fbpx

อาหารตามกรุ๊ปเลือดเก่าไปแล้ว…ให้ FoodTech ดูแล บำรุงได้ถึงระดับ DNA

เรื่องสุขภาพจะว่าดูแลยากก็ยาก แต่แค่เพียงรู้ ทุกอย่างก็จัดการได้ง่าย ๆ เพราะโลกยุคนี้ทุกคนสามารถมีสุขภาพที่ดีได้ผ่านพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะจากการรับประทานอาหารประจำวัน หากทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนอาหารให้เหมาะกับเฉพาะบุคคลอย่างถูกต้อง ความเป็นอยู่ที่(สุขภาพ)ดีก็จะตามมาอย่างแน่นอน

ในงาน Startup Thailand ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่จัดขึ้นในปี 2021 นี้ มีผลงานน่าสนใจของเทคสตาร์ทอัพด้านอาหารไทย หรือ FoodTech เจาะลึกให้เห็นถึงอนาคตของการปรับเปลี่ยนอาหารเฉพาะบุคคลเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ในหัวข้อ ‘Next-Gen Food Personalization for health and well-being’

ผลของการพัฒนาพบว่า DNA จำเพาะบุคคล คือชิ้นส่วนสำคัญที่จะสามารถวิเคราะห์เรื่องของความเสี่ยงของโรค เพื่อที่จะสามารถวางแผนป้องกันและรักษาให้แม่นยำเหมาะสมกับตัวแต่ละบุคคลไป

แต่…เราจะทราบได้อย่างไร ว่า DNA ของเราเป็นแบบไหน ?

นี่เองเป็นเหตุผลให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาตรวจวิเคราะห์ DNA มากขึ้น ไม่เฉพาะในวงการแพทย์เท่านั้น แต่ในอุตสาหกรรมอาหาร มีความพยายามใช้เทคโนโลยีด้านอาหารมาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของร่างกายมนุษย์ที่ลงลึกในระดับ DNA เฉพาะในแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน

เรียกว่าเป็นการใช้ FoodTech เพื่อการรักษาสุขภาพตั้งแต่ต้นทางก่อนจะไปถึงมือ MedTech หรือการดูแลด้านการแพทย์กันเลยทีเดียว

จะพูดแบบล้ำ ๆ ก็ต้องถือว่า FoodTech เป็นเทคโนโลยีที่ช่วย Customize อาหารให้เหมาะกับเฉพาะบุคคลจนวันหนึ่งเราอาจจะเลิกพูดกันก็ได้ว่า คนไทยต้องกินข้าว ฝรั่งกินขนมปัง แต่จะเป็นนาย ก. นาง ข. มี DNA แบบไหน ควรบริโภคอะไร เป็นเรื่องการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ช่วยให้มนุษย์ทุกคนดูแลสุขภาพได้อย่างตรงจุด และมีผลทำให้แนวโน้มในอนาคต การปรับเปลี่ยนอาหารเฉพาะบุคคลเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี อาจจะกลายเป็นเรื่องปกติที่ไม่เกินจริง

ทำไมอาหารต้องตอบโจทย์ลงลึกระดับ DNA

เพราะ DNA คือ พิมพ์เขียวของสิ่งมีชีวิตซึ่งมีความแตกต่างและจำเพาะไปตามแต่ละบุคคล การวิเคราะห์ DNA ไม่เพียงแต่ช่วยทำให้สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงของการเกิดโรคของแต่ละบุคคลได้ล่วงหน้า แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการวางแผนการป้องกันและรักษาให้มีความแม่นยำและเหมาะสมกับแต่ละปัจเจกบุคคลอีกด้วย

เรียกว่านอกจาก ID หรือบัตรประจำตัวประชาชนที่ทำให้คนรู้จักตัวตนของเราได้แล้ว ก็มีเจ้า DNA นี่แหละ ที่เปรียบเสมือนคู่มือประจำตัวอีกชนิด ที่สำคัญคือระบุได้ชัดเจนและลึกลงไปยิ่งกว่า จากการที่แต่ละคนมีความแตกต่างทาง DNA เพียง 2% การแยกแยะความต่างได้จึงเกือบเต็ม 100% เลยทีเดียว

FoodTech Startup หลายราย จึงมีแนวทางตรงกันในการยึด DNA เป็นหลักในการพัฒนาอาหาร เพื่อนำเสนอนวัตกรรมการบริการด้านการดูแลสุขภาพผ่านการรับประทานอาหาร ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะสมตาม DNA ของแต่ละคน ดังตัวอย่างจากสตาร์ทอัพเหล่านี้

