Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 18 มีนาคม 2024
คาสตรอล ฉลองครบรอบ 125 ปี มุ่งสู่อนาคตด้วยกลยุทธ์ใหม่ “Onward, Upward, Forward”
คาสตรอล ผู้นำระดับโลกด้านน้ำมันหล่อลื่น และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบีพี ฉลองครบรอบ 125 ปี พร้อมแถลงกลยุทธ์ใหม่ “Onward, Upward, Forward” เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมเผยโฉมโลโก้ที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 125 ปี เพื่อใช้ในกิจกรรมของทางคาสตรอลและสปอนเซอร์ชิปที่บริษัทร่วมสนับสนุนทั่วโลกตลอดทั้งปี 2567
สำหรับกลยุทธ์ใหม่ “Onward, Upward, Forward”
- Onward โซลูชั่นล้ำหน้าสำหรับการขับเคลื่อน ช่วยให้การสัญจรของผู้คนและการขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมและความมุ่งมั่นในหลักการของระบบหมุนเวียน (Principles of Circularity)
- Upward มุ่งเน้นการสนับสนุนลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ทำให้เครื่องจักรที่ลูกค้าต้องพึ่งพาทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- Forward แสวงหาโอกาสใหม่และการกระจายประเภทธุรกิจอย่างก้าวหน้า คาสตรอลมีความคิดริเริ่มเกี่ยวกับโซลูชั่นทางดิจิตอลและการบริการที่ครบวงจรและครอบคลุมแบบ end-to-end ระบบระบายความร้อนสำหรับศูนย์ข้อมูล และระบบควบคุมอุณหภูมิของแบตเตอรี่ แนวคิดเชิงรุกเหล่านี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของคาสตรอลในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
“ในขณะที่เราเฉลิมฉลองการครบรอบ 125 ปี คาสตรอลไม่เพียงคำนึงถึงอดีตที่ผ่านมา แต่เรากำลังวางรากฐานเพื่ออนาคต กลยุทธ์ ‘Onward, Upward, Forward’ สะท้อนความมุ่งมั่นของคาสตรอลที่ต้องการสนับสนุนลูกค้าของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เอาชนะความท้าทายต่างๆของวันพรุ่งนี้ เรามุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนธุรกิจหลักของบริษัท ให้เติบโตด้วยกลยุทธ์ใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีอันล้ำหน้าและแบรนด์ของเราที่ได้รับความไว้วางใจในระดับโลก เพื่อยืนหยัดในแถวหน้าของอุตสาหกรรม เรากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หมุนเวียนสมบูรณ์มากขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และแสวงหาโอกาสใหม่ ๆในการเติบโตนอกเหนือไปจากธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น เรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะนำแบรนด์ระดับไอคอนิคที่มีอายุกว่า 125 ปี มุ่งสู่อนาคตเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และนำพาธุรกิจของเราไปสู่ความสำเร็จในอนาคต” นายศรีกานต์ วิศวนาธัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กล่าว
บีพี-คาสตรอล ประเทศไทยได้จัดกิจกรรมมากมาย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 125 ปี ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นตลาดหลักในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกโดยมีอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นรากฐานในการพัฒนานวัตกรรมและมีบทบาทสำคัญสำหรับคาสตรอลในเชิงกลยุทธ์เพื่อการเติบโต
กลยุทธ์การเติบโตของคาสตรอล ประเทศไทย ในปี 2567 มุ่งเน้น 3 ด้านสำคัญ ดังนี้
- การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ คาสตรอลเตรียมเปิดตัวแคมเปญปรับโฉมใหม่ของแบรนด์ โดยสอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า และทิศทางธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นที่พัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง ขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่และกลุ่มผู้หญิง ครอบคลุมกลุ่มคนรักรถและรถจักรยานยนต์ โดยสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ผ่านการตลาดดิจิทัล โซเชียลมีเดีย และ Brand Ambassador
- การบุกเบิกนวัตกรรมใหม่ คาสตรอลคงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดสิ่งใหม่ๆและยกระดับประสบการณ์การขับขี่ จึงตั้งใจพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับสมรรถนะที่เหนือชั้น และคุณภาพที่ผู้บริโภคมั่นใจ พอร์ตผลิตภัณฑ์มีความกว้างขวางตอบสนองความต้องการของยานยนต์ในทุกระบบพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นรถสันดาป รถไฮบริด และรถไฟฟ้า สำหรับคาสตรอลประเทศไทย ผลิตภัณฑ์กลุ่มกลยุทธ์ของคือน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสมรรถนะเป็นพิเศษ
