Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023
‘อิเกีย สุขุมวิท’ ซิตี้ สโตร์ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ สร้างจุดเปลี่ยนตลาดค้าปลีกไทย
อิเกีย ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว ‘อิเกีย สุขุมวิท’ สโตร์ อิเกียแห่งที่ 4 ในไทย ณ บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าดิ เอ็มสเฟียร์ พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ชูคอนเซ็ปต์ ‘City-Centre Store’ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ โดยมุ่งตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการเดินทางให้ชาวกรุง พร้อมประสบการณ์ช้อปปิ้งอย่างเต็มรูปแบบตามแบบฉบับของอิเกีย บนพื้นที่กว่า 12,000 ตร.ม. สานต่อวิสัยทัศน์ระดับโลกในการช่วยให้ชีวิตผู้คนทั่วโลกดีขึ้นทุกวัน ด้วยการตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนเมืองด้วยโซลูชันการตกแต่งบ้านที่ครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตหลากหลาย พร้อมสินค้าที่มีให้เลือกมากมายถึง 8,254 รายการ โดยมีถึงกว่า 4,000 รายการที่สามารถช้อปและนำกลับบ้านได้เลย การสร้างโอกาสในการทำงานที่ส่งเสริมความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมให้แก่ทีมงานกว่า 180 คน และความมุ่งมั่นในการพัฒนาชุมชนโดยรอบสู่ความยั่งยืน โดยการเปิดตัวซิตี้สโตร์แห่งแรกในประเทศไทยครั้งนี้ยังเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมค้าปลีกครั้งสำคัญ ด้วยการผสานประสบการณ์ช้อปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น และการนำเสนอบริการที่สนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพิ่มขึ้น
ลีโอนี่ ฮอสกิ้น ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า “แนวคิดซิตี้สโตร์ของอิเกียเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2560 และถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายการเติบโตของบริษัทในระดับโลก สำหรับ ‘อิเกีย สุขุมวิท’ ซิตี้สโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มุ่งอำนวยสะดวกแก่ลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ใจกลางเมือง ด้วยการเดินทางที่ง่ายขึ้น พร้อมประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เต็มรูปแบบตามแบบฉบับของอิเกีย ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูม มาร์เก็ตฮอลล์ คลังสินค้าบริการตนเอง ร้านอาหารอิเกีย รวมถึงมุมอาหารและขนมสวีเดน เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้สานต่อความสำเร็จตลอด 12 ปีที่ผ่านมาในประเทศไทย ด้วยการทำให้แบรนด์ของเราใกล้ชิดกับคนเมืองมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาประสบการณ์ช้อปปิ้งทั้งออนไลน์ และนำเสนอบริการเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองโดยเฉพาะ พร้อมส่งเสริมการพัฒนาชุมชนโดยรอบในขณะเดียวกัน”
