‘หอยหวาน’ : สัมผัสแห่งรสชาติจากท้องทะเล
ถ้าพูดกันถึง ‘อาหารทะเล’ แล้วนั้น ไม่ว่าจะชนิดใด แค่นึกก็ชวนให้รู้สึกน้ำลายสอ มีความอยากอาหารขึ้นมาแทบจะทันที ยิ่งถ้าจับมาสดๆ แล้วปรุงด้วยเชฟที่มีฝีมือ เสิร์ฟในทันที รสชาติและความเข้มข้นแทบจะไม่ต้องสืบ และถ้าได้น้ำจิ้มซีฟู้ดเข้าไปด้วย บางครั้ง สวรรค์ก็อาจจะอยู่ไม่ไกล และใกล้แค่เพียงระยะห่างระหว่างจาน ช้อนส้อม และลิ้นของเราเท่านั้น
และในบรรดาอาหารทะเลอันลือชื่อหลากรสทั้งหลาย ‘หอยหวาน’ ก็เรียกว่าเป็นเมนูยอดฮิตที่ได้รับการสั่งมาประดับโต๊ะ ก่อนจะถูกโละจนเรียบโดยผู้ร่วมรับประทาน ด้วยรสชาติที่หวานกำลังเหมาะ เนื้อกรุบกรอบกำลังดี นำไปนึ่งเสิร์ฟทานได้ทันที หรือจะนำไปปรุงเป็นอาหารจานประยุกต์ต่างๆ ก็สามารถทำได้ อร่อยหลากหลายไม่แพ้กัน
แต่หอยหวานนั้นคืออะไร มีวิธีการเลี้ยงอย่างไร ควรรับประทานแบบไหน และมีข้อควรระวังอย่างไร ในเรื่องนี้ อาจจะต้องลงลึกกันไปสักนิด เพื่อให้สามารถรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย ปลอดภัย และ ‘คุ้มค่า’ มากยิ่งขึ้น
วิธีการเลี้ยงหอยหวาน
หอยหวานตามธรรมชาติจะอยู่ตามชายทะเล แต่ฟาร์มหอยหวานจะเลี้ยงบนบกเป็นโรงเรือนแบบบ่อซีเมนต์ที่ดูดน้ำทะเลมาใส่ และคอยเปลียนน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ อาหารของหอยหวานคือปลาทะเล โดยจะใช้ปลาข้างเหลืองเลี้ยง และต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา ฟาร์มที่ทำการเลี้ยงหอยหวานนั้นจะต้องปลอดสาร และอยู่ในระบบปิด เลี้ยงไม่ยากแต่จะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
ขนาดของหอยหวาน
ขนาดเล็ก 100-120 ตัวต่อโล ใช้เวลาเลี้ยง 8 เดือน มักจะเป็นขนาดเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ
ขนาดกลาง 70 ตัวโล เป็นขนาดที่เหมาะแก่การรับประทาน และพบได้ตามร้านอาหารทั่วไป
ขนาดใหญ่ 40-50 ตัวโล เป็นขนาดเล็ก เนื้อจะเหนียว ไม่เหมาะแก่การรับประทาน แต่จะนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ
รสชาติของหอยหวาน
หอยหวานต้องกินสด ๆ เป็น ๆ เพราะถ้าให้หอยตายแล้วจะเน่าเร็ว นิยมรับประทานแบบเผาหรือลวก เพื่อความสด จะได้รสชาติที่หวาน เนื้อจะกรุบกรอบ เวลานำไปเผาทั้งตัวกลิ่นจะเหมือนหอยที่อบในหม้อดิน เนื้อหวานนิยมทำสด ๆ
แหล่งที่จะกินหอยหวานส่วนมากต้องอยู่ใกล้ทะเล ส่วนร้านอาหารในกรุงเทพฯจะหาทานหอยหวานยาก เนื่องจากขนส่งด้วย ดังนั้น 95 % ตามร้านอาหารในกรุงเทพฯจึงใช้ ”หอยหมาก” มาแทนหอยหวาน แต่เรียกว่าหอยหวานเพราะมีรูและลายที่คล้ายกัน แต่ลักษณะจะต่างกันมาก
คุณประโยชน์ของหอยหวานอุดมด้วยโปรตีนสูง มีกรดอมิโน วิตามินบี 1 แนะนำให้กินเนื้อหอยทั้งตัวโดยฉพาะตรงส่วนปลายที่มีเลือดและเครื่องใน
กินหอยหวานสะอาดกว่าหอยนางรม
ปกติเราจะได้ยินว่าคนที่กินหอยนางรม บางครั้งปวดท้อง ท้องเสีย เนื่องจากหอยนางรมเป็นหอย 2 ฝา เวลาหอยกินอาหารจะกรองแพลงตอน ถ้าน้ำสะอาดก็ปลอดภัย แต่ถ้านำไม่สะอาด หอยนางรมก็จะดูดสารพิษสะสมในตัวด้วย เวลากินรับประทานลงไปก็จะปวดท้อง ท้องเสีย
แต่หอยหวานเป็นหอยทากทะเลชนิดหนึ่ง กินอาหารด้วยปาก เคี้ยวดูด จึงไม่เกี่ยวกับระบบน้ำ ดังนั้นตัวหอยจึงสะอาด ไม่มีเชื้อโรค และไม่สะสมสารพิษ
ระวังความเข้าใจผิดระหว่างหอยหวานกับหอยหมาก
เนื่องจากหอนหวานเป็นหอยที่เติบโตช้า ราคาซื้อขายจึงค่อนข้างแพง ตามร้านอาหารทั่วไป สนนราคาขายอยู่ที่ กิโลละ 1000 บาท ราคาแพงระดับนี้จึงทำให้ร้านอาหารหลายแห่งแอบนำ “หอยหมาก” มาย้อมแมวเป็นหอยหวาน เนื่องจากรูปร่างมีลายคล้ายกันมาก แต่ราคาหอยหมากกิโลละ 90-100 บาท และหาง่าย แต่เนื้อหอยหมากจะอร่อยไม่เท่าหอยหวาน
และสำหรับใครที่อยากสัมผัสกับหอยหวานที่แท้จริง คุณภาพระดับส่งออก ในราคาที่จับต้องได้ พร้อมคุณภาพความสะอาดปลอดภัยระดับมาตรฐาน ‘Sunset Farms ระยอง’ คือฟาร์มหอยหวานและร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องการเลี้ยงหอยหวานมาอย่างยาวนาน ด้วยกระบวนการเลี้ยงที่สะอาด ปลอดภัย มาตรฐานระดับส่งออกและจำหน่ายให้ร้านอาหารขึ้นชื่อกว่า 1-2 ตัน/เดือน มั่นใจได้ว่า ทุกคำที่รับประทาน จะสด และรสชาติที่เอร็ดอร่อยเกินห้ามใจ
หรือถ้าอยากจะสัมผัสทั้งรสชาติ ละเลียดไวน์ และทิวทัศน์อันงดงามของวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ร้าน ‘The Deck & Eat Sight Story’ และ ‘Amorosa & Eagle Nest Rooftop Bar’ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังต้องหยุดให้บริการจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ใช้หอยหวานจาก Sunset Farms มาปรุงเป็นเมนูสุดอร่อย อาทิ
- -หอยหวานผัดฉ่า รสเผ็ดถึงเครื่องสไตล์ไทยๆ
- -หอยหวานอบชีสผักโขม เต็มรสชีส
- -เฟตตูนี หมึกดำผัดหอยหวานในซอสมะเขือเทศรสจัด (Black Pasta Escargot) เส้นเฟตตูนีหมึกดำ กับหอยหวานในซอสมะเขือเทศรสจัดที่เข้ากันได้ดี
- -พล่าหอยหวานแอปเปิ้ล เผ็ดคลุกหวาน สองผสานที่ลงตัว
หรือจะเป็นเมนูอาหารทะเลอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อาทิ
- -พิซซ่าสโมคแซลมอน กับพิซซ่าผัดกะเพราหมูอบน้ำผึ้ง
- -สลัดปลาแซลมอนและเทร้าต์รมควัน
- -ยำรวมมิตรซีฟู้ดยอดคะน้าฮ่องกง
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น ขึ้นชื่อว่าอาหารทะเลแล้ว ชวนให้น้ำลายสอแทบทั้งสิ้น และ ‘หอยหวาน’ ก็จัดเป็นอีกหนึ่งเมนูระดับท็อป ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
**รายละเอียดของ Sunset Farms ระยอง**
- สถานที่ตั้ง: ซอย นาจอมเทียน 22 ชลบุรี (นาจอมเทียน 22)
- เวลาเปิดให้บริการ: 11.00-22.00 เปิดให้บริการทุกวัน
- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ: 084 530 7410
- Facebook: sunsetfarm
**รายละเอียดของ The Deck & Eat Sight Story และ Amorosa & Eagle Nest Rooftop Bar**
- สถานที่ตั้ง: 36-38 ซอย ประตูนกยูง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
- เวลาเปิดให้บริการ:
- The Deck & Eat Sight Story – 11.00-21.00 (จันทร์-พฤหัสบดี), 11.00-22.00 (ศุกร์-อาทิตย์)
- Amorosa & Eagle Nest Rooftop Bar – 16.00-21.00 (จันทร์-พฤหัสบดี), 16.00-22.00 (ศุกร์-อาทิตย์)
- เบอร์โทรศัพท์: 083-988-8736
- Facebook: Arunresidencehotel