- การขยายเครือข่ายศูนย์บริการคาสตรอล ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการบริการที่วางใจได้ คาสตรอลมุ่งขยายเครือข่ายศูนย์บริการ คาสตรอล ออโต้ เซอร์วิส และ คาสตรอล ไบท์พอยท์ กว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศไทย โดยศูนย์บริการคาสตรอลจะปรับเป็นภาพลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อมเจ้าของศูนย์และช่างที่มีความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบำรุงรักษาและการบริการที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานของคาสตรอลอย่างไว้วางใจและสะดวกมากขึ้น
และในโอกาสฉลองครบรอบ 125 ปี คาสตรอล ประเทศไทย ได้เปิดตัวแคมเปญฉลองพิเศษเพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริโภคคนไทยที่ให้การสนับสนุนมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ “ฉลอง 125 ปี คาสตรอลแจกโชค” เพื่อมอบรางวัลสุดล้ำค่าแก่ผู้โชคดี ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมและรางวัลสุดพิเศษอีกมากมาย มูลค่ารวม 4 ล้านบาท แคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 31 กรกฎาคม 2567 โดยมีกำหนดจับรางวัลลุ้นรับโชคเป็นประจำทุกเดือน
“ในการเฉลิมฉลอง 125 ปีแห่งความสำเร็จ คาสตรอล ประเทศไทยขอขอบคุณผู้บริโภคคนไทยอย่างที่สุดที่ให้การสนับสนุนและเดินเคียงข้างเราตลอดมา เราจะยังคงมุ่งมั่นบุกเบิกการพัฒนานวัตกรรม เสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์ และขยายเครือข่ายศูนย์บริการคาสตรอล เพื่อแสดงถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของคาสตรอลในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เราตื่นเต้นอย่างยิ่งกับการเปิดตัวแคมเปญปรับโฉมแบรนด์ โดยมีคุณหมาก ปริญ เป็น Brand Ambassador คนใหม่ และสอดคล้องกับความตั้งใจที่จะปรับแบรนด์ให้ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” นายสาธิต เลิศสุขวิบูลย์ Country Director บริษัท บีพี-คาสตรอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ผู้ที่สนใจร่วมแคมเปญ “ฉลอง 125 ปี คาสตรอลแจกโชค” สามารถลงทะเบียนได้ทาง Official Line account @CastrolActivityThailand หรือติดตามรายละเอียดข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook “Castrol Thailand”
คาสตรอล ประเทศไทย มุ่งมั่นเดินทางต่อไปข้างหน้าบนเส้นทางแห่งนวัตกรรม การเติบโต และการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้บริโภคคนไทย เพื่อร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไปด้วยกัน เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ www.castrol.com
‘InnoSpace’ แถลงผลการดำเนินงานปี 2566 เดินหน้าหนุน Deep Tech Startup เชื่อมโยงแหล่งเงินทุนภาครัฐ โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพและนักลงทุนจากต่างประเทศ
บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด (InnoSpace) จัดงาน InnoSpace summit 2024 เพื่อแถลงผลการดำเนินงานปี 2566 และแผนการในปี 2567 โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีการลงทุนในสตาร์ทอัพเพิ่มอีก 2 ราย และสร้าง Synergy กับ Limited partners ของ InnoSpace (LP) ไป 2 โครงการ รวมถึงได้มีการขยายความร่วมมือกับ Accelerator ในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับสตาร์ทอัพไทยได้ไปศึกษาด้านตลาดและทำงานในต่างประเทศ พร้อมวางเป้าหมายการลงทุนเพิ่มอีก 105 ล้านบาทในปี 2567 โดยในงานวันนี้ได้มีการจัดการเสวนาในเรื่องของการสนับสนุนงานวิจัยสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์เพื่อสนับสนุน Deep tech startup ตลอดจนเชิญหน่วยงานรัฐบาลที่มีกลไกด้านเงินทุนมาพบปะกับสตาร์ทอัพเพื่อหารือเรื่องการให้ทุนต่างๆ
ความสำเร็จใน Matching fund ที่ได้ร่วมมือกับ สภาอุตสาหกรรม
