A beam of light comes shining down on you
BEAMBEAM
กมลพร โกสียรักษ์วงศ์
สาวแว่นที่คุณอาจรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคนนี้ มีชื่อว่า บีม-กมลพร โกสียรักษ์วงศ์ หรือจะเรียกเบิ้ลให้เก๋ขึ้นว่า ‘บีมบีม’ ก็ได้เหมือนกัน เธอผ่านงานโฆษณามาหลายชิ้น รวมทั้งงานถ่ายแบบ รายการทีวี และเอ็มวี จนทำให้เธอกลายเป็นไอคอนของสาวแว่นคนหนึ่ง
เธอเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะบริหารธุรกิจ เมื่อปีก่อน และปัจจุบันก็ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินไทยสมายล์ปีที่แล้วนั้นเอง นับเป็นปีที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตของเธอมากมาย เรามาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น ผ่านเรื่องราวเหล่านั้นกัน
1. สาวแว่นแคสต์งาน
บีมมาที่สตูดิโอของเราพร้อมกับคุณแม่ อันเป็นช่วงวันหยุดที่เธอไม่มีไฟลท์บิน ตัวจริงของเธอยิ้มง่ายและสดใสไม่ต่างจากรูปที่เราเห็นในอินสตาแกรม เธอเล่าว่าเริ่มเข้าสู่วงการโฆษณาตั้งแต่ช่วงที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เธอสอบติดไว จึงมีช่วงว่าง และเห็นกรุ๊ปในเฟซบุ๊กที่มีรับพวกติวเตอร์จ็อบ เลยไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษติว GAT/PAT เด็ก
“หลังจากนั้นจะมีกรุ๊ปอยู่ข้างๆ อีกเหมือนกัน เป็นกรุ๊ปรับพวกเอ็กซ์ตราโฆษณา เลยลองเข้ากรุ๊ปไปดู และเริ่มส่งรูปตัวเองไป ถ่ายเองอะไรเอง เขาก็เริ่มติดต่อมาให้ไปลองแคสต์ เราก็ลองไปสมัครของเราเอง เป็นเอ็กซ์ตราก่อน เล็กๆ น้อยๆ ก็เอา อยากช่วยที่บ้าน เพราะเราต้องดูแลแม่
“ตอนที่ไปสอนเป็นคุณครูก็ช่วยเหมือนกัน แต่ตอนหลังเริ่มไม่มีเวลาแล้ว เพราะเราต้องไปแคสต์งาน ซึ่งใช้เวลาทั้งวัน ต้องใช้ความอดทนสูง ถ้าใครที่ไม่ชอบ เขาก็อาจจะไม่อยากรอ อยู่วงการโฆษณามา 3 ปีกว่า เอาจริงๆ นะ นี่คือแทบจะไม่มีใครชวนเท่าไหร่ เหมือนตัวเองเสนอเอง เราอยากทำเอง เราขวนขวายโอกาสเองมาตลอด”
ผลงานที่ทำให้คนจำเธอได้มากๆ น่าจะเป็นโฆษณาปลาหมึกเต่าทองที่ฉายในโรงภาพยนตร์ อีกตัวคือเอ็มวีเพลง Bad Luck ของวง Lipta feat. The Toys ซึ่งทำให้คนมาฟอลโลว์เยอะขึ้นด้วย
“แรกๆ แคสต์ไม่ค่อยได้ เพราะว่าพอเราไปแคสต์ เราถอดแว่น ก็ไม่ค่อยได้งาน แล้วมีครั้งหนึ่งเราใส่แว่นไป แล้วเราก็ถอดแว่น แล้วพี่เขาบอกว่า อ้าว! ทำไมไม่ใส่แว่นล่ะ ก็เป็นตัวเราไปเลย ก็เลยใส่แว่น พอใส่แว่นปุ๊บ คราวนี้คนก็เหมือนเริ่มจำได้ ไหนเรียกน้องคนใส่แว่นมาแคสต์สิ ก็เลยเริ่มได้เยอะขึ้นมาเรื่อยๆ”
