เมื่อปี พ.ศ. 2544 สมเถา สุจริตกุล คีตกวีไทย-อเมริกัน ได้รับเชิญให้กลับมาประเทศไทยเพื่อนำเสนอ “Madana” มหาอุปรากรไทยเรื่องแรก ซึ่งเป็นผลงานที่เขารังสรรค์จากพระราชนิพนธ์ “มัทนพาธา” ในพระมหาธีรราชเจ้า (รัชกาลที่ 6) โปรดเกล้าฯ พระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี (สมเด็จอาของผู้ประพันธ์) การนำเสนอรายการดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของ “บางกอกโอเปร่า” (ปัจจุบัน “โอเปร่าสยามอินเตอร์เนชั่นแนล) แม้บางกอกโอเปร่าก่อตั้งเพื่อกิจกรรมเดียวเมื่อแรกเริ่ม ต่อมาได้ขยายกิจการเป็นสถาบันระดับชาติภายนามใหม่ “โอเปร่าสยาม” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชคนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าเสนอแนะ นับแต่นั้นเป็นต้นมา โอเปร่าสยามได้ผลิตผลงานด้านสังคีตศิลป์คลาสสิกมาตรฐานโลกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งก่อตั้งวงดุริยางค์ โครงการศึกษา และคณะนักร้องประสานเสียง 2 คณะ “เราเจอปัญหาหนักหลายช่วง” สมเถากล่าว “ในระยะแรก เราต้องอาศัยชาวต่างชาติซึ่งรู้และเข้าใจว่างานนี้ต้องผ่านอะไรบ้าง” แต่หลังจากนำเสนอการแสดงระดับมาตรฐาน 65 เรื่องกับคอนเสิร์ตนับร้อยทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะบนเวทีระดับโลก อาทิ คาร์เนกีฮอลล์ นครนิวยอร์ก, หอทอง Musikverein กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และมหาอุปรากรที่สหราชอาณาจักร เยอรมนี สาธารณรัฐเชค ฯลฯ โอเปร่าสยามจึงเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นศูนย์รวมสังคิตศิลป์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สมเถา […]Read More
“Ember Cafe & Wine” อีกหนึ่งสถานที่ที่นักชิม นักเที่ยว ต้องปักหมุดไว้ใน Bucket list! เพราะเป็นแหล่งรวมความลงตัวทั้งอาหารและสถาปัตยกรรม พร้อมไวน์ชั้นเลิศจากแหล่งผลิตใกล้ภูเขาไฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาหารเวสเทิร์นฟู้ดที่รังสรรค์ด้วยการเผาไฟ (Flame-cooked) เพื่อเพิ่มรสชาติความเข้มข้นและกลิ่นหอม ผสานงานโครงสร้างสถาปัตยกรรมกับเทคโนโลยีการก่อสร้างจาก SCG 3D Printing ซึ่งเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของการก่อสร้าง เรียกว่าเปิดทุกมิติความแปลกใหม่ระหว่างธรรมชาติและนวัตกรรมได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ “Ember Cafe & Wine” ไม่เพียงแต่เป็นแค่ร้านคาเฟ่และไวน์เท่านั้น แต่ยังเปิดเป็น Class Studio และเป็น Community ของผู้คนที่ชื่นชอบและหลงใหลในเรื่องเดียวกัน ให้มาสัมผัสโลกใหม่ทั้งในด้านรสสัมผัสไวน์ชั้นเลิศและงานดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ราวกับจำลองแกรนด์แคนยอนมาวางไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านพระราม 9 ซอย 43 ก็ว่าได้… เมื่ออาหารและไวน์คือแรงดึงดูดที่ทำให้คนที่มีแพชชั่นในการทำอาหารต้องออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก เพื่อหาแหล่งผลิตไวน์ชั้นเลิศ สู่การเปิดร้านอาหาร Ember Cafe & Wine ในคอนเซปต์ “Volcano” Mr. Calvin Fong ผู้ที่เป็นทั้งหุ้นส่วนร้านและเชฟ เล่าถึงแรงบันดาลใจของการทำร้านนี้ว่า “ด้วยความหลงใหลในไวน์และอาหารจึงเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เราออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อหาประสบการณ์พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรม […]Read More
