ธุรกิจนายหน้าประกัน บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings หรือ TIDLOR คว้า 2 รางวัล ระดับโลก จากเวที Digital CX Awards 2025 โดย The Digital Banker ได้แก่ รางวัล Excellent Omnichannel Customer Experience จากความโดดเด่นในการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่านทุกช่องทางของธุรกิจนายหน้าประกันภัย และรางวัล Outstanding Digital CX Transformation in Insurance ที่สะท้อนความสามารถในการพัฒนาโครงสร้างธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและยืดหยุ่น ในฐานะนายหน้าประกันดิจิทัลที่เข้าใจลูกค้าของแบรนด์ เฮ้ กู๊ดดี้ โดยรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ มาจากการขับเคลื่อนและยกระดับธุรกิจประกันด้วยแนวคิดการพัฒนา Insurance Brokerage Ecosystem อย่างเป็นระบบ ซึ่งผสานเทคโนโลยี ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และช่องทางการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อมอบประสบการณ์การเข้าถึงประกันภัยที่ง่าย โปร่งใส และตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ทั้งในรูปแบบออฟไลน์ผ่านเครือข่ายสาขากว่า 1,800 […]Read More
คอลเล็กชั่นพิเศษ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่สถานที่… แต่คือ “ความรู้สึก” คือ เสียงหัวเราะที่คุ้นเคยคือ อ้อมกอดที่ปลอดภัย และคือ “ใครบางคน” ที่ทำให้ทุกวันมีความหมาย และบ้านควรเป็นพื้นที่ที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ซึ่ง Happy Art ก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น โดยงานศิลปะที่ดี… ไม่ได้แค่แต่งบ้านให้สวย แต่ต้องแต่งใจให้สุข และนั้นทำให้ PARNARTS ได้รังสรรค์คอลเล็กชั่นพิเศษนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกภาพที่ติดบนผนัง คือ ความรู้สึกของคำว่า “บ้าน” ในแบบของตัวเอง ที่อบอุ่น ละมุน และมีความหมาย GM Live ได้มีโอกาสไปชม YOU ARE MY HOME เนรมิต “บ้าน” ให้เป็นอาร์ตแกลอรี่ ณ นาราสิริ บางนา กม.10 เพราะที่สุดแล้ว บ้าน คือ ที่ที่หัวใจเรากลับไปเสมอ NARASIRI BANGNA KM. 10 x PARNARTS […]Read More
กลุ่มบริษัท Mitsubishi Electric ยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค เอเชีย พีทีอี จำกัด หรือ MEAP ซึ่งทำหน้าที่เป็นบริษัทด้านการขายในสิงคโปร์และเป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคที่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ได้เปิดสำนักงานผู้แทนการค้าอย่างเป็นทางการในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมกันนี้ บริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) ก็ได้เปิดสาขาใหม่อย่างเป็นทางการในกรุงพนมเปญเช่นกัน สะท้อนถึงความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นระหว่างบริษัทในเครือของกลุ่ม Mitsubishi Electricการดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการขยายตลาด และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ Mitsubishi Electric ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืน นายโทชิมิตสึ อิโต ผู้แทนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์ปเปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการของบริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค เอเชีย กล่าวว่า “การเปิดสำนักงานผู้แทนการค้าในประเทศกัมพูชานั้น เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ของ Mitsubishi Electric ในการเสริมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ผ่านมา Mitsubishi Electric ได้ดำเนินธุรกิจในกัมพูชาอยู่แล้วผ่านการจำหน่ายระบบปรับอากาศและบริการลิฟต์ โดยอาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นและผู้จัดจำหน่าย ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีการรับรู้ในตลาดท้องถิ่นอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้น เราจึงได้จัดตั้งสำนักงานผู้แทนการค้าในกรุงพนมเปญเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพื่อเสริมสร้างการดำเนินงานของเราในประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น แม้จะมีภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวหรือหยุดชะงัก […]Read More
