‘บริษัทญี่ปุ่นยื่นล้มละลายเป็นประวัติการณ์ สาเหตุเกิดจากอะไร?’
สถานการณ์เศรษฐกิจโลก เป็นที่รับรู้กันว่า อยู่ในช่วงที่ซบเซาและมีการฟื้นตัวในระดับที่ต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ประเทศญี่ปุ่น’ ที่แม้จะมีรายได้จากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่สูงขึ้น แต่สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลับประสบปัญหาและต้องยื่นล้มละลายปิดตัวลง มากที่สุดในรอบ 10 ปี อันเป็นผลพวงต่อเนื่องจากการขาดแคลนแรงงานและการแพร่ระบาด COVID-19 ที่กระทบมาจนถึงปัจจุบัน
ผลสำรวจจาก โชโก รีเสิร์ช ผู้ให้บริการด้านการจัดทำความน่าเชื่อถือด้านการเงินของญี่ปุ่น พบว่า มีบริษัทที่ยื่นล้มละลายตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นไตรมาสที่สามที่ 4931 ราย สูงขึ้นกว่า 22% จากปีที่แล้ว และยังไม่มีวี่แววหรือทีท่าว่าจะดีขึ้น
ในจำนวนของการสำรวจนั้น มี 374 บริษัทที่ประสบปัญหาราคาต้นทุนพุ่งสูงขึ้น รวมถึงไม่สามารถชำระหนี้สินจากเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยภายใต้โครงการช่วยเหลือของรัฐบาลจากภาวการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 คิดเป็น 23.4% จากปี 2023
และมีอยู่ 145 บริษัท ที่ยกเหตุผลเรื่องการขาดแคลนแรงงาน แม้จะเป็นจำนวนที่ไม่มาก แต่ก็เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปี 2023 และสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการสำรวจจำนวนบริษัทยื่นล้มละลายในปี 2013
ทั้งนี้ โชโก รีเสิร์ช ได้พบว่า มีจำนวนบริษัทถึง 88.4% ที่ยื่นล้มละลาย เป็นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง และถ้าหากค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จำนวนบริษัทที่ยื่นล้มละลายจะยิ่งสูงขึ้น
สถานการณ์เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะกระเตื้องขึ้นแต่อย่างใด ทั้งจากปัญหาค่าเงินอ่อนตัว ปัญหาต้นทุนสูงขึ้น ปัญหาผิดนัดชำระหนี้จากการขาดทุนต่อเนื่อง ไปจนถึงปัญหาสังคมสูงอายุ ที่ทำให้แรงงานวัยทำงานขาดแคลน จึงนับว่าเป็นโจทย์ที่น่าท้าทายอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาลญี่ปุ่น ว่าจะดำเนินนโยบายไปในทิศทางใด แม้ว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ยั่งยืนเมื่อเทียบกับภาคเศรษฐกิจหรือภาคอุตสาหกรรม