fbpx

ชีวิตที่ออกแบบได้ กับ Lifestyle เก๋ๆ ในบ้าน กับ สุรศักดิ์ วัฒนะจินดาวงศ์

หากคุณเกิดในยุค’ 70 หรือ ’80  ยังจำกันกันได้หรือไม่ครับว่าเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วนั้น เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่น่าตื่นเต้นในยุคนั้น ถ้ายังไงผมขอพาย้อนหวนนึกถึงอดีตกันสักนิดนะครับ ก่อนที่เราจะย้อนกลับมาสู่ยุคปัจจุบันที่ผมและเพื่อนร่วมโลกต้องจดจำชื่อของโควิด-19 และคำว่า New Normal  หรือยุคที่เราต้องสวมหน้ากากเข้าหากัน และเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย  เราเคยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญคือการเปลี่ยนผ่านจากยุค’ 90 ไปสู่ยุคมิลเลนเนียม

ช่วงนั้น…. การเปลี่ยนสหัสวรรศเข้าสู่ยุค ‘2000s หลายวงการตื่นตัวกับการเปลี่ยนผ่านครั้งนั้น โดยเฉพาะวงการออกแบบ  ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเริ่มทำงานใหม่ในบทบาทสถาปนิกอย่างเต็มตัว  ช่วงนั้นแนวทางการออกแบบโดยเฉพาะการจัดพื้นที่ใช้สอยในอาคารหลายประเภทกำลังเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิมตามพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนไป เช่น ภายในอาคารสำนักงานจากที่เคยมีการแบ่งแยกพื้นที่กันอย่างเป็นสัดส่วนระหว่างผู้บริหารและพนักงาน ก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นการมิกซ์รวมกันตามรูปแบบของพฤติกรรมองค์กรที่เปลี่ยนไปโดยมีจัดประสงค์ที่ต้องการให้องค์กรมีความคล่องตัวและทันสมั้ยทันเหตุการณ์  เพื่อตอบสนองและทันกับโลกในช่วงนั้นที่กำลังทรานส์ฟอร์มจากระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตัล  หรือในส่วนของที่พักอาศัยโดยเฉพาะในประเทศไทย ก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนจากที่พักอาศัยแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว หรือ ทาวเฮ้าส์ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยมาก ไปสู่การการพักอาศัยในแนวดิ่งหรือคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยลง แต่กระชับและ Functional มากขึ้นซึ่งในช่วงนั้นทั้งสถาปนิก อินทีเรียดีไซน์เนอร์ นักออกแบบต่างๆ ก็ต้องพัฒนารูปแบบของงานให้สอดคล้องตามความนิยมและพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นการใหญ่กันเลยทีเดียว

คราวนี้…ตัดภาพกลับมาในช่วงสองปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวและเตรียมใจ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเทรนด์หรือกระแสนิยมแต่อย่างใด แต่เกิดจากการมาของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุกลามแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วนั่นเอง  ซึ่งช่วงก่อนหน้าที่เจ้าเชื่อไวรัสชนิดนี้จะมาเยือนหรืออุบัติขึ้น เทรนหรือกระแสการออกแบบในการใช้พื้นที่ร่วม  หรือ Co-working space กำลังมาแรงเป็นอย่างมาก  โครงการต่างๆ ทั้งอาคารพักอาศัย อาคารสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้าต่างเน้นการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยร่วมกันในส่วนพื้นที่สาธารณะพร้อมกับลดพื้นที่ส่วนตัวให้น้อยลง หรือในบางกรณีไม่มีเลยด้วยซ้ำ  แต่กระแสก็ต้องปรับเปลี่ยนอีกครั้งจากพฤติกรรมการเว้นรยะ (Social distancing) โดยการออกแบบที่เกิดจากความต้องการใช้พื้นที่ๆ เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะมีอิทธิพลกับ ทั้งในอาคารพักอาศัย อาคารสำนักงานและอื่นๆ   สำหรับในส่วนพื้นที่พักอาศัยนั้น เมื่อผู้คนไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตภายนอกบ้านได้โดยเฉพาะในช่วงล็อกดาวน์ การอยู่อาศัยในที่จำกัด อย่างห้องในคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก ทำให้เกิดความต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นกว่าเดิม เช่น พื้นที่สำหรับทำงาน (Work from home) รวมถึงการประชุมออนไลน์ (online meeting)

ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ คงต้องมีลุกขึ้นมาจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านกันใหม่กันบ้างแน่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา  เพื่อปรับฟังก์ชั่นให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสมาชิกครอบครัวไม่ว่าจะเป็น การเรียนออนไลน์ของลูกหลานตัวเล็กๆ  และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือความนิยม (อย่างรวดเร็ว) ในการใช้งานระบบดิลิเวอร์รี่ ทั้งการสั่งอาหารและการซื้อสินค้า ทำให้การออกแบบพื้นที่รับของหรือตู้ไปรษณีย์หน้าบ้านก็ยังต้องถูกปรับเปลี่ยนไป

