ในบรรดาประเทศเกิดใหม่แถบยุโรปตะวันออก ที่แยกตัวออกมาจากการแตกสลายของสหภาพโซเวียต และการจบสิ้นของสงครามเย็นและพังทลายของกำแพงเบอร์ลินนั้น ชื่อของ ‘เอสโตเนีย’ น่าจะเป็นหนึ่งในดินแดนที่กำลังมาแรงและเป็นที่กล่าวถึงที่สุดในชั่วโมงนี้ จากหลายเหตุผล และปัจจัยประกอบกัน ประเทศขนาดเล็ก จำนวนประชากรไม่มาก พื้นที่ย่อมเยาพอเดินทางทั่วได้ในหนึ่งวัน สามารถสร้างตัวตนและพละกำลังทางเศรษฐกิจด้วยการประยุกต์และโอบรับเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT เข้าเป็นกระดูกสันหลัง พัฒนาให้ประชากรรุ่นใหม่มีความเป็น ‘Technology Native’ และ ‘Global Citizen’ ที่พร้อมออกไปสู่และสู้กับตลาดโลกได้อย่างเท่าทัน ท่วงที และอาจหาญ พร้อมสาธารณูปโภคพื้นฐานที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ล้ำหน้า มีความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ ผลผลิตมวลรวมประชาชาติของเอสโตเนีย จากการวางรากฐานในอดีต เพียงระยะเวลาสองทศวรรษ ออกดอกผลสมใจหมาย กลายเป็นหนึ่งในกำลังขับเคลื่อนและที่หมายสำคัญของเหล่านักลงทุน ผู้ประกอบการ และธุรกิจไอทีขนาดย่อม เพราะขอแค่เพียงมีบริษัทที่เป็นตัวเป็นตน การจดทะเบียน ‘ประชาชนไซเบอร์’ หรือ ‘e-Estonia’ ด้วยชุดสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องมีสถานที่ตั้งในประเทศก็ยังไหว เป็นใครก็จ้องมองประเทศเกิดใหม่นี้ตาเป็นมัน แต่ในอีกด้านหนึ่ง … เอสโตเนียก็ยังคงบุคลิก และเอกลักษณ์ของความเป็นชาติ ‘ยุโรปตะวันออก’ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน จนหลายครั้ง แตกต่างจากภาพที่แสดงให้เห็น และทำให้ผู้ไปเยือน เกิดอาการ ‘Culture […]Read More
เรื่อง: อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ บ่อยครั้งที่ผมเจอกับคำถามว่า..หากจะไปเที่ยวประเทศใกล้ๆ แต่ได้รสชาติอะไรที่แปลกใหม่ควรจะไปประเทศไหน ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้เวลานี้…ผมตอบแบบที่ไม่ต้องคิดเลย คือ โฮจิมินห์ซิตี้ หรือว่า ไซง่อน ของประเทศเวียดนามครับ แน่นอนว่าสำหรับใครที่ชอบแนวหรูหราหรือต้องการความสะดวกสบายก็จะต้องประเทศสิงคโปร์หรือฮ่องกงเป็น จุดหมายปลายทางประเภทที่รับประกันความปลอดภัยหรืออย่างน้อยก็ได้บริการที่ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่คาดไว้ ส่วนใครที่ชอบแบบผจญภัยหรือต้องการค้นหา สำหรับผมรู้สึกว่าประเทศเวียดนามดูจะไม่น่าสนใจเท่ากับประเทศกัมพูชา และไม่มีเสน่ห์ลึกๆ เหมือนกับประเทศพม่า ผมเลยขอไม่เปรียบเทียบนะครับ ไม่ว่าจะทั้งสไตล์สแตนดาร์ดแบบประเทศสิงคโปร์ หรือ วัฒนธรรมในแบบกัมพูชา แต่ผมอยากจะบอกว่าประเทศเวียดนามมันมีอะไรที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะเวียดนามใต้อย่างโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งผมอยากจะไฮไลท์ว่ามีความผสมผสานที่พอดีเป็นที่สุด จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะมาถึงสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของโฮจิมินห์ซิตี้ ทั้งยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม และมีความทันสมัยในแบบสากลอีกด้วย #มองการเมืองผ่านสถาปัตยกรรม มองในแบบการเมืองและวัฒนธรรมถ้าคุณต้องการสถานที่ท่องเที่ยวแบบด่วนได้ถ่ายรูปดีให้เข้าไปที่ใจกลางเมืองคุณก็จะพบกับสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสมากมายเต็มไปหมดทั้งโบสถ์นอตเตอร์ดาม ที่ที่สวยงามเป็นสง่าพร้อมกับหอคอยคู่และพระแม่มารีด้านหน้า ซึ่งสร้างขึ้นจากผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศส โดยใช้วัตถุโดยใช้วัตถุดิบเกือบทั้งหมดมาจากตะวันตกโดยเฉพาะหินมาจากมักเซย อิตาลี จากนั้นจากนั้นเดินไปไม่ถึง 10 เมตรคุณก็จะได้เห็นอาคารที่ทำการไปรษณีย์กลางของกรุงโฮจิมินห์ ซึ่ง ณวันนี้ยังคงทำการอยู่ซึ่งอาคารสีเหลืองที่เห็นอย่างชัดเจนนี้ออกแบบโดยกุสตาฟไอเฟล ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่สร้างหอไอเฟลที่ ปารีส ฝรั่งเศส แล้วถ้าหากแล้วถ้าหากคุณเป็นแฟนสถาปัตยกรรมตัวยงขอให้เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะได้เจอกับวิหารสีชมพูที่มีเสน่ห์อย่างลึกซึ้ง ที่สำคัญกับบรรยากาศของอาคารสถานที่ในแบบตะวันตกเหล่านี้จะมีร้านกาแฟซ่อนตัวอยู่ระหว่างทางเต็มไปหมดให้คุณได้ค้นหาทั้งในแบบท้องถิ่นและแบบที่รังสรรค์จนหลายร้านคุณคิดว่าคุณไม่มีโอกาสได้เห็นในเมืองไทย […]Read More
เรื่อง: อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ เมื่อ GM Live ได้รับเชิญจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี หรือ Korea Tourism Organization (KTO) ให้ร่วมทริปไปท่องเที่ยวเกาหลีเพื่อสัมผัสกับจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ผมก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างมากเมื่อได้เห็นโปรแกรม เพราะเกือบทุกสถานที่นั้น เป็นย่านที่ไม่เคยไป หรือสัมผัสมาก่อนแทบทั้งสิ้น และเมื่อการเดินทางเริ่มต้นขึ้น….วันแรกที่มาถึงประเทศเกาหลีเราพักกันที่กรุงโซล ( Seoul ) ครับ ผมทำการสำรวจพื้นที่ทันทีเริ่มจาก มุนฮวาบีชุกกีจี หรือ Oil Tank Culture Park ซึ่งผมขอนิยามว่าเป็นสวนสาธารณะที่ผสมผสานกับพื้นที่ทางวัฒนธรรม เพราะในปี ค.ศ. 1970 ที่นี่เคยเป็นคลังน้ำมันที่สำคัญมากๆ ที่เก็บสำรองน้ำมันสำหรับเมืองหลวงไว้ใช้ในภาวะสงคราม หลังการเลิก สถานที่แห่งนี้ก็ปิดตัวยาวหลายสิบปี จนต่อมาในปี ค.ศ. 2013 ทางรัฐบาลกลางได้ประกวดแนวคิดการใช้พื้นที่ จนในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2017 ได้ปรับเปลี่ยนการใช้งานของถังน้ำมันต่างๆ ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ โรงละครในร่ม โรงละครกลางแจ้ง และพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเมื่อผมได้เห็นและได้สัมผัสทำให้ผมเข้าใจลึกซึ้งถึงแนวความคิดการสร้างประโยชน์ใหม่ในสิ่งก่อสร้างเดิม ซึ่งเป็นแนวทางการปรับเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นและดีอย่างยิ่ง จากนั้นผมขอตามลายแทงไปเพื่อไปค้นหา สถานที่ซึ่งเปรียบเหมือน […]Read More
การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board) เปิดตัวแคมเปญสนับสนุนการท่องเที่ยวใหม่ ““360 Hong Kong Moments: New Adventures at Every Turn” ฮ่องกง 360 องศา: การผจญภัยครั้งใหม่ในทุกมุม” เชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยมาร่วมทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวและการพัฒนาปรับปรุงครั้งใหม่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอฮ่องกงผ่าน 4 มุมมองใหม่ ประกอบด้วย มุมแรก Arts & Culture: ศิลปะและวัฒนธรรม มุมที่สอง Shop Dine & Stay: ช็อป ชิม และ ชิล มุมที่สาม Explore &Read More
วันนี้ เป็นโอกาสและจังหวะที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ผมอยากให้ทุกท่านลองมาสัมผัสกับวัดเล็กๆในย่านฝั่งธนบุรีกันครับ เพราะย่านนี้ไม่ได้มีแค่วัดอรุณราชวรารามรามวรมหาวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร หรือวัดที่มีชื่อเสียงคุ้นหูเท่านั้น ซึ่งถ้าหากไม่เลือกไปเที่ยวชมวัดที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ดูโดดเด่นเป็นสง่าแล้วละก็ ลองเปลี่ยนมาเป็นการค้นหาวัดที่ซ่อนตัวตามคลองต่างๆ ในย่านฝั่งธนบุรีกันดูบ้างครับ รับรองว่าได้เจอขุมทรัพย์ดีๆ อีกมากเหมือนที่ผมได้พบเจอมา วัดเกาะ ตลิ่งชัน ที่นี่คือวัดแรกที่ผมอยากแนะนำให้มาทำความรู้จัก หาไม่ยากครับ โดยเริ่มต้นค้นหาคำว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพมหานคร แล้วนำรถมาจอดบริเวณนี้ได้ ซึ่งมีที่จอดรถของเอกชนแบบเสียค่าจอด แต่สามารถจอดรถไว้ได้อย่างสบายใจ จากนั้นขอให้เดินหรือจะปั่นจักรยานก็ได้ไม่ว่ากัน ข้ามสะพานเล็กๆ เป็นสะพานข้ามคลองบางเชือกหนัง แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางเดินผ่านชุมชน ก็จะพบกับ ‘วัดเกาะ’ ที่เป็นจุดบรรจบกันของคลองบางระมาดและคลองบางเชือกหนัง ซึ่งจากภาพที่เห็นนั้นประหนึ่งว่าวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเลยทีเดียว วัดเกาะ ดูเหมือนวัดเก่าในชนบท แต่มีภูมิทัศน์ที่สะอาด และที่น่าสนใจสำหรับผม คือ ‘วิหารหลวงพ่อดำ’ ซึ่งคงความเรียบง่าย สวยงาม โดยที่หน้าบันมีตัวอักษร ‘ชุ่ม’ ซึ่งเป็นนามผู้สร้าง ภายในวิหารประดิษฐาน ‘หลวงพ่อดำ’ ซึ่งชาวบ้านนิยมมาบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหาร เมื่อสำเร็จก็จะมีการแก้บนด้วยไข่ 100 ฟอง ไฮไลต์ของผมสำหรับที่นี่ไม่ได้อยู่ที่เรื่องการมาบนบานศาลกล่าวครับอย่าเพิ่งเข้าใจผิด แต่เป็นอุโบสถที่สร้างเมื่อ พ.ศ.2473 หลังคาประดับด้วยช่อฟ้าและใบระกา โดยมีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. 2522 […]Read More
