ประพันธ์ เจริญประวัติ : เสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายเล็ก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
เป็นเวลาเกือบ 5 ทศวรรษที่ ‘ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย’ เป็นเสาหลักแห่งโลกการลงทุนของไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพร้อมส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ การเงิน และการลงทุนให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
เช่นเดียวกับทุกสิ่งที่ต้องมีการปรับตัวตามกาลเวลา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก็มีการปรับตัวรับความท้าทายพร้อมเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ธุรกิจทุกขนาด การสนับสนุนโอกาสการเติบโตของ SMEs และ สตาร์ทอัป ซึ่งมีลักษณะ แนวคิด และแนวทางการทำธุรกิจที่แตกต่างจากวันวานอย่างสิ้นเชิง สอดคล้องวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone
กลุ่มธุรกิจรายเล็กเหล่านี้ที่เป็นอนาคตของประเทศต้องได้รับการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเงินทุน องค์ความรู้ และยุทธปัจจัยด้านต่างๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้สูงขึ้น
GM ได้รับเกียรติจาก ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยในวันนี้ มาพร้อมกับตำแหน่ง ‘ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์’ (LiVE Exchange: LiVEx) สำหรับ SMEs และสตาร์ทอัป และการพัฒนาความรู้ของผู้ประกอบการ ผ่าน ‘LiVE Platform’ ที่จะทำให้กลุ่มธุรกิจรายย่อยไทยก้าวแกร่งทันโลกยุคใหม่
อยากทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเพื่อ SMEs และสตาร์ทอัป
ประพันธ์ : กว่า 47 ปีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นเสาหลักและสถาบันทางเศรษฐกิจที่สำคัญ มีบริษัทกว่า 700 บริษัท มูลค่ากว่า 18-19 ล้านล้านบาท ในส่วนของ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นอีกภาคส่วนที่จัดตั้งขึ้นหลังวิกฤติต้มยำกุ้ง เป็นตลาดที่รองรับผู้ประกอบการขนาดกลาง ปัจจุบันมีบริษัทใน mai อยู่ 192 บริษัท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาแล้วว่า ถึงเวลาที่จะขยายตลาดเพื่อให้กลุ่ม SMEs และสตาร์ทอัปสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ก็ได้ไปศึกษาปัญหาของกลุ่มสตาร์ทอัปซึ่งพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเข้าถึง
แหล่งทุน เงินหมุนเวียน การอนุมัติเงินกู้ ไปจนถึงองค์ความรู้ในการทำธุรกิจและเทคโนโลยีต่างๆ โดยข้อมูลที่ได้นั้นนำมาเป็นฐานเพื่อต่อยอดสู่ ‘LiVE Exchange’
ก่อนไปถึงจุดนั้น เราได้พัฒนา LiVE Platform ขึ้นสำหรับให้ความรู้ในการทำธุรกิจตั้งแต่เบื้องต้นไปถึงเชิงลึกเพื่อเพิ่มทักษะพัฒนาศักยภาพให้ผู้ประกอบการที่สนใจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมบ่มเพาะทางธุรกิจ LiVE Acceleration Program LiVE Incubation Program และ LiVE Mini Incubation Program สำหรับผู้ที่พร้อมขึ้นไปสู่ระดับของการขยายกิจการตามระดับความพร้อมของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการบัญชี การเงิน ภาษี, หลักสูตรกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ ไปจนถึงหลักสูตรการเตรียมความพร้อมสำหรับระดมทุน การจัดระบบภายในบริษัท และการเข้าถึงแหล่งตลาดเงินทุน หรือการจับคู่สร้างเครือข่ายร่วมกับ Venture Capital ที่จะมีเงินส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน เพื่อใช้สำหรับสนับสนุนการขยายธุรกิจ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จริงจัง เฉพาะสำหรับผู้บริหารของบริษัท
อะไรเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการรายเล็กในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ประพันธ์ : ส่วนตัวผมมองว่ามี 3 ปัจจัย 1) ความน่าสนใจและความพร้อมของบริษัท 2) ระบบนิเวศและทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน 3) ผู้ที่อยู่ในตลาดทุนได้มีความตั้งใจในการช่วยเหลือกลุ่มบริษัทเหล่านี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยสอดคล้องกับแนวคิดของผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ตั้งใจ จะประกอบกิจการอย่างโปร่งใสมีธรรมาภิบาล และมีองค์ความรู้ เข้าถึงระบบหรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
การจดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ ในกระดาน LiVE Exchange ใช้ข้อกำหนดเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai หรือไม่
ประพันธ์ : แนวคิดการพัฒนา LiVEx ที่แตกต่างจาก SET และ mai ใน 3 ด้านหลักๆ ได้แก่
Supervision – กำหนดการกำกับดูแลให้เหมาะสมกับลักษณะของ SMEs และสตาร์ทอัป
Investor Protection – การคุ้มครองผู้ลงทุน โดยจำกัดประเภทผู้ลงทุนและวิธีการซื้อขายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแล Light Touch Supervision และระดับความเสี่ยงในการลงทุน
Information Based – การเปิดเผยข้อมูลสำคัญของบริษัท และการเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามและสอบถามข้อมูลจากบริษัทได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของ LiVE Platform
สิ่งที่คาดหวังในการจัดตั้งแพลตฟอร์ม LiVE Platform และกระดานซื้อขาย LiVE Exchange
ประพันธ์ : LiVE Platform เป็นตัวช่วยในด้านองค์ความรู้ในการทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัปให้มีเครื่องมือและองค์ความรู้ที่ดีด้านธุรกิจเพิ่มขึ้น มีเส้นทางการเติบโตที่เหมาะสม ซึ่งหวังว่าจะมีผู้ประกอบการเข้ามาใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้เพิ่มมากขึ้นครับ เพราะเมื่อผู้ประกอบการมีพื้นฐาน มีระบบ มีความพร้อมที่ดี เขาสามารถเติบโตต่อได้ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินหรือ VC หรือบริษัทที่จะเข้ามาลงทุน หรือจะผ่านตลาดทุน อย่าง LiVE Exchange หรือรายที่มีศักยภาพและความพร้อมอาจเข้าไปสร้างการเติบโตที่ mai หรือ SET เลยก็เป็นไปได้
ท้ายที่สุด เมื่อ SMEs และสตาร์ทอัปมีรากฐานแข็งแกร่งเติบโต จะนำไปสู่การขับเคลื่อน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน เปิดโอกาสสู่นวัตกรรมใหม่ๆ พัฒนาประเทศต่อไป
มีวิธีการสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร
ประพันธ์ : ผมคิดว่าการบาลานซ์เวลาแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่ทำได้ คือ การบริหารความสัมพันธ์ ทั้งการทำงาน ครอบครัว คนรอบตัว ให้แต่ละส่วนรู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง เป็นเรื่องของ ‘Quality Time’ หรือการใช้เวลาที่มีคุณภาพให้กับแต่ละคนมากกว่าครับ
สามารถติดตามความรู้ดีๆ สู่การเป็นผู้ประกอบการที่แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับศักยภาพธุรกิจได้ที่ www.live-platforms.com และ Facebook LiVE Platform