ยัสปาล กรุ๊ป หรือ บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์แห่งภูมิภาคอาเซียน เดินหน้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบโลจิสติกส์มาใช้พลังงานสะอาด โดยเริ่มใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) สำหรับการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ พร้อมขยายผลสู่การลดของเสีย (Waste Reduction) ในกระบวนการดำเนินงาน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม นายจรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยัสปาล กรุ๊ป หรือ บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยัสปาล กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจแฟชั่นควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เราให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดในโลจิสติกส์ พร้อมทั้งลดของเสียในทุกขั้นตอน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิด The Power of Sustainability ที่ยัสปาล กรุ๊ป ยึดมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง “เราเชื่อว่าการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นไลฟ์สไตล์ไม่ใช่แค่เรื่องของเทรนด์และสไตล์ แต่คือการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ทั้งกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การขนส่งที่ลดการปล่อยมลพิษ และการบริโภคที่มีความรับผิดชอบ โดย ยัสปาล กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแนวทางเหล่านี้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน […]Read More
‘คนส่วนใหญ่เข้างานเช้าแค่ไหน เลิกงานกันกี่โมง และมีเวลาไปทำกิจกรรมอื่นมากน้อยแค่ไหน’ ‘เมืองใหญ่มีพื้นที่ให้กับกิจกรรมแบบไหน มีเพียงพื้นที่ทำงาน หรือมีพื้นที่หลากหลายให้คนได้พักผ่อนหย่อนใจ’ ‘คนสูงวัยใน 4 เมืองใหญ่ใช้ชีวิตกันอย่างไร กระจายตัวทั่วเมืองหรือไม่ หรือกระจุกตัวอยู่ในย่านที่คุ้นเคย’ นี่คือตัวอย่างของคำถามที่นำไปสู่การค้นหาและเปิดโลกเรื่องเมืองในโปรเจกต์ชื่อว่า ‘Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น’ ที่มีหมุดหมายในการศึกษาชีวิตผู้คนและเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยข้อมูลระดับ Big Data โดยมุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่าโปรเจกต์นี้มีความแปลกใหม่และน่าสนใจ 3 แง่มุม คือ หนึ่ง เป็นครั้งแรกในไทยที่ใช้ Mobility Data หรือ ชุดข้อมูลการเคลื่อนที่ของประชากรจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ ทำความเข้าใจจังหวะชีวิตของเมืองและผู้คนใน 4 เมืองใหญ่ ใน 4 ภูมิภาคของไทย คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา-หาดใหญ่ สอง เป็นการใช้ข้อมูลจากภาคธุรกิจ Telco-Tech ในเชิงการพัฒนาเมือง โดยทรูเป็นผู้จัดการข้อมูล และศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสู่แนวทางการพัฒนาเมืองที่ดีขึ้น สาม เปิดกว้างให้ประชาชน ผู้กำหนดนโยบาย และผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมสำรวจ ศึกษา […]Read More
‘คนสร้างเมือง หรือ เมืองสร้างคน’ คือคำถามสำคัญจากงานเปิดตัวโปรเจกต์ ‘Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น’ ครั้งแรกในไทยที่นำชุดข้อมูลการเคลื่อนที่ของประชากรจากโทรศัพท์มือถือ (Mobility Data) มาถอดรหัสไลฟ์สไตล์ 4 เมืองใหญ่ใน 4 ภูมิภาคของไทย พร้อมต่อยอดสู่ข้อเสนอในการออกแบบเมืองที่เข้าใจทุกจังหวะชีวิต งานนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ณ ทรูดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ โดยมีสื่อมวลชน นักออกแบบเมือง และผู้ขับเคลื่อนเรื่องเมืองเข้าร่วม ภายในงานมีกิจกรรมที่ชวนสำรวจชีวิตและเมือง เริ่มจาก Quiz ในเว็บไซต์ของโปรเจกต์เพื่อสำรวจไลฟ์สไตล์ พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับโลกจริงผ่านนิทรรศการภาพถ่ายใน 4 เมืองใหญ่ ไปจนถึงเวทีเสวนาที่เปิดมุมมองหลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเรื่องดาต้าและเมือง บทความนี้เป็นการบันทึกหัวใจสำคัญของ 6 มุมมองของ 6 ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาที่ร่วมเวทีครั้งนี้ เพื่อส่งต่อแนวคิดสำคัญ ซึ่งผู้อ่านอาจนำไปต่อยอด สร้างแรงบันดาลใจ หรือใช้ประโยชน์ได้จริง “ข้อมูลเคลื่อน เมืองเปลี่ยน” เปิดโลก Mobility Data ว่าจะช่วยขับเคลื่อนสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเมืองได้อย่างไร โดย จักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น […]Read More
บริษัท ซีพีแรม จำกัด (CPRAM) ผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทาน สร้างความภาคภูมิใจแก่อุตสาหกรรมอาหารไทย ได้รับเลือกให้เป็นต้นแบบในการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน และเป็นบริษัทแรกในเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือเครือซีพี ที่ได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงภาคอุตสาหกรรม หรือ มอก.9999 ตามกระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้องค์กรอุตสาหกรรมไทยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างระบบการจัดการขององค์กรให้สมดุลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจในยุคที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ผ่านหลักการสำคัญ 3 ด้าน คือ “ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี” บนพื้นฐานของ “ความรู้และคุณธรรม” โดยได้รับเกียรติจาก นายจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ เป็นผู้มอบประกาศนียบัตร มอก.9999 โดยมี นายชุมพล ลีละศุภพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เป็นผู้รับมอบประกาศนียบัตร มอก.9999 ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 อาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค (TDPK) กรุงเทพฯ […]Read More