เรื่อง: อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ ผมเองเดินทางบ่อยมาก…ส่วนใหญ่มีที่มาที่ไปจากเรื่องงานเป็นหลัก ทำให้มุมมองที่ได้จากการเดินทางส่วนใหญ่จึงไม่ใช่การเดินทางเพื่อพักผ่อน หรืออธิบายความสวยงามของสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่เป็นการหาเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในสิ่งที่เห็น หรือพินิจพิเคราะห์กับสิ่งนั้นให้ลึกกว่าเดิม…และกับเรื่องที่จะเล่าครั้งนี้เป็นการใส่หมวกของคนสอนวิชาบริหารธุรกิจ ผมเชื่อว่าหลายคนเมื่อไปญี่ปุ่น มักจะเข้าไปหาอะไรรับประทานในร้านสะดวกซื้อหรือในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งผมเองก็เช่นเดียวกัน เพราะมันสนุกจากการเลือก เพลิดเพลินกับของอร่อย และตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่บ้านเราไม่ค่อยมี โดยเฉพาะกับเรื่องความหลากหลายของเครื่องดื่ม ซึ่งจะว่าไปแล้วที่ญี่ปุ่นนั้นแข่งขันกันดุเดือดมากๆ โดยตัวเลขของสถาบันวิจัย Yano รายงานว่าปี 2020 ตลาดเครื่องดื่มในญี่ปุ่นมีมูลค่าตลาดถึง 5 ล้านล้านเยน ทีนี้จะบอกว่า ตอนไปที่ญี่ปุ่นเมื่อ 4-5 ปีก่อน ผมเริ่มสังเกตเห็นความแตกต่างในชั้นที่ขายเบียร์…จากเดิมที่เคยเห็นแค่ 4 ยี่ห้อให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น คิริน อาซาฮี ซันโตรี และ ซัปโปโร ซึ่งอาจจะมีเบียร์ยี่ห้ออื่นแซมมาบ้างเล็กน้อย แต่ในวันนี้…ถ้าให้ทุกท่านลองสังเกตกันดีๆ จะเห็นว่าในเมืองใหญ่ เบียร์ยี่ห้อหลักเหลือบนชั้นวางเครื่องดื่มน้อยลงกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง โดยอีกครึ่งหนึ่งที่หายไปกลายเป็นคราฟต์เบียร์ของค่ายต่างๆ เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าย Yona หรือค่ายอื่นๆ ซึ่งเบียร์นอกกระแสเหล่านี้สังเกตไม่ยากครับ เพราะไม่มีบุคลิกที่คมเข้ม น่าเชื่อถือแบบเดิม แต่ว่ามาในรูปลักษณ์ของแมว หมา นกฮูก ปลาวาฬ หรือรูปอื่นๆสุดแท้จะสร้างสรรค์กันได้ ถามว่าเกิดจากอะไร? มันเกิดจากการถูกดิสรัพต์ […]Read More
เรื่อง: อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ พุทธไทย กระแสน้ำไหลกลับการตีความในความถูกต้องเหมาะสมของศาสนาพุทธในประเทศไทยนั้น ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นถี่ขึ้น บ่อยขึ้น และหนักหน่วงมากขึ้น แต่ทว่าไม่ได้มาในแบบมุมมองจารีตเท่านั้น เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเห็นเฉพาะมุมมองในแบบปกป้องเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเรื่องชาวต่างชาติกระทำการที่ไม่เหมาะสมกับพระพุทธรูปในประเทศไทย หรือแม้แต่ชาวตะวันตกนำเศียรพระไปเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ซึ่งเป็นข่าวอยู่เนืองๆ แต่วันนี้กลับเหมือนหนังคนละม้วน เพราะเนื้อหาในภาพยนตร์ซึ่งถูกระบุว่าทำให้ศาสนาเสียหายจนต้องตัดหรือห้ามฉาย กลับได้รับการต่อต้านจากผู้คนจำนวนไม่น้อยว่าเป็นภาพยนตร์และสะท้อนสังคมซึ่งไม่น่าจะเสียหายอะไร ขณะเดียวกัน…ก่อนหน้านี้มีร้านขายขนมทำอาลัว หรือขนมหวาน โดยเลียนแบบพระเครื่องที่คนไทยเคารพบูชา ซึ่งครั้งนี้กระแสแบบจารีตถูกท้าทายจากการตีความของคนรุ่นใหม่ว่าไม่น่าจะเสียหาย เพราะเป็นศิลปะ เป็นเรื่องสมมุติ หรือแม้กระทั่งกล่าวแย้งด้วยว่า พระเครื่องไม่ได้เป็นสิ่งที่พุทธบัญญัติไว้ และกับกรณีที่ใกล้ที่สุด