พูดได้ว่าความเป็นตัวเองคือจุดขาย แต่ความเป็นตัวเองบางอย่างก็ต้องคอยควบคุมดูแล
“เมื่อก่อนเป็นคนอ้วนมาก แต่ฝันอยากไปอยู่บนหน้าจอ เราเป็นเด็กอ้วน เราก็ลดน้ำหนัก มีช่วงหนึ่งอยู่ช่อง 3 ด้วย รายการวิกนี้สีชมพู ช่วงนั้นจะผอมลงไปเลย เพราะน้องๆ เขาตัวเล็กจริงๆ เมื่อก่อนหนักมากสุดในชีวิตคือ 60 คืออ้วนมาก จริงๆ แล้วอยู่อย่างนั้นมาสองสามปีโดยที่ไม่รู้ตัวเองว่าอ้วนเลย (หัวเราะ) จนมาถึงจุดที่เราก็ตัวเล็กลงมาเรื่อยๆ พอเลข 4 เราก็ว่าดีแล้ว แต่น้องเขาเล็กกว่านั้นอีก บางคนแทบไม่กินอะไรเลย แต่บางคนเขากินแล้วไม่อ้วน แต่เราเป็นคนกินแล้วอ้วนง่าย ช่วงนั้นจะกินน้อยมาก นับแคลฯ เลย กินวันละไม่เกิน 500 แคลฯ”

3. เป็นแอร์ฯ ใครว่าสบาย
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กลายเป็นลูกเรือของสายการบินไทยสมายล์ เรียกว่าชีวิตพลิกผันรวดเร็วมาก
“พอผิดหวังจาก BNK48 เราก็คิดในใจว่า ต้องหาอะไรมั่นคงให้ชีวิตละ เราอยากได้อะไรที่มั่นคง ภาษาเราพอได้ ถ้าเป็นแอร์โฮสเตสอาจจะมีเวลามาแคสต์งานด้วย ก็เลยไปลองเป็นแอร์ฯ ละกัน”
เธอมาลองที่ไทยสมายล์ และก็ได้ ตอนช่วงเริ่มเทรนนั้นเธอยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ
“เทอมสุดท้าย โปรเจกต์มาเต็มไปหมด ติดไปหมด ช่วงเทรนกับช่วงเรียน ตีกันเครียดมาก หนักที่สุดในชีวิต ร้องไห้ทุกวัน ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ แล้วก็หันหน้าไปมองเปิดยูทูบเจอเพื่อนอยู่ใน BNK48 โอ๊ย! เครียด (หัวเราะ)”
แต่อย่างน้อยเธอก็ได้ทำตามความฝันอย่างหนึ่งตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ
“เป็นแอร์ฯ สวยจัง ลากกระเป๋า แรกๆ แฮปปี้นะ ลากกระเป๋า มีคนมอง (หัวเราะ) แต่พอขึ้นเครื่องปุ๊บ อื้อหือ! เหนื่อยมาก ถ้าจะพูดเรื่องเปลี่ยนชีวิตนะ พูดว่าเรื่องเป็นแอร์ฯ ดีกว่า แล้วคือเป็นแอร์ฯ นี่หนักมาก ใครบอกสบาย มาคุยกันเลย (หัวเราะ) แรกๆ เหมือนเราก็โดนรับน้อง เขาก็เตือนเรา ดุเราบ้าง อะไรบ้าง มันก็จะเครียดๆ กดดัน เพราะมันขึ้นอยู่กับชีวิตคนด้วย”
อย่างที่บอก เป็นช่วงปีที่ชีวิตเธอเปลี่ยนมากมายเหลือเกิน หลายเรื่องสุมรุม
“แต่มันก็สะใจดี เป็นชีวิตที่คุ้ม ทำทุกอย่าง ชีวิตวุ่นวายมาก ปีเดียวเลย”
เราก็หวังว่าเธอจะไม่เหนื่อยเกินไปจากการเป็นแอร์ฯ เพื่อที่เธอจะยังคงหาเวลาไปแคสต์งานได้ และเราจะได้ติดตามผลงานของเธอกันต่อไป
ช่างภาพ : กิตตินันท์ จรรยางาม