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ อิเกีย สุขุมวิท พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางที่ง่ายขึ้นด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งอย่างเต็มรูปแบบตามแบบฉบับของอิเกีย ด้วยสินค้าที่มีให้เลือกมากมายถึง 8,254 รายการ โดยมีถึงกว่า 4,000 รายการที่สามารถช้อปและนำกลับบ้านได้เลย บนพื้นที่กว่า 12,000 ตร.ม. โดยแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โชว์รูมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับวิถีชีวิตของชาวเมือง มาร์เก็ตฮอลล์ที่มีสินค้ากว่า 3,000 รายการให้เลือกช้อป ครบครันในทุกประเภทเช่นเดียวกับที่ อิเกีย บางนา และบางใหญ่ คลังสินค้าบริการตนเอง (self-serve) ที่มีสินค้าที่ซื้อและนำกลับได้เลยกว่า 300 รายการ พร้อมมุมสินค้าตามสภาพ (as-is corner) และร้านอาหารอิเกีย อีกหนึ่งมุมไฮไลท์ที่โอบล้อมด้วยวิวของสวนเบญจสิริในมุมกว้างและพร้อมให้บริการถึง 530 ที่นั่ง ให้ผู้ที่มาเยือนได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศความร่มรื่นใจกลางเมือง ขณะดื่มด่ำไปกับเมนูอาหารสวีเดนมื้อโปรด โดยจะมี 3 เมนูใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะ สำหรับช่วงเปิด อิเกีย สุขุมวิท อีกด้วย
ศิรินทร์ อาศน์ศิลารัตน์ ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย สุขุมวิท กล่าวว่า “อิเกีย สุขุมวิท เตรียมพร้อมเปิดให้บริการสำหรับคนที่รักแบรนด์อิเกียและคนที่ยังไม่เคยมีโอกาสเดินทางไปที่สโตร์บางนาและบางใหญ่ ให้ได้สัมผัสประสบการ์การช้อปปิ้งและบริการของอิเกียอย่างเต็มรูปแบบ และจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง เราจึงมีบริการที่รวดเร็วด้วยการจัดส่งภายในวันเดียว ในรัศมี 8 กิโลเมตรโดยรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าสะท้อนความสนใจในด้านการรักษ์สิ่งแวดล้อมของคนในย่านนี้ด้วย และยังเป็นบริการใหม่ซึ่งมีที่ อิเกีย สุขุมวิท เป็นแห่งแรก นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นพิเศษ AURTIENDE/ ออเทียนเด ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย เพื่อฉลองการเปิดตัวสโตร์อิเกียแห่งที่ 4 ในไทย ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ ‘City-Centre Store’ในครั้งนี้ด้วย”
บริการส่งสินค้าถึงบ้านภายในวันเดียว (same-day delivery) ด้วยรถพลังงานไฟฟ้า จะให้บริการอยู่ภายในรัศมี 8 กิโลเมตร สำหรับสินค้าที่มีอยู่ในสโตร์และลูกค้าเดินทางมาช้อปด้วยตัวเอง โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 129 บาท นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรวดเร็วให้กับลูกค้า กับบริการเช็คเอาต์ด้วยตัวเองที่มีช่องให้บริการมากถึง 16 ช่อง ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคดิจิทัล
ทั้งนี้ อิเกีย สุขุมวิท พร้อมต้อนรับทุกคนที่กำลังมองหาไอเดียและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการตกแต่งห้อง คอนโด บ้าน หรือออฟฟิศ ด้วยประสบการณ์การช้อปปิ้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่สะดวกสบาย พร้อมด้วยดีไซน์ คุณภาพและในราคาที่เข้าถึงได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.IKEA.co.th
เช็คอิน! ASICS SPORTSTYLE CAFE สุดคูลใจกลางย่านอารีย์ พร้อมจัดแสดงสนีกเกอร์ดีไซน์พรีเมียมเอาใจสายสตรีทแฟชั่น
เอสิคซ์ สปอร์ตสไตล์ (ASICS SPORTSTYLE) ปรับโฉมคาเฟ่ C.SPACE Cafe & Bar เป็นคาเฟ่ ASICS SPORTSTYLE สุดคูลใจกลางย่านอารีย์ พร้อมจัดแสดงสนีกเกอร์ GEL-KAYANO LEGACY และ GT-2160 เอาใจสายสตรีทแฟชั่นให้ได้มาถ่ายภาพสุดเก๋ และทำกิจกรรมสนุก ๆ เช็คอินกันได้ตั้งแต่วันนี้ – 4 ธันวาคมเท่านั้น!
