เมื่อถึงคราว YouTuber สติแตก นี่คืออาชีพในฝันหรือดับฝันของคนหนุ่มสาว
เอลล์ มิลส์ โพสต์วิดีโอชื่อตอน ‘Burn Out At 19’ บอกเล่าถึงความผิดหวังของตนเอง การเป็นยูทูเบอร์ไม่ใช่อาชีพในฝันของเธอ เพราะมันทำให้เธอเครียดและโดดเดี่ยว จนเกิดอาการหลอน และสติแตก “ฉันมีทุกอย่างที่ฉันเคยอยากได้อยากมี แต่ทำไมฉันกลับไม่มีความสุข?”
Reasons to Read
- การอยู่หน้ากล้องให้ใครคอยเฝ้าดู ติดตาม สร้างผลกระทบทางจิตใจ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้แต่ดาราฮอลลีวูดเองก็มีปัญหา และต้องพึ่งพาจิตแพทย์ แต่เหล่า Influencer นับเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากว่าพวกเขาส่วนใหญ่ยังเป็นคนรุ่นหนุ่มสาว หลายคนอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องเผชิญกับการแข่งขัน ต้องกระชับความสัมพันธ์กับแฟนๆ ที่คอยตามติดแจ จนแทบไม่เหลือช่องว่างสำหรับความเป็นส่วนตัว
จิตแพทย์ ครู นางแบบ… ล้วนเป็นอาชีพที่บรรดาเพื่อนๆ ของเธอใฝ่ฝันอยากเป็น ตรงข้ามกับ เอลล์ มิลส์ (Elle Mills) ที่รู้มาตั้งแต่เด็กแล้วว่า เธอใฝ่ฝันอยากเป็นยูทูเบอร์ ตอนอายุ 15 ปี หลังจากเรียนจบไฮสกูล สาวลูกครึ่งฟิลิปปินส์-แคนาเดียนก็เลือกการถ่ายวิดีโอเป็นงานจ๊อบ เธอถ่ายตัวเองเมื่อครั้งแรกที่เธอไปเที่ยวคลับ พยายามอัดลูกโป่งจำนวน 4,000 ลูกเข้าไปในบ้าน และได้รับรางวัลโซเซียลมีเดียสำหรับการเปิดตัวเป็น ‘ไบเซ็กชวล’ ของตนเอง ไม่ช้าไม่นานเธอก็มีคนติดตามจำนวนนับล้าน และมีรายได้เลี้ยงชีพจากโฆษณา เธอกลายเป็นยูทูเบอร์ชื่อดังสมใจหวัง
เดือนพฤษภาคม 2018 เอลล์ มิลส์ โพสต์วิดีโอชื่อตอน ‘Burn Out At 19’ บอกเล่าถึงความผิดหวังของตนเอง การเป็นยูทูเบอร์ไม่ใช่อาชีพในฝันของเธอ เพราะมันทำให้เธอเครียดและโดดเดี่ยว จนเกิดอาการหลอน และสติแตก “ฉันมีทุกอย่างที่ฉันเคยอยากได้อยากมี แต่ทำไมฉันกลับไม่มีความสุข?”