โดยถกเถียงกันมากที่สุดอีกครั้งหนึ่ง คือ การมี พส หรือ พระสงฆ์ชื่อดัง 2 รูป ออกไลฟ์สดแบบที่เอาเรื่องตลกนำ แล้วเอาคำสอนตาม ซึ่งว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว การใช้ช่องทางออนไลน์สมัยใหม่ และการเข้าถึงด้วยภาษาที่ง่ายนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเข้ากับยุคสมัย แต่การขอรับการสนับสนุนผ่านการโอนมายังบัญชีส่วนตัว พส เอง ในขณะไลฟ์สด และเนื้อหาที่เป็นคำสอนอันน้อยนิด เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันถึงความเหมาะสม พุทธญี่ปุ่น กระแสน้ำไหลแรงผมเองในฐานะ ‘นักเดินทาง’ และมีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นเป็นพิเศษ จึงอยากขอบอกเล่าถึงปรากฏการณ์ของพระสงฆ์ในญี่ปุ่นว่า เขาเองก็เคยมีช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่ามันมีกระบวนการและขั้นตอนที่ไม่เหมือนกับบ้านเรา ญี่ปุ่นเป็นพุทธในแบบมหายาน ที่เน้นการช่วยเหลือผู้คนและมองภาพใหญ่มากกว่า ขณะที่บ้านเรา คือ […]Read More
เรื่อง: อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ ท่านผู้อ่านครับ…การเดินทางเพื่อเที่ยววัดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของผม ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนถึงวันนี้ เพราะเป็นความเพลิดเพลินใหม่ของคนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ แล้วต้องห่างหายจากการเดินทางไปแบบผมเพิ่งจะค้นพบ วันนี้ขอเขียนถึงวัดร้างต่างๆ ที่ได้พบระหว่างการปั่นจักรยานตามเส้นทางทั้งในกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี ซึ่งแต่ละแห่งมีความสนุกที่ได้สัมผัสแตกต่างกันออกไป วัดแรกที่จะชวนให้ทำความรู้จัก คือ วัดสักน้อย ซึ่งที่นี่เหลือแต่วิหารเก่าชำรุด ทว่ายังคงมีความงาม และมีเสน่ห์ตรงที่มีเถาวัลย์ปกคลุมทั่ววิหาร วัดแห่งนี้ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาวิหารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนมีแผนผังเป็น รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฐานอาคารเป็นฐานบัวแอ่นโค้งเล็กน้อย ผนังด้านหน้าเจาะช่องประตูรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 2 บาน ผนังด้านข้างเจาะช่องหน้าต่างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้านละ 5 บาน ผนังด้านหลังก่อทึบโครงหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องดิน ย้ำว่าแม้ความทรุดโทรมอาจจะทำให้ไม่มีรูปแบบศิลปกรรมหลงเหลือให้พินิจอยู่มากนัก แต่การที่บนหลังคานั้น มีต้นไทรและเถาวัลย์ขึ้นปกคลุมไปทั่ว เป็นความสวยงามแปลกตา ซึ่งหากใครได้เข้ามาเห็นจะหวนนึกถึงอดีตแทบทุกคน ผมเองก็เช่นกัน วัดที่ 2 วัดสุวรรณคีรี เป็นวัดร้างที่เหลือความเป็นวัดไม่กี่ตารางเมตร ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนสุธรรมศึกษา ใกล้ๆ กับบ้านศิลปินริมคลองบางหลวง ที่หลายคนอาจจะเคยมาเที่ยวก่อนหน้านี้ ตัวอาคารได้รับการปรับปรุงขึ้นใหม่ ซึ่งหากไม่สังเกตอาจจะนึกว่าที่นี่เป็นเพียงศาลเจ้าจีนในโรงเรียน ทั้งนี้ จากหลักฐานที่มีอยู่ สันนิษฐานว่าวัดสุวรรณคีรีสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย และในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการสำรวจวัดครั้งใหญ่ในเมืองเพื่อทำการบูรณะ จึงได้ยุบรวมวัดสุวรรณคีรีเข้ากับวัดคูหาสวรรค์ […]Read More
ฯพณฯ ท่าน โชยงมัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และ คุณซอ ยองชุง รองประธาน ฝ่ายกองการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี ร่วมเปิดงาน “Love Korea 2022: รวมพลคนรักเกาหลี เที่ยวสุขใจไปกันเอง Travel To Korea Begins Again” เมื่อวันที่ 20-21 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต โดยงานครั้งนี้ เป็นงานที่จัดโดยความร่วมมือ ระหว่างองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีประจำประเทศไทย หน่วยงานภายใต้กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเกาหลี สนับสนุนโดย สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย และ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย โดยจุดประสงค์ของงาน เพื่อ ส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของประเทศเกาหลี ภายในงาน มีการอัพเดทข้อมูลการเดินทางใหม่ๆ และมีทราเวล ทอล์ค โชว์ กับ ดีเจ บุ๊คโกะ, ดีเจนุ้ย & ดีเจมะตูม และทราเวลบล็อกเกอร์ […]Read More
เรื่อง: อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ เมื่อวานนี้ผมมีโอกาสไปทิ้งตัวเองกับร้านชา ร้านกาแฟ รวมถึงร้านขนมปังที่อยู่ในย่านอารีย์ สำหรับผมแล้ว จังหวะการก้าวเดินของที่นี่ ดูคล้ายกับย่านนิมมานเหมินทร์ในเชียงใหม่ หรือ ประมาณย่านไดกังยามะ ของโตเกียว ที่เต็มไปด้วยร้านเล็ก ร้านน้อย ซึ่งแทรกตัวตามซอกหลืบ หรือยืนเด่นท่ามกลางอาคารบ้านเรือนของผู้คน จะว่าไปแล้วเกือบทั้งหมดร้านรวงเหล่านี้มักมีที่มา หรือเรื่องเล่าที่เป็นสตอรี่ประกอบ เพื่อทำให้ความละมุนของสินค้าและบริการถูกขับออกมาให้เด่นตามประสาการเสพเรื่องราวของผู้คนในยุคนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงบ้าง ปรุงแต่งบ้าง เพื่อทำให้คนอิน หรือซาบซึ้งก่อนที่จะกลืนกินอะไรสักอย่าง ที่เห็นข้างหน้าลงไปในท้อง แต่ที่ญี่ปุ่นนั้น ผมรู้จักร้านกาแฟร้านหนึ่งที่มีสตอรี่ หรือเรื่องเล่าที่ไม่ได้แต่งขึ้นมาประกอบ แต่มาจากเรื่องจริงที่สะท้อนพลังของความเป็นชุมชนเมืองได้เป็นอย่างดี ร้านนี้มีชื่อว่า Kayaba Coffee Kayaba Coffee มาจากชื่อผู้ก่อตั้ง คือ คายาบะ อิโนะสุเกะ ที่เปิดกิจการในปีโชวะที่ 13 หรือ ค.ศ. 1938 ที่นี่ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองไม่นานจนก็กลายเป็นขวัญใจของคนในชุมชนไทโต ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากย่านอูเอโนะ ในโตเกียว และยืนหนึ่งเป็นลมหายใจของผู้คนในย่านนี้อย่างต่อเนื่องกว่า 60 ปี จนเมื่อคุณคายาบะ อิโนะสุเกะ ต้องอำลาจากโลกไป จากการที่ทายาทของเธอ ไม่ประสงค์จะรับมรดกต่อ Kayaba Coffee […]Read More