สำหรับคาเฟ่ ASICS SPORTSTYLE ได้มีการแต่งแต้มร้านด้วยโทนสีเมทัลลิค ภายในงานได้มีการจัดแสดงสนีกเกอร์ GEL-KAYANO LEGACY ในสี PURE SILVER และสี WHITE BLACK ที่หยิบนำแรงบันดาลใจจากเหล่าโมเดลออริจินัลที่โดดเด่นในเรื่องความมั่นคงมารังสรรค์เป็นสนีกเกอร์สปอร์ตสไตล์เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีสุดยิ่งใหญ่ของซีรีส์รองเท้าวิ่งสุดไอคอนิกอย่าง GEL-KAYANO™ ที่ขับเคลื่อนด้วยสุดยอดเทคโนโลยีมากว่า 3 ทศวรรษ
อีกทั้งยังมีการจัดแสดงสนีกเกอร์ GT-2160 ให้ได้รับชมพร้อมกันด้วย ตื่นตาตื่นใจไปกับการจัดแสดงแล้วก็ยังมีเพลงฮิปฮอปอิเล็กทรอนิกส์รีมิกซ์ดี ๆ ให้ได้สัมผัสบรรยากาศสนุก ๆ จากบูธ DJ ที่คอยต้อนรับเหล่าผู้ร่วมงาน ทั้งนี้ทุก ๆ คนในคาเฟ่สามารถมาลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ เพราะในงานยังพร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มและขนมสุดพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ ASICS และคอนเซ็ปต์ของสนีกเกอร์ GEL-KAYANO LEGACY รุ่นล่าสุด อีกทั้งยังมีโฟโต้บูธให้ทุกคนได้แวะมาเก็บภาพและบรรยากาศคูล ๆ ของงานได้อีกด้วย
เพิ่มเติมความเอ็กซ์คลูซีฟโดยภายในงานยังมี Talk Session ที่มีคุณเน๋ง-ศรัณย์ นราประเสริฐกุล Brand Ambassador จาก ASICS ประเทศไทยและคุณบู้-ธนันต์ บุญญธนาภิวัฒน์ มือเบสวง Slur ร่วมพูดคุยถึงมุมมองเกี่ยวกับสนีกเกอร์ที่ชื่นชอบในบรรยากาศสบาย ๆ ไปกับคุณเอม-ธนาวัต นุตสถิตย์ สนีกเกอร์เฮดและเจ้าของเพจชื่อดัง Sneaker On Sight อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากเหล่า Brand Advocate จาก ASICS ประเทศไทย นำทีมโดย คูเปอร์-ภัทรพสิษฐ์ ณ สงขลา, แอนน่า กลึคส์, แพร-ณัฏฐธิดา กลิ่นสุวรรณ, บูม-รวีวิชญ์ จิระพงษ์กานนท์, เชน-ณัชพล ชีวะปัญญาโรจน์, เบียร์-รพีวิชญ์ เสงี่ยมวงศ์ รวมถึงหนุ่ม-สาวอินฟลูเอนเซอร์สายสตรีทแฟชั่นเข้าร่วมงานมากมายเหล่าวัยรุ่นทั้งหลายอย่าลืมแวะไปเช็คอิน พร้อมรับชมคอลเลกชั่น GEL-KAYANO™ LEGACY และ GT-2160 และถ่ายภาพกับ Installation ชิค ๆ หลากหลายมุมกันได้ตั้งแต่วันนี้ – 4 ธันวาคม ที่ C.SPACE Cafe & Bar ย่านอารีย์กันนะ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ASICS Sportstyle ได้ที่: Website: ASICS.COM LINE Official: @ASICSTH Facebook: ASICS Sportstyle Instagram: @asics_sportstyle_th
คิซโทเปีย (Kiztopia) สวนสนุกในร่มชื่อดังส่งตรงจากสิงคโปร์ พร้อมเปิดให้บริการครั้งแรกในไทย
คิซโทเปีย (Kiztopia) ศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับเด็กขนาดใหญ่ระดับพรีเมียมจากสิงคโปร์ เพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมให้บริการแล้ววันนี้กับสาขาแฟล็กชิปแห่งแรกในเมืองไทยที่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (Central Westville) ใจกลางย่านราชพฤกษ์ การเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของคิซโทเปียที่ขยายพื้นที่พิเศษให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยพลังแห่งความสร้างสรรค์ และฝึกทักษะทางสังคม อารมณ์ และการเคลื่อนไหวผ่านการเล่นอย่างมีจุดมุ่งหมายในปัจจุบัน พร้อมมอบประสบการณ์ครบวงจรที่ทั้งครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างไม่รู้จบ ผสานทั้งการเล่น การเรียนรู้ สร้างความผูกพัน และอิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารที่รวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของเวลาอันมีค่าและความสัมพันธ์อันอบอุ่น
