคอนนิคและเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ  ดึงดูดทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาถ่ายรูป  และโด่งดังจนได้ไปปรากฏภาพบนจอที่ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก มาแล้ว  ในขณะที่บริเวณหน้าร้านพร๊อพพาแกนดา ก็มี Mr. P Sleep นอนอยู่หน้าร้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปและใกล้ชิดกับเจ้าเด็กหน้าทะเล้นกันมากขึ้น โดยต่อมาก็ได้รับการติดต่อเพื่อนำไปจัดแสดงที่ China Design Center ประเทศจีนอีกด้วย

นอกจากนี้ ในช่วงหนึ่งที่บริเวณด้านหน้าสยามเซ็นเตอร์ ฝั่งพาร์ค พารากอน หลายคนอาจจะได้เห็น Mr. P Water ซึ่งเป็น Mr.P เด็กชายอารมณ์ดีขนาดยักษ์จำนวน 3 ตัว ที่มีความสูงกว่า 4 เมตร 3 เมตร และ 2 เมตรตามลำดับ เป็นหุ่นไฟเบอร์กลาสที่ขึ้นรูปด้วยมือและมีขนาดใหญ่ที่สุด อวดโฉมเด่นตระหง่านในท่าทางคุกเข่า แลบลิ้นอย่างอารมณ์ดี มีน้ำไหลออกมาจากปาก สะท้อนถึงความเชื่อเกี่ยวกับศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยที่เชื่อว่าการตั้งจุดน้ำไหลบริเวณหน้าบ้าน จะเสริมสิริมงคลให้บ้านนั้นๆ

ทั้งนี้สินค้าคาแรคเตอร์ Mr. P ยังได้ไปปรากฏในระดับโลกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ต่างประเทศ รวมถึงเป็นไอเทมประดับบ้านของคริสติน่า อาร์กีเรล่า นักร้องนักแสดงชื่อดัง รวมถึงเคยถูกนำไปติดตั้งเป็นวินโดว์ดิสเพลย์ของร้าน Paul Smith แฟลกชิปสโตร์สาขาแรกในย่าน Covent Garden ใจกลางกรุงลอนดอนอีกด้วย

ตอนนี้ Mr. P อยู่ที่ไหน

หลายคนคงส่งสัยโดยเฉพาะแฟน Mr. P ว่าในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าเด็กหน้าทะเล้นซึ่งกำลังเติบโตเป็นหนุ่มขี้เล่นตัวนี้ หายไปไหน  เพราะไม่ค่อยได้เห็นการต่อยอดคาแรคเตอร์สนุกๆ ไปสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เท่าไหร่นัก 

ข่าวดีก็คือ…อีกไม่แฟนคลับก็จะมีโอกาสได้เห็น Mr. P ที่จะกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ภายใต้โปรเจกต์ความร่วมมือของ  Mr. P และ A49 ที่จะทำให้ได้อมยิ้มกันอีกครั้งกับ Sculpture หุ่น Mr. P ในท่วงท่า อากัปกิริยาใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน ภายในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของอาคารคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ‘KingBridge Tower’ โดยเครือสหพัฒน์ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คนที่ทำงานในตึกนี้มีความสุขเป็น Happiness Tower ซึ่งพื้นที่ Communal Space จะทำให้คนที่เข้ามาใช้พื้นที่ส่วนนี้รู้สึกว่า “ตึกนี้ใจดีจังเลย”  พร้อมทั้งเติมเต็มความสุขด้วยอารมณ์ขัน และความทะลึ่ง  ของท่าทางต่างๆ จาก  Mr. P ที่แค่ได้เห็นก็ยิ้มแล้ว 

โดยอาคาร ‘KingBridge Tower’ จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2024 ที่จะมาถึงนี้  และหากนับอายุกันแล้ว Mr. P ก็จะมีอายุครบ 20 ปีพอดี

อดใจอีกนิด แล้วไปอมยิ้มและฉลองอายุครบ 20 ปีของ Mr. P ไปด้วยกัน 

รวมทั้งเคยอวดโฉมหุ่นขนาดยักษ์เกือบ 5 เมตร ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าสยาม และเมื่อถึงเทศกาลสำคัญไม่ว่าจะป็นวันเกิด วันปีใหม่ “มิสเตอร์พี” (Mr. P) จะกลายเป็นของขวัญตัวแทนความรู้สึกดีๆ ที่มอบให้กัน แม้แต่ผู้เขียนเองก็มีโคมไฟเด็กทะลึ่งขี้อายแต่กล้าโชว์อวัยวะเพศไว้ในครอบครอง และยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

และในปีหน้านี้ …“มิสเตอร์พี” (Mr. P) ตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์สัญชาติไทยแท้ก็จะมีอายุครบ 20 ปีเต็ม

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