Genfosis คิดค้น DNA Canvas ที่เรียกว่า DNA Canvas by Genfosis เป็นการตรวจ DNA เฉพาะบุคคลด้วยเทคโนโลยี Next generation sequencing และ Genome-wide SNP array เพื่อให้บริการแนะนำการดูแลสุขภาพ และจับคู่เมนูอาหาร วิตามิน อาหารเสริม ตลอดจนสกินแคร์ที่ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล โดยอาศัยผลวิเคราะห์ DNA จากน้ำลาย ผลดีของ DNA Canvas ที่ต่างไปจากการดูแลสุขภาพผ่านอาหารแบบเดิม ทำให้คนส่วนใหญ่ที่เคยใช้จ่ายเพื่อหวังผลทางสุขภาพสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องลองผิดลองถูกว่าอาหารแบบใด จะได้ผลทำให้สุขภาพของตัวเองดีขึ้นตามที่คาดหวัง สามารถเลือกสรรอาหารและอาหารเสริมได้ตรงตามความต้องการได้ง่ายและเห็นผลเร็วขึ้น

อีกราย คือWelala ที่ให้บริการเทคโนโลยีดูแลสุขภาพผ่านการวิเคราะห์ DNA ซึ่งจะแนะนำการดูแลสุขภาพผ่านการออกแบบและให้คำแนะนำด้านการรับประทานอาหารให้มีความเหมาะสมกับบุคคลผ่านการตรวจ DNA จากเส้นผม โดยนอกจากจะทำให้ทราบว่าแพ้อาหารอะไรแล้ว ยังสามารถออกแบบคอร์สอาหารให้ตอบสนองความต้องการและเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย รวมถึงแนะนำออกแบบการออกกำลังกายว่าควรทำอย่างไรถึงจะได้สุขภาพที่ดี

การเริ่มต้นของ FoodTech ที่ต้องการสร้างผลลัพธ์ที่เห็นผลไวและชัดเจน มักจะเลือกเริ่มต้นที่ DNA เหมือน ๆ กัน แต่ในเชิงธุรกิจและการตลาด มีคำแนะนำสำหรับ FoodTech Startup ที่อยากจะเข้ามาในธุรกิจนี้ว่า แม้จะเริ่มต้นจากเทคโนโลยีที่มีจุดตั้งต้นเหมือนกัน แต่โอกาสในการพัฒนาธุรกิจจะไปได้ดีแค่ไหน ต้องรู้จักสำรวจความต้องการของผู้บริโภคหรือลูกค้า และพาร์ทเนอร์ก่อน รวมไปถึงต้องเช็คมาตรฐานที่จะมารองรับธุรกิจเพื่อความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และความมั่นใจของตลาดด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น FoodTech Startup ที่เริ่มต้นไปแล้วหรือกำลังมีแผนจะเริ่มต้นธุรกิจ ยังมีโอกาสรออยู่อีกมหาศาล เพราะนอกจากอาหารและสุขภาพจะเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตแล้ว จากข้อมูลของ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยังออกมาประกาศว่ามีคนกว่า 70 ล้านคนที่ป่วยและเสียชีวิตแบบไม่ทราบสาเหตุ อันเนื่องมาจากการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตไม่เหมาะสม

ถือได้ว่าข้อมูลนี้ เป็นอีกโอกาสของ FoodTech ที่ควรเร่งพัฒนา เพราะนอกจากจะได้พัฒนาธุรกิจเข้าไปช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพของคนจำนวนมาก ยังเป็นโอกาสของการมีส่วนช่วยเพื่อนมนุษย์ที่มีปัญหาด้านสุขภาพให้มีความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีขึ้น ด้วยการบริโภคอาหารที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

ใครที่ยังไม่เคยทำความรู้จักกับ DNA ของตนเองก็ควรเริ่มทำความรู้จักซะตั้งแต่วันนี้ แล้วเริ่มจัดสรรสิ่งดี ๆ ที่เหมาะกับสุขภาพให้ตัวเองยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยปรับเปลี่ยนสุขภาพให้สมดุล ยังเป็นการเสริมเกราะป้องกันสุขภาพได้ดีอีกด้วย

แบบนี้เห็นทีประเด็นที่พูด ๆ กันว่า มนุษย์อาจจะอยู่ได้ถึง 200 ปีก็อาจจะเป็นไปได้จริง ๆ ก็ได้ ใครจะรู้

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับเทคโนโลยีเชิงลึก เปิดประตูสู่โลกนวัตกรรมแห่งอนาคต ที่จะมาขับเคลื่อนประเทศไทยในงาน ‘STARTUP X INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ ที่รวบรวมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยียิ่งใหญ่แห่งปี จัดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual Event) ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2564 นี้ ฟรี !! ไม่มีค่าใช้จ่าย

รายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ https://site.nia.or.th

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