ด้วยพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร และอีก 16 โซนพร้อมเครื่องเล่นที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับพัฒนาการแบบองค์รวมของเด็ก ๆ ผ่านการนำเสนอการเรียนรู้และความสนุกที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์สูง 2 ชั้นอันน่าตื่นเต้นที่พร้อมสูบฉีดอะดรีนาลีน, บ้านบอลขนาดใหญ่, สนามกีดขวางและโซนเอ็กซ์ตรีมสุดท้าทาย, กระโดดเพลินกันบนแทรมโพลีนที่สนุกเกินห้ามใจ รวมไปถึงโซน interactive ที่มีบทบาทสมมติให้เด็ก ๆ ได้ลองเล่น และอื่น ๆ อีกมากมาย
คุณไฮดี้ เธียน, ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คิซโทเปีย กล่าวว่า “ที่คิซโทเปีย เราเชื่อว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้ผ่านการเล่น เราจึงออกแบบและสนับสนุนกิจกรรมรวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและต่อเด็ก ๆ เราต้องการให้ทุกครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกรู้จักและเข้าถึงแบรนด์ของเรา โดยประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในแผนขยายธุรกิจของเราตั้งแต่เริ่มแรก ด้วยวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของครอบครัวไทย ที่มีความผูกพันแน่นแฟ้นและมักใช้เวลาร่วมกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตรงกับเป้าหมายหลักของเราที่ต้องการเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความบันเทิงที่สนุกได้ทั้งครอบครัว” พร้อมกล่าวเสริม “ในยุคที่ทุกอย่างพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เด็ก ๆ จะต้องเตรียมทักษะให้พร้อมสำหรับอนาคต ที่ความรู้ใหม่ ๆ และการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา คิซโทเปียมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางที่จะช่วยสร้างสรรค์ความบันเทิงของการเล่นแบบครบวงจร พร้อมยกระดับประสบการณ์แห่งการเรียนรู้ให้มาบรรจบกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยฝึกฝนพัฒนาการในทุก ๆ ด้านของเด็ก ๆ แล้ว ยังช่วยสร้างความผูกพันและช่วงเวลาอันน่าจดจำในครอบครัวอีกด้วย”
คิซโทเปีย ก่อตั้งขึ้นที่สิงคโปร์ ตั้งแต่ปี 2019 และมีชื่อเสียงในฐานะแบรนด์เพื่อความบันเทิงในครอบครัว ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศการเล่นที่สนุกสนานและเปี่ยมไปด้วยความหมาย ภายใต้คอนเซปต์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์คือ “เล่นเพื่อเรียนรู้ เรียนรู้ผ่านการเล่น” โดยมีเครื่องหมายการันตีมาตรฐานด้วยรางวัล “ประสบการณ์สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด (Best Attraction Experience)” จาก Singapore Tourism Awards ประจำปี 2021
สวรรค์แห่งความบันเทิงเพื่อคุณหนู ๆ แห่งนี้มีคาแรคเตอร์หลักเป็นสัตว์ทั้งหมด 8 ชนิด ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของแบรนด์คิซโทเปีย โดยตัวละครทั้ง 8 จะคอยสร้างสีสันและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชฟหมี Bell, Tiger นักกีฬาจอมพลัง, Happy ฮิปโปสาวนักเต้