ความสำเร็จ 3 ประการ Collaboration-Ecosystem-Internationalization ผลสำเร็จจาก “หุ้นส่วนนวัตกรรม” จากงาน SITE 2023
งานสตาร์ทอัพและอินโนเวชั่น ไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023 (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023) หรือ SITE 2023 ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP – TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม ในปีนี้จบลงแล้ว พร้อมนัดหมายการจัดงานต่อเนื่องปีต่อไป ปลายเดือนมิถุนายน 2024
บทสรุปของ SITE 2023 ที่กลับมาจัดเชิงกายภาพ (On site) เต็มรูปแบบในปีนี้หลังจากห่างหายไป 3 ปี ทำให้ “หุ้นส่วนนวัตกรรม” ตามธีมที่จัด มารวมตัวกันคึกคักภายในงาน รวมแล้วในปีนี้ผู้เข้าชมงานกว่า 15,000 คน และยังคงมีการเข้าชมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://site.nia.or.th/ ประมาณ 300,000 คน
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมการแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวสรุปถึงงาน SITE 2023 ว่า หัวใจสำคัญของการจัดงานที่กำหนดธีมว่าเป็นหุ้นส่วนนวัตกรรมในปีนี้ ภาพงานที่สะท้อนออกมาก ทำให้เห็นการมารวมกันแสดงศักยภาพของระบบนิเวศ นวัตกรรม และสตาร์ทอัพในประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรจากต่างประเทศจำนวน 15 ประเทศ เข้ามาร่วมงาน นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ที่เริ่มหันมาให้ความสนใจเที่ยวชมงานอย่างจริงนัลเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการพัฒนาสตาร์ทอัพสู่คนรุ่นหลัง
“ผลสำเร็จในประเด็นด้านความร่วมมือ (Collaboration) ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้ ปีนี้นอกจากบีโอไอ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำนวัติกรรมร่วมกับเรามาหลายปีเรื่องการระดมทุนและส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ และกระจายพื้นที่ไปยังหัวเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ให้กลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและการลงทุนผ่านนโยบายส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ยังมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) หน่วยงานที่ให้การดูแลความสามารถในการให้บริการหน่วยงานภาครัฐเข้ามาร่วม พร้อมตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของหน่วยงานราชการที่มานำเสนอกรให้บริการด้วยนวัตกรรมมากมายในงาน ทำให้เกิดอีโคซิสเต็มที่ชัดเจนยิ่งขึ้น”
ด้านความร่วมมือที่เกิดขึ้นนอกจากการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานและมหาวิทยาลัย รวมทั้งเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพ ซึ่งปีนี้มีเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพที่เป็นโซเชียลเอ็นเตอร์ไพร์ซกว่า 250 บูธร่วมแสดงในงาน ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต
ส่วนหนึ่งยังเกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างเงินลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้น รวมทั้งการพัฒนาในไทยก็เติบโตสู่ระดับสากล (Internationalization) ซึ่งเป็นภาพความสำเร็จอีกประเด็นที่เห็นได้ชัดจากงานปีนี้
“ความเป็นสากล (Internationalization) สำคัญมาก โดยเฉพาะ กรุงเทพฯซึ่งกลายเป็นเมืองที่มีลวดลายของอินโนเวชั่นมากขึ้น แต่ไม่ใช่ของคนไทยอย่างเดียว เพราะกลายเป็นเบ้าหลอมของนวัตกรจากหลาย ๆ ที่ที่อยากจะมาที่นี่มากขึ้น ”
ทั้ง 3 ส่วนนี้ คือ ความร่วมมือ อีโคซิสเต็ม และความเป็นสากล คือหัวใจสำคัญที่ ดร.พันธุ์อาจ สรุปว่าคือสิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็นจากผลของการจัดงาน SITE 2023 นี้ อย่างชัดเจน
ร่วมสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมไทย ผ่านงาน SITE 2023 – STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2023 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เมื่อวันที่ 22-24 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ที่ https://site.nia.or.th/