ในส่วนอาคารที่มีความซับซ้อนมากอย่างโรงพยายบาล ระบบต่างๆ ก็ได้รับการปรับเพื่อใช้งาน รวมถึงสร้างเพิ่มเติมมากขึ้นกว่าเดิม เช่น ห้องความดันลบ (negative pressure room) จากเดิมที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อ  หรือห้องแยกโรค (Isolation room) ซึ่งที่จริงก็มีใช้งานกันมานานแล้ว  แต่ในช่วงนี้มีการพูดถึงบ่อย รวมถึงมีความจำเป็นที่ต้องนำมาใช้ที่บ้านมากขึ้นด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยมีการแยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในบ้าน หรือ Home isolation  

ครับ…จากสถานการณ์ดังกล่าวกับแนวทางการออกแบบที่เปลี่ยนแปลงไป  บางอย่างผมเชื่อว่าจะถูกเปลี่ยนไปอย่างถาวร แต่บางอย่างก็อาจเป็นเพียงแค่ชั่วคราว ซึ่งเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น ก็สามารถปรับเปลี่ยนประยุกต์ใช้พื้นที่ต่างๆ ที่ออกแบบขึ้นมาให้สอดคล้องเหมาะสมกับการใช้งานในตอนนั้น  ให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้ในช่วงสถาการณ์ปกติ  เช่น ห้อง Home isolation ที่ทำขึ้นมาปรับเปลี่ยนเป็นห้องรับรอง หรือห้องออกกำลังกาย รวมถึงเป็นห้องพักของผู้สูงอายุในบ้านก็ได้ เป็นต้น

ผมในฐานะสถาปนิกขอนำเสนอแนวทางหรือไอเดียในการออกแบบหรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ในบ้าน เพื่อใช้ประโยชน์ได้เหมาะสมกับการใช้งาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานที่บ้านที่อนาคตน่าจะมากขึ้นตามแบบฉบับของนิวนอมอลกันครับ

  1. หาไอเดีย   นี่คือสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรก เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ดีไซน์เนอร์ส่วนใหญ่ก็ต้องหาแรงบันดาลใจในการทำงานเช่นเดียวกัน   เพื่อนๆ ที่อยู่บ้านว่างๆ ลองส่องดูใน Pinterest หรือ Instagram หาไอเดียการดีไซน์ที่สวยๆน่าสนใจหรือไอเดียที่ match กับพื้นที่ใช้สอยในบ้านของเรา เพื่อที่ว่าเราจะได้มีแรงบันดาลใจในการจัดบ้านให้สวยงามตามตัวอย่างที่เราได้เล็งเอาไว้

ทั้งนี้เราอาจจะลองคิดดูก่อนว่าสิ่งที่อยากจะลองหาจะเป็นอะไร เช่น  ฉากหลังหรือ Background เวลาประชุม มุมทำงานใหม่ๆ หรือพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ  ซึ่งโดยทั่วไปในแอปที่ใช้ประชุมออนไลน์ส่วนใหญ่ก็มักจะมี background ให้เลือกใช้อยู่แต่เราอาจจะไม่ถูกใจ อาจจะอยากได้แบบที่เป็นของตัวเราเอง  ก่อนจะลองสร้างผนังฉากหลัง เกร๋ๆ ที่เป็นตัวเรา เราก็ลองหาไอเดียก่อนเมื่อได้ไอเดียแล้วก็อาจจะใช้ภาพหรือของแต่งบ้านที่มีแล้วอยู่มาทำการตกแต่งโดยที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ก็เป็นไปได้  บางทีอาจจะเป็นแค่กำแพงก่ออิฐเรียบๆ หรือตู้หนังสือ ที่ลองจัดวางใหม่ก็ทำให้เป็นแบบของเราเองได้แล้ว

หรืออาจจะออกเป็นแนวแบบ Workshop ก็น่าสนใจและแตกต่างไปอีกแบบอาจจะเหมาะกับบุคคลิกแบบเราๆ

2.เคลียร์ของ  อันนี้เป็นสิ่งแรกที่จะต้องทำหลังจากได้ไอเดีย  แน่นอนที่สุด คงไม่มีใครที่อยากจะเห็นอะไรรกๆ หรืออะไรที่ไม่เข้าพวกอยู่ในภาพถ่ายเวลาเราลงโซเชียลอย่างแน่นอน  ไม่ว่าเราจะชอบแนวมินิมอล หรือจะอินกับแนวแม็กซิไมซ์แบบเยอะเข้าว่าก็ตาม  การเคลียร์ของหรือหมายรวมถึงการจัดของที่มีให้เป็นกลุ่มก้อนเป็นระเบียบก่อน ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าอะไรเข้าพวกหรืออะไรควรคัดออก  หรือยังหากยังคิดไม่ออกว่าควรทำอย่างไรแนะนำให้ไปหาหนังเรื่อง”ฮาวทูทิ้ง” มาดูซักหน่อยจะได้ไอเดียอะไรขึ้นมาก ซึ่งการเคลียร์ของนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเอาไปทิ้งออกทั้งหมดนะครับ ซึ่งเคลียร์ของนี้หมายถึงเคลียร์ออกไปก่อนแล้วจัดกลุ่มจัดกรุ๊ปว่าอะไรควรอยู่ด้วยกัน ควรเอาเข้ามาไว้ตรงไหนอย่างไรโดยอ้างอิงจากแนวทางในข้อ 1 (การหาไอเดีย) ที่เราเลือกเอาไว้มาเป็น reference