คำถามเดียวกันหรือคล้ายๆ กันนั้น บรรดายูทูเบอร์ หรือ Influencer ที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ ก็เริ่มมีกับตัวเองเหมือนกัน อย่าง รูเบน กุนเดอร์เสน (Rubén Gundersen) เกมมิงสตรีมเมอร์ชาวสแปนิช ซึ่งมีผู้ติดตามทางยูทูบมากเป็นอันดับสามด้วยยอด 30 ล้าน ก็เผยออกมาว่า เขาอาจจะถอยห่างจากสื่อโซเซียลไปสักพัก เพราะเริ่มรู้สึกสุดกลั้นกับความกดดัน
อลิชา มารี แม็คโดนาล (Alisha Marie McDonal) บล็อกเกอร์สายไลฟ์สไตล์ที่มีแฟนยูทูบราว 8 ล้านคน ก็เช่นกัน ต้องลาพักจากโลกโซเซียลนานถึงสองเดือน หลังจากนั้นเธอก็โพสต์วิดีโอเป็นระยะๆ ไม่บ่อยครั้งเหมือนปกติ
ริชาร์ด ไทเลอร์ เบลวินส์ (Richard Tyler Blevins) ซึ่งถ่ายตัวเองระหว่างเล่นเกมฮิต ‘Fortnite’ และมีรายได้ต่อเดือนถึงครึ่งล้านดอลลาร์ฯ เพิ่งออกมาบ่นเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เพียงเขาหายหน้าไป ไม่ได้โพสต์วิดีโอแค่สุดสัปดาห์เดียว จำนวนผู้ติดตามเขาหายไปถึง 40,000 คน
การอยู่หน้ากล้องให้ใครคอยเฝ้าดู ติดตาม สร้างผลกระทบทางจิตใจ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้แต่ดาราฮอลลีวูดเองก็มีปัญหา และต้องพึ่งพาจิตแพทย์ แต่เหล่า Influencer นับเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากว่า พวกเขาส่วนใหญ่ยังเป็นคนรุ่นหนุ่มสาว หลายคนอายุต่ำกว่า 20 ปีด้วยซ้ำ แต่ต้องเผชิญกับการแข่งขัน ต้องกระชับความสัมพันธ์กับแฟนๆ ที่คอยตามติดแจ จนแทบไม่เหลือช่องว่างสำหรับความเป็นส่วนตัว ยูทูบเรียกเจ้าของผลงานเหล่านี้ว่า ‘Creators’ ได้รับส่วนแบ่งรายได้ราว 80-160 บาทต่อ 1,000 สตรีม รายได้ของพวกเขาขึ้นอยู่กับผู้ชมเพียงอย่างเดียว และไหนยังจะมีตัวแปรเพิ่มเข้ามาในวงโคจรอีก นั่นคือ ‘อัลกอริธึม’เป็นเหตุให้รายได้ของ Influencer ลดน้อยลงในช่วงปีที่ผ่านมา ความกดดันเพิ่มขึ้นมหาศาล
ยูทูเบอร์ที่ยังคงประสบความสำเร็จอยู่ในเวลานี้ คือ เฟลิกซ์ ‘PewDiePie’ เคลล์แบร์ก (Felix Kjellberg) หนุ่มชาวสวีดิชซึ่งมีผู้ติดตามอยู่ถึง 67 ล้านคน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้รับผลกระทบจาก ‘อัลกอริธึม’ ไม่น้อยไปกว่ากัน เขาต้องทำงานหนักขึ้น และใช้เวลาอยู่ที่หน้ากล้องนานขึ้น เพื่อให้ผู้คนติดตาม และมีสปอนเซอร์คอยสนับสนุนต่อไป
จากคำบอกเล่าของยูทูเบอร์บางราย ระบุว่าเขาต้องใช้เวลากับการเป็น Creator นาน 80-100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คล้ายๆ กับสิ่งที่ริชาร์ด ไทเลอร์ เบลวินส์-เจ้าของชื่อ ‘Ninja’ ในเกมสตรีม ‘Fortnite’ บรรยายถึงภาพชีวิตประจำวันของตน “ผมเริ่มเล่นเกมตั้งแต่เก้าโมงครึ่งไปจนถึงสี่โมงเย็น ซึ่งก็หกชั่วโมงครึ่งแล้ว จากนั้นผมจะหยุดพัก ใช้เวลาสาม-สี่ชั่วโมงอยู่กับภรรยา ครอบครัว และสุนัข ประมาณหนึ่งทุ่มผมเริ่มออนไลน์อีกครั้ง และเล่นไปจนถึงตีสองหรือตีสาม รวมแล้วผมใช้เวลาอยู่หน้าจอประมาณสิบสองชั่วโมงต่อวัน มีเวลานอนอย่างมากหกถึงเจ็ดชั่วโมง” นั่นสะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ของ Influencer ที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
เอลล์ มิลส์ ยูทูเบอร์เจ้าของคลิปลูกโป่ง 4,000 ลูกผู้เคยอารมณ์ดี หวนกลับมาถ่ายคลิปวิดีโออีกครั้งหลังจากห่างหายไป แต่คราวนี้เธอไม่ได้คร่ำเคร่งทำมันทุกวันเหมือนแต่ก่อน บางครั้งเธอก็พูดถึงอาการ ‘หลอนและสติแตก’ ของเธอ พร้อมทั้งวิงวอนขอความเห็นใจจากบรรดาแฟนๆ
ล่าสุดเธอเพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลสาขา ‘Breakout’ ซึ่งทำให้โลกภายนอกเข้าใจมากขึ้นว่า การแจ้งเกิดกับสติแตกของเหล่า Influencer บางทีก็เป็นของคู่กัน