เดอะ ซิลค์โร้ด ให้บริการอาหารจีนกวางตุ้งสไตล์คลาสสิก แต่แทรกความทันสมัยเข้าไปในขั้นตอนการปรุงอาหาร อาหารแต่ละจานจึงคงความเป็นต้นตำรับ หากแต่ได้รับการปรุงแต่งด้วยเทคนิคสมัยใหม่ อีกทั้งการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม กลิ่นและรสชาติที่คงความเป็นธรรมชาติ และการนำเสนออาหารทุกจานนั้น จะทำให้ผู้ที่มาลิ้มลองได้ดื่มด่ำประสบการณ์การรับประทานอาหารที่พิเศษสุด ห้องอาหารได้รับการตกแต่งในแนวย้อนไปในอดีต โดยใช้ศิลปะแบบอาร์ต เดโค ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในกรุงเซี่ยงไฮ้ ในช่วงปี ค.ศ. 1920 บานประตูและฝาตู้ใช้ไม้สีม่วงเข้ม กรุกระจกใสที่มีลวดลายสีทอง พื้นโมเสคหินอ่อน และการให้แสงสไตล์เรโทร ทำให้ห้องอาหารดูโอ่อ่า แต่คงบรรยากาศที่เป็นกันเอง แนวคิด “ความดั้งเดิมอันทันสมัย” เป็นหัวใจหลักของเมนูอาหารทั้งหมด ซึ่งเชฟยังคงคำนึงถึงสูตรอาหารและวัฒนธรรมของการรับประทานอาหารที่เป็นต้นฉบับ ในการที่จะนำเสนอให้กับผู้ที่มาลิ้มลองอาหารซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ เป็ดปักกิ่งที่เป็นเมนูเด่นของห้องอาหาร คัดเฉพาะเป็ดขนาดมาตราฐาน หมักด้วยเหล้าจีน สมุนไพร ขิง น้ำตาล และใช้สีธรรมชาติจากถั่วแดง ก่อนจะนำไปย่างจนหนังบางกรอบ แต่ไม่แห้ง การใช้วัตถุดิบอื่น ๆ ตามฤดูกาล บวกกับความคิดสร้างสรรค์ของทีมเชฟ รังสรรค์ออกมาเป็นเมนู อา ลา คาร์ต ทั้ง 40 เมนู จะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่ผู้มาเยือน โดยเมนูส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการรับประทานร่วมกัน ในสไตล์การรับประทานอาหารแบบจีน พร้อมเสิร์ฟชาจีนในรูปแบบดั้งเดิม และมีเมนูไวน์จากทั่วโลกไว้ให้บริการ นอกจากนั้น ยังให้บริการอาหารชุด […]Read More
ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ที่สุดของร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง ณ เกษรวิลเลจ ต้อนรับเดือนแห่งความรัก ขอแนะนำชุด Afternoon Tea ติ่มซำสไตล์กวางตุ้งสุดพิถีพิถัน ต้อนรับเดือนแห่งความรัก ขอมอบความพิเศษกับติ่มซำคุณภาพที่มาพร้อมเครื่องดื่มหลากหลายให้คุณเลือก เชิญชวนทุกคู่รัก หรือเพื่อนสนิทที่รู้ใจ แวะมาลิ้มลองความอร่อยจากฝีมือเชฟแจ็คกี้ ชาน เชฟฮ่องกงคุณภาพ มาจับคู่ ชุดติ่มซำ Afternoon Tea กับเครื่องดื่มสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทล, ม็อกเทล หรือชาพรีเมียมจากประเทศจีนมากกว่า 8 ชนิด ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เต็มอิ่มความอร่อย พร้อมชวนคนที่คุณรักมาเปิดประสบการณ์ดีๆ เพื่อให้คุณได้สัมผัสความโรแมนติกในแบบฉบับฮ่องกง ให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 – 18.00 น.ตั้งแต่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน นี้ ต้อนรับเดือนแห่งความรักกับชุด Afternoon Tea ติ่มซำสไตล์กวางตุ้งแสนอร่อย จากร้านเฮยยิน ที่เพิ่มความพิเศษให้คุณจับคู่กับเครื่องดื่มหลากหลาย พร้อมเครื่องดื่มที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษในเดือนแห่งความรัก ขอแนะนำ ชุด Afternoon Tea Set […]Read More
GM Live ขอชวนคุณผู้อ่าน ไปร่วมลิ้มชิมรสร้านเป็นย่างลับๆ ที่เชื่อว่าจะกลายเป็นร้านไม่ลับ จากรสชาติและคุณภาพที่สมควรเอามาบอกต่อเล่าสู่กันฟัง บังเอิญผ่านไปแถวนั้น กำลังจะเดินกลับขึ้นรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 ผ่านหน้าหมู่บ้านราชตฤณมัย สายตาดันเหลือบไปเห็นป้ายเป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบแว๊บๆ ที่หางตา ก็เลยลองเลี้ยวเข้าไปแบบไม่ได้คาดหวังอะไร ร้านเป็ดย่างราชตฤณ เดินจากหน้าหมู่บ้านไม่ถึง 50 เมตรร้านอยู่ขวามือ ดัดแปลงทาวน์เฮาส์ มาเป็นร้านอาหารทั่วไป ไม่ได้เน้นตกแต่งหรูหรา จุดเด่นของร้านนี้คือป้ายอธิบายความเยอะมาก ข้อมูลชัดเจน อ่านเพลินดี และทำให้รู้ว่าเชฟบอย ไม่ธรรมดา ผันตัวจากโรงแรมดัง มาเปิดร้านอยู่ที่นี่ เมนูหลากหลายน่ากินทุกอย่าง เจ้าของร้านคุณเอ๋ อดีตแอร์เก่า เห็นเรางงๆ ก็เลยแนะนำอาหาร ให้สั่งได้ง่ายขึ้น ลองสั่งบะหมี่แห้ง เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ มาลองชิมดู แค่เห็นขั้นตอนการเตรียมการ จัดจาน ความพิถีพิถัน ไม่ต้องชิมก็รู้แล้วว่าร้านนี้ไม่ธรรมดา เส้นบะหมี่บอกเลยว่าเด็ดขาดไม่ธรรมดา ลวกมาได้พอดีมากๆ ตัวเส้นจะเล็กแบบฮ่องกงดูดีมีตระกูล เคี้ยวเพลินเด้งสู้ลิ้นสู้ฟัน เป็ดย่าง หนังบางไร้มัน เนื้อนุ่มและยังเก็บความฉ่ำของเนื้อไว้ได้ดี ไม่แห้ง ไม่ด้าน ตัวหมูแดงเชฟทำพิเศษให้กว่าหมูแดงปกติ ทาน้ำเชื่อมเล็กน้อย […]Read More
Blue Café by Alain Ducasse (บลู คาเฟ่ บาย อลัง ดูคาส) เปิดประสบการณ์ครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอศิลปะขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสและเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ อีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นโดยร้าน Blue by Alain Ducasse (บลู บาย อลัง ดูคาส) ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย ที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน โดยเชฟ Alain Ducasse เชฟชาวฝรั่งเศสชื่อดังระดับโลก หนึ่งในเชฟผู้ครอบครองดาวมิชลินมากที่สุดในโลกถึง 24 ดวง โดย Blue Café by Alain Ducasse เปิดให้บริการแล้ววันนี้ ที่ชั้น Gสยามพารากอน Blue Café by Alain Ducasse ถ่ายทอดสุนทรียศาสตร์แห่งการรังสรรค์ขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ อันเลื่องชื่อไปทั่วโลก ในแบบฉบับของเชฟ Christophe Grilo (คริสตอฟ กรีโล) Executive Pastry Chef […]Read More
มูลนิธิอินสาท-สอาง ชวนคุณมาสัมผัสกับรสชาติอาหารไทยโบราณที่เรียบง่ายแต่รสชาตกลมกล่อม สูตรที่ได้รับการถ่ายทอดจากคุณยายสอาง สุรวดี เจ้าของเรือนวราพรและคุณแม่ของ รศ.วราพร สุรวดี ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก พร้อมเสิร์ฟ 3 เมนูอร่อยตำรับคุณยายสอาง ที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการทำและคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ได้แก่ ย้อนเวลาไปสัมผัสเสน่ห์แห่งรสชาติอาหารไทยแท้สูตรคุณยายสอาง สุรวดี ได้ที่เรือนวราพร เจริญกรุง 43 เฉพาะช่วงเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 (Bangkok Design Weeks 2025) เปิดทุกวันระหว่างวันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.00-17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์) ติดตามได้ที่ FB: https://www.facebook.com/BkkMuseum?locale=th_TH พิกัด: https://maps.app.goo.gl/i7HxUkZQDLu3rjJD8 สอบถามเพิ่มเติม: โทร. 0964499516Read More
หลังจากงานเปิดตัววูฟแกงส์ สเต็คเฮ้าส์ แบรนด์สเต็คเฮ้าส์ระดับไฮเอนด์ชื่อดังของโลก ณ โครงการ วัน แบงค็อก เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทุกกลุ่ม ทางร้านพร้อมยกระดับการให้บริการในรูปแบบ All Day Dining เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการลิ้มลองเมนูสุดพิเศษได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน โดยจะเปิดบริการทุกวันเวลา 11:30 น. ถึง 23:30 น. ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับการลิ้มรสอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เนื้อดรายเอจ ( Dry-Aged) อาหารทะเลพรีเมียม และ ของหวานชั้นเลิศอย่างเต็มอิ่ม ในโอกาสนี้ทางร้านขอแนะนำเมนูใหม่ อย่าง แฮมเบอร์เกอร์ในรูปแบบดั้งเดิม (Classic Burger) แฮมเบอร์เกอร์เนื้อชิ้นหนานุ่มจากเนื้อ USDA Prime Beef เกรดพรีเมียมจากสหรัฐอเมริกา เนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำและสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนในทุกคำที่รับประทาน วูฟแกงส์ สเต็คแซนวิช (Wolfgang’s Steak Sandwich) ขนมปังบาแก็ตร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อ USDA Dry-Aged Prime […]Read More