3.ลองหามุม  ผมเชื่อว่าทุกๆคน คงจะต้องมีมุมโปรดในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน นอกบ้าน ในสวน ในห้องนอนหรือ ห้องนั่งเล่น ต้องมีซักมุมที่เราชอบทำกิจกรรมเป็นประจำ  ซึ่งหากรเราอยากจะปรับเปลี่ยนมุมโปรดของเราให้สามารถใช้เอาไปใช้งานในกิจกรรมใหม่หรือให้ใช้งานในกิจกรรมที่หลากหลายขึ้นก็น่าจะทำให้การใช้ประโยชน์ของพื้นที่มีมากขึ้น

หากเป็นพื้นที่ภายนอกบ้าน  ในสวนพื้นที่ว่างๆ เราอาจจะหาชุดโต๊ะทำงานไม้มาวางในสวนหน้าบ้านใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา เอาแบบว่านั่งจิบกาแฟไปทำงานไปในทุกเช้าหรือจะประชุม online กันแบบให้เพื่อนอิจฉาเพราะนึกว่าเรานั่งทำงานอยู่รีสอร์ตกันไปเลย

หรืออาจจะหามุมในบ้านที่เรานั่งทำงานบ่อยๆ แต่ปรับเปลี่ยนองศาการวางโต๊ะ ให้เห็นของสะสมของเราเป็นพร็อพ ในการประชุม ก็อาจจะทำให้มีเรื่องให้สนทนากับคนที่สนใจหรือเพื่อนร่วมงานได้มากขึ้นด้วยนะครับ

4.ทุ่มทุนสร้าง  เขียนให้คล้องจองกันไปเท่านั้นเอง ที่จริงก็แค่ลงมือทำ ไม่ได้จำเป็นต้องลงทุนอะไรมากมายเราก็สามารถมีมุมสวยๆ ใหม่ในบ้านได้เช่นกัน  ใช้หลักการออกแบบเบื้องต้นง่ายๆ ในการจัดวาง  อะไรที่คล้ายกันอยู่ด้วยกัน เช่นสีเดียวกัน รูปร่างคล้ายๆกันอยู่ด้วยกัน  อะไรไม่เขาพวกหรือแตกต่างกันมากๆเอาเข้ามาจัดร่วมกันได้แต่ก็ไม่ควรให้เกิน 20 เปอร์เซนต์  แค่นี้การจัดวางของเราก็น่าจะดูเข้าทีเข้าท่าแล้วละครับ

หรือหากใครถ้าอยากจะทุ่มทุนจริงๆ แบบว่าซื้อมาวางแล้วสวยเลยอะไรทำนองนี้  ก็มีนะครับแบบพวกบ้านสำเร็จรูปหรือ Modular house ที่ตอนนี้กำลังอินเทรนกันในช่วงโควิด  ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ  เพราะไม่ต้องใช้เวลามากและเราก็เลือกแบบได้ด้วย  ตกแต่งเสร็จยกมาตั้งก็จบเลยพร้อมใช้งาน  โดยในช่วงโควิดใช้เป็นห้องสำหรับแยกผู้ป่วยในบ้าน พอหายป่วยเสร็จก็ใช้เป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายหรือห้องเรียน Online ของลูกๆหลานๆในบ้านได้ด้วยครับ

สำหรับบ้านระบบโมดูลาร์ หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ตู้คอนเทนเนอร์  มันคือการก่อสร้างรูปแบบหนึ่งซึ่งถูกก่อสร้างแล้วเสร็จมาจากโรงงานตามรูปแบบและความต้องการของเจ้าของงาน  ซึ่งจะได้รับการออกแบบและตกแต่งได้อย่างที่ต้องการ รวมถึงทำการตรวจสอบคุณภาพงานถึงความเรียบร้อยก่อนที่จะถูกส่งออกมาจากโรงงานเพื่อติดตั้งที่บ้านหรือที่ไซด์งานก่อสร้าง  ดังนั้นจึงทำให้มีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและไม่เกิดความวุ่นวายที่หน้างานมากนัก ซึ่งปัจจุบันการใช้การก่อสร้างรูปแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศรวมถึงเริ่มใช้ในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ

เพื่อนๆลองใช้กันดูนะครับ “หาไอเดีย เคลียของ ลองหามุม ทุ่มทุนสร้าง”

สุรศักดิ์  วัฒนะจินดาวงศ์

กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีดีไซน์แอนด์ไอ จำกัดและผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือ ME GROUP

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