หรือจะถึงคราวนิวซีแลนด์ปฏิรูปกฎหมายอาวุธปืน?
แม้จะเป็นประเทศที่ (เคย) สงบสุขที่สุดในโลก แต่การครอบครองปืนในนิวซีแลนด์กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจำนวนอาวุธปืนของเอกชนเพิ่มขึ้นจากราว 900,000 กระบอก ในปี 2548 เป็นประมาณ 1.5 ล้านกระบอก ในปี 2560
Reasons to Read
- แม้จะเป็นประเทศที่ (เคย) สงบสุขที่สุดในโลก แต่การครอบครองปืนในนิวซีแลนด์กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจำนวนอาวุธปืนของเอกชนเพิ่มขึ้นจากราว 900,000 กระบอก ในปี 2548 เป็นประมาณ 1.5 ล้านกระบอก ในปี 2560
- ที่น่าแปลกใจก็คือไม่มีข้อกำหนดในการลงทะเบียนอาวุธปืน ดังนั้น หลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว เจ้าของสามารถสั่งซื้อปืนออนไลน์ได้ ซึ่งข้อนี้ดูเหมือนจะเป็นที่มาของปืนที่ใช้ก่อเหตุในไครสต์เชิร์ช
Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศเปลี่ยนแปลงกฎหมายอาวุธปืนของประเทศ หลังเกิดเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไคร์สเชิร์ช ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 รายและบาดเจ็บอีก 50 ราย และจะประกาศให้ทราบภายใน 10 วัน นับจากนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศปลอดภัยยิ่งขึ้น
ปัญหาอาวุธปืนในนิวซีแลนด์น่าเป็นห่วงแค่ไหน?
ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ก่อนการโจมตีที่เมืองไคร์สเชิร์ช ปัญหาอาวุธปืนไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ นั่นเพราะนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดยในปี 2560 อัตราการฆาตกรรมของประเทศมีเพียง 35 รายเท่านั้น ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี
ในทางกลับกันแม้จะเป็นสังคมที่ค่อนข้างสงบ แต่การครอบครองปืนกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจำนวนอาวุธปืนของเอกชนเพิ่มขึ้นจากราว 900,000 กระบอก ในปี 2548 เป็นประมาณ 1.5 ล้านกระบอก ในปี 2560 สำหรับประเทศที่มีประชากรประมาณ 4.6 ล้านคน ตัวเลขนี้จึงเท่ากับ 1 ใน 3 คนมีอาวุธปืนในครอบครอง
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถครอบครองปืนได้ในนิวซีแลนด์ คือ ต้องมีอายุมากกว่า 16 ปี ต้องผ่านการตรวจสอบประวัติจากตำรวจ และผู้ขอใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนทุกคนต้องมีบุคคลที่สามอ้างอิง
ที่น่าแปลกใจก็คือไม่มีข้อกำหนดในการลงทะเบียนอาวุธปืน ดังนั้น หลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว เจ้าของสามารถสั่งซื้อปืนออนไลน์ได้ ซึ่งข้อนี้ดูเหมือนจะเป็นที่มาของปืนที่ใช้ก่อเหตุในไครสต์เชิร์ช
นอกจากนี้ ยังมีช่องโหว่ขนาดใหญ่อีกช่องหนึ่ง คือ ไม่มีการจำกัดจำนวนของอาวุธปืน นั่นหมายถึง ผู้ที่มีใบอนุญาตครอบครองปืนสามารถมีปืนลูกซองหรือปืนไรเฟิลจำนวนเท่าใดก็ได้ และแน่นอนพวกเขามีอิสระในการครอบครองกระสุนได้มากเท่าใดก็ได้เช่นกัน
แล้วประเทศอื่นล่ะ?
ในประเทศเพื่อนบ้านของนิวซีแลนด์ อย่างออสเตรเลีย มีกฎหมายควบคุมอาวุธที่เข้มงวดมากกว่า โดยผู้ที่ขอใบอนุญาตครอบครองปืนจะต้องถูกตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดพร้อมเสนอ ‘เหตุผลที่ฟังขึ้น’ ในการเป็นเจ้าของปืน ซึ่งต้องไม่ใช่การอ้างว่ามีไว้เพื่อป้องกันตัว
ที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้ซื้อปืนจำเป็นต้องระบุจุดประสงค์โดยละเอียดและถูกต้อง รวมถึงต้องแสดงขั้นตอนการใช้ปืนที่ปลอดภัย ส่วนออสเตรียได้กำหนดให้มีการสอบข้อเขียนและการยิงทดสอบ ในการขออนุญาตครอบครองปืนไรเฟิลล่าสัตว์
แต่ก็ยังมีประเทศที่อนุญาตให้ครอบครองปืนได้อย่างง่ายดายอยู่เหมือนกัน เช่น อเมริกา ที่ผู้ขออนุญาตครอบครองปืนสามารถผ่านการตรวจสอบประวัติได้ในทันทีและมีสิทธิซื้อปืนได้ เป็นที่น่าจับตาดูว่าเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับประเทศที่เคยสงบสุขที่สุดในซีกโลกใต้แห่งนี้บ้าง