คาเฟ่ พิทโทเร่ คาเฟ่สไตล์อิตาเลียนที่ผสานกลิ่นอายความเป็นเอเชียอย่างลงตัว ขอเชิญคู่รักมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในเดือนแห่งความรักนี้ ด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีสันสดใส พร้อมสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้หัวใจสองดวงใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เมนูพิเศษนี้พร้อมให้บริการทุกวันตลอดเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงวันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 โดยอาหารทุกจานและเครื่องดื่มทุกแก้ว ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน พร้อมเติมสีชมพูและแดงเพื่อเพิ่มความสดใสในทุกช่วงเวลา โดยเมนูอาหารโรแมนติกแสนพิเศษ ได้แก่ สลัดอโวคาโดเนื้อปู เพิ่มความสดชื่นด้วยซัลซ่ามะเขือเทศและแอปเปิ้ลเขียว เหมาะสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นเบา ๆ กัมบาส อัล อาฆีโย อาหารสเปนสุดคลาสสิกที่ผสานรสชาติกุ้งกระเทียมกับขนมปังกระเทียมกรอบได้อย่างลงตัว และ แซลมอนนอร์เวย์กับซอสสีชมพู เนื้อแซลมอนย่างจนสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมผักออร์แกนิก มันบด และซอสครีมบีทรูทสีชมพู เพิ่มความหวานให้กับเทศกาลแห่งความรัก ด้วยเครื่องดื่มสีละมุนที่ไม่ควรพลาด อย่าง พิงก์ลาเต้ สำหรับคนรักกาแฟ ผสมผสานกาแฟสดกับนมสตรอว์เบอร์รี ครีมมาสคาร์โปเน และผงโกโก้ ลิ้นจี่โรส ชาดำหอมกลิ่นกุหลาบผสมลิ้นจี่และน้ำมะนาวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดื่มชา และ เวอร์จินเบอร์รีมาการิต้า เครื่องดื่มเปรี้ยวหวานลงตัวจากแครนเบอร์รีและสตรอว์เบอร์รี ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหามื้ออาหารสุดพิเศษกับคนรู้ใจ หรือช่วงบ่ายสบาย ๆ ที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก คาเฟ่ พิทโทเร่ พร้อมมอบความประทับใจให้คุณตลอดเดือนกุมภาพันธ์ เมนูพิเศษนี้พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 1 – 28 […]Read More
ห้องอาหารอาคีรา แบค เรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์ ห้องอาหารเอเชียนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์บนชั้น 37 โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ขอเชิญแขกทุกท่านมาลิ้มลองเมนูพิซซ่าซิกเนเจอร์สุดพิเศษ 3 เมนู ที่รังสรรค์จากเห็ด ทรัฟเฟิลสดสุดหรู ตลอดเดือนมกราคมนี้ พิซซ่า หนึ่งในเมนูโปรดของคุณแม่เชฟอาคีรา แบค ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่นำมาสู่การสร้างสรรค์เมนูฟิวชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของห้องอาหารแห่งนี้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากทุกสาขาทั่วโลก ความกรอบของแป้งผสานกับซอสอูมามิสูตรเฉพาะที่ปรุงจากซอสพอนซึ ไมโครชิโสะ และน้ำมันทรัฟเฟิลขาวอันหอมกรุ่น ชวนให้แขกได้สัมผัสประสบ การณ์ความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร เพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นปี 2568 เชฟมากความสามารถประจำห้องอาหารได้นำเสนอเมนูพิซซ่าสุดพิเศษ 3 เมนู ที่โรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสดอันหอมกรุ่น หนึ่งในวัตถุดิบชั้นเลิศของฤดูกาล ทุกท่านสามารถเลือก: เมนูพิซซ่าซิกเนเจอร์ทั้ง 3 เมนูนี้มีให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 31 มกราคม 2568 วันอาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 17.30 – 23.00 น. และวันศุกร์ – เสาร์ […]Read More