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานคณะกรรมการ บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2566 ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ มีการลงทุนร่วมกับกองทุนอินโนเวชั่น วัน (Innovation One) ที่บริหารโดยสภาอุตสาหกรรม ในบริษัท UniFAHS สตาร์ทอัพของคนไทยที่มีเทคโนโลยีเชิงลึกด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เพื่อการผลิตอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืนตั้งแต่ฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภคโดยคนไทย เพื่อขยายโอกาสด้านธุรกิจไปกับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมด้านการเกษตรในอนาคต”
สร้าง Synergy ให้กับ LP ของบริษัทและส่งเสริมให้ Portfolio ไปเปิดตลาดที่ต่างประเทศด้วยความร่วมมือจาก International partner
ในปี 2566 บริษัทฯ ยังสร้างความร่วมมือ (Synergy) กับทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการสร้างโอกาสให้กับสตาร์ทอัพที่ลงทุนไปแล้วร่วมกับ LP เพื่อนำโซลูชั่นของสตาร์ทอัพไปใช้งานในส่วนงานต่าง ๆ ภายในบริษัท 2 โครงการ ส่วนในต่างประเทศนั้นบริษัทได้มีการส่งเสริมสตาร์ทอัพในประเทศไทยให้มีโอกาสไปเวทีต่าง ๆ ในต่างประเทศรรวมถึงการไปร่วมโครงการในการเปิดตลาดที่ต่างประเทศร่วมกับพันธมิตรของ อินโนสเปซ เพื่อขยายธุรกิจและเปิดโอกาสที่จะได้รับเงินลงทุนเพิ่มเติมจากต่างประเทศ โดยในต้นปี 2567 นี้ มี Startup ใน Portfolio ที่ได้ไปเข้าร่วมโปรแกรมที่ประเทศฮ่องกง 2 ราย
สร้างพันธมิตรกับหน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานภาคการศึกษาเพื่อเฟ้นหาเทคโนโลยีของคนไทยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้
นอกจากนี้ปี 2566 ทางบริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งมหาวิทยาลัยและหน่วยงานทางด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์ในแต่ละภูมิภาค หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (PMU-C), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA), สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เป็นต้น เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนา Innovation และสนับสนุน Startup Ecosystem
เป้าหมายปี 2567 เพื่อสนับสนุน Early stage startup โดยเฉพาะด้าน Deep tech เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาค
ในปี 2567 นี้ทางบริษัทฯ วางเป้าหมายที่จะส่งเสริมการลงทุนอีก 105 ล้านบาท ในสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep-tech startup) และ สตาร์ทอัพใน Portfolio ของบริษัทที่มีโอกาสเติบโต อย่างต่อเนื่องโดยจะให้ความสำคัญไปที่กลุ่มเทคโนโลยี 4.0 และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน กลุ่มเทคโนโลยีด้านอาหารและเกษตร กลุ่มเทคโนโลยีด้านการแพทย์ โดยคาดหวังว่าการสนับสนุนสตาร์ทอัพใน 3 กลุ่มนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของบริษัทด้านเทคโนโลยีเพื่อให้เป็น New S-Curve ของประเทศ เพื่อพัฒนาและผลักดัน Startup ในประเทศให้สามารถสร้างตลาดในภูมิภาคได้ นายเทวินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) กับเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการสนับสนุน Deep tech startup ecosystem ของประเทศไทย
บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ได้ก่อตั้งและร่วมลงทุนโดยบริษัท ชั้นนำในประเทศไทย 16 บริษัทที่มีเป้าหมายร่วมกันในการสนับสนุนด้านการลงทุน ส่งเสริมนวัตกรรมและ Ecosystem ของสตาร์ทอัพในประเทศไทย เพื่อสร้างอุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรม โดยได้ดำเนินงานมาแล้วเป็นปีที่ 5 และลงทุนในสตาร์ทอัพไปแล้ว 18 บริษัทด้วยเงินทุน 92 ล้านบาท (และมี Exit การลงทุน 1 บริษัท) โดยบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในสตาร์ทอัพในระดับ Early stage ของคนไทย ซึ่งในอนาคตทางบริษัท ยังเปิดรับพันธมิตรที่มีเป้าหมายในการสนับสนุนนวัตกรรมของคนไทยเพื่อขยายขอบเขตในการลงทุนในรูปแบบ Matching fund หรือ Fund of fund ในอนาคตและช่วยสนับสนุน Deep tech ของประเทศไทยร่วมกัน ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.innospacethailand.com หรือผ่านช่องออนไลน์ที่
เพจเฟซบุ๊ก Innospacethailand : https://www.facebook.com/innospacethailand/