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics มองว่าความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินบาทและทองคำที่สูงเป็นปัจจัยหลักในการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา และความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ แม้ว่าทิศทางการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ จะส่งสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น โดยเฉพาะกับจีน แต่ภาพรวมค่าเงินบาทยังคงมีความเสี่ยงแข็งค่าจากความไม่แน่นอนภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จากภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวชัดเจนขึ้น พร้อมกับความเสี่ยงเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจำกัด เข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ซึ่งปกติเป็นฤดูกาลที่ค่าเงินภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวไปในทิศทางอ่อนค่า รวมถึงค่าเงินบาท โดยหากดูผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง เงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ มีการปรับตัวอ่อนค่า 1.49% จากสิ้นไตรมาสก่อนหน้า โดยหนึ่งในเหตุผลที่ใช้อธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าวคือ การส่งกลับเงินปันผลของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนมีการจ่ายปันผล ตลอดจนเป็นช่วงที่รายรับจากนักท่องเที่ยวต่ำกว่าเมื่อเทียบกับช่วงอื่นของปี (Low Season) ซึ่งกระทบต่อความแข็งแกร่งของดุลบัญชีเดินสะพัด นอกจากนี้ หากดูปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ยิ่งหนุนการอ่อนค่าของเงินบาท อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในปัจจุบัน กลับไม่เป็นไปตามปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น โดยภาพรวมค่าเงินบาทยังคงแข็งค่า 2.13% ในไตรมาสที่ 2 (ณ วันที่ […]Read More
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) และประธานกรรมการบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง Global Infrastructure Partners (GIP) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ BlackRock และ True IDC ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์อันดับ 1 ของประเทศไทย ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับและเร่งการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยให้ทัดเทียมระดับโลก รองรับการเติบโตของ AI และระบบคลาวด์ พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งอาเซียน นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เปิดเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคกิกะดาต้าเซ็นเตอร์” (Giga Data Center Age) ซึ่ง “ข้อมูล หรือ Data” คือ “New Oil” จึงทำให้ “ข้อมูล” คือทรัพยากรที่มีมูลค่ามากที่สุด และต้องการ Data Center เพื่อประมวลผล ดังนั้น […]Read More
เพื่อเข้าใจสถานการณ์ความขัดแย้งอินเดีย-ปากีสถาน.ผมตั้ง 3 คำถาม นั่นคือ Why Not? Who Else? What’s Next? และพยายามหาคำตอบเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ความขัดแย้งรอบล่าสุด ณ ปี 2025 (ซึ่งที่ไม่ใช่ครั้งแรก และ จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย) ระหว่างอินเดียและปากีสถาน.โดยในตอนที่ 1 เราตอบคำถามไปแล้วว่า เมื่อพิจารณาปัจจัยการเมืองภายในของแต่ละประเทศ ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างก็พร้อมที่จะเดินหน้าซัดกัน โดยอินเดียมีคะแนนนิยมต่อพรรค BJP เป็นเดิมพัน ในขณะที่ปากีสถานมีพลังอำนาจของรัฐพันลึกเป็นเดิมพัน.ต่อคำถามที่ 2 ซึ่งผมคาดการณ์ผิด นั่นคือ เราพิจารณาถึงประเทศมหาอำนาจที่ใกล้ชิดหรือมีอิทธิพลเหนือ อย่างเช่น สหรัฐฯ ที่ใกล้ชิดอินเดียมากขึ้น และจีนที่มีอิทธิพลเหนือปากีสถาน และเราก็พบว่า ทั้งสองมหาอำนาจอาจจะไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะสามารถเข้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งเพื่อนำไปสู่ความสงบในระยะสั้นได้ หากแต่กลุ่มความร่วมมือทางด้านความมั่นคงอย่างเช่น องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) น่าจะเป็นพื้นที่ที่ทำให้ทั้งปากีสถานและอินเดียซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกของ SCO ได้ร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกับประเทศสมาชิกที่เหลือ ซึ่งประเทศสำคัญๆ ก็คือ จีน รัสเซีย และอิหร่าน ซึ่งถ้าทำได้สำเร็จนี่ก็จะเป็นก้าวย่างสำคัญของความร่วมมือของประเทศกำลังพัฒนาหรือ ประเทศในกลุ่ม Global-South.คำถามที่ 3 ซึ่งบางทีอาจจะเป็นคำถามที่สำคัญที่สุด นั่นคือ แล้วเหตุการณ์ความขัดแย้งในครั้งนี้จะมีพัฒนาการต่อไปอย่างไร ซึ่งผมจะขอวิเคราะห์เป็น […]Read More