ผ้าขาวม้าเกี่ยวข้องกับม้าหรือสีขาวไหมนะ?
ผ้าขาวม้าคือเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างหนึ่ง อย่าง ‘ผ้าขาวม้า’ นั้น มีเรื่องราวที่มาที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ว่าแต่มีเรื่องอะไรบ้างล่ะ
คำตอบคือ…
ผ้าเนื้อหยาบๆ ลายตารางหลากสีที่อยู่กับคนไทยมาหลายยุคสมัยโดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น จนอาจเรียกได้ว่าผ้าขาวม้าคือเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างหนึ่ง อย่าง ‘ผ้าขาวม้า’ นั้น มีเรื่องราวที่มาที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
เริ่มตั้งแต่ชื่อที่เราเรียกกันว่า ‘ผ้าขาวม้า’ จนอาจจะทำให้หลายคนเข้าใจผิดไปว่าต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับม้าแน่ๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เกี่ยวกันเลยสักนิด แต่ก่อนจะพูดถึงเรื่องชื่อ ขอเล่าก่อนว่าคนไทยกับผ้าขาวม้ารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่
มีข้อมูลจากบทความวิชาการระบุว่า ผ้าขาวม้าเป็นที่รู้จักของคนไทยมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 หรือราวยุคสมัยเชียงแสน โดยได้รับอิทธิพลจากชาวไทยใหญ่ เดิมทีนั้นชาวไทยใหญ่ใช้ผ้าขาวม้าเพื่อโพกศีรษะ
แต่เมื่อเป็นที่รู้จักของคนไทย โดยเฉพาะผู้ชายในยุคนั้น ก็ได้นำผ้าขาวม้ามาใช้ผูกเอวเป็นส่วนใหญ่ ยุคนั้นจึงเรียกว่า ‘ผ้าเคียนเอว’ บ้าง ‘ผ้าเคียนพุง’ บ้าง
และด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยก็ยังมีการนำผ้าเคียนพุงนั้นไปประยุกต์ใช้ประโยชน์อีกหลายสถาน เช่น ใช้ห่อข้าวของเวลาเดินทาง ห่ออาวุธ นุ่งเวลาอาบน้ำ เช็ดตัว ไปจนถึงปูนอนก็มี
นอกจากนี้ ยังมีบันทึกของ ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ (Simon de La Loubère) ราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับไทย ที่เกี่ยวกับผ้าขาวม้า
บันทึกดังกล่าวพอสรุปได้ว่าในยุคนั้นจะมีการมอบผ้าขาวม้าให้ทหารฝรั่งเศสนุ่งเมื่อลงอาบน้ำที่ตีนท่าเพื่อป้องกันการเปลือยลงอาบน้ำ ซึ่งขัดกับธรรมเนียมของคนไทยที่จะมีความเขินอายในเรื่องนี้กัน
รวมถึงมีคนไทยบางส่วนในสมัยอยุธยาที่นุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำเช่นกัน และตามจิตรกรรมตามฝาผนังก็จะเห็นภาพชายชาวไทยใช้ผ้าผาดบ่า และมีการสันนิษฐานว่าภาพจิตรกรรมนั้นอาจเกิดขึ้นก่อนสมัยอยุธยาก็ได้
แล้วจากผ้าเคียนพุง ผ้าเคียนเอว มาเป็นผ้าขาวม้าได้อย่างไร? คำว่าผ้าขาวม้านั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาเปอร์เซียคำว่า ‘กะมาร์บันด์’ (Kamar band) โดยคำว่า กะมาร์ แปลว่า เอว และ บันด์ แปลว่า การพัน รัด หรือคาด เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกันจึงหมายถึงสิ่งที่ใช้คาดเอว คาดว่าคำนี้ได้รับอิทธิพลมาจากขุนนางและพ่อค้าชาวเปอร์เซียสมัยอยุธยา
ถึงชื่อเรียกจะผิดเพี้ยนมาจากภาษาอื่น แต่นานวันเข้าผ้าขาวม้าก็ยิ่งเป็นที่นิยมของคนไทยอย่างแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานได้แบบสารพัดนึก ซับน้ำได้ดี แห้งเร็ว และทนทาน จนทุกวันนี้อาจจะพูดได้ว่าผ้าขาวม้ากับความเป็นไทยนั้นแยกออกจากกันไม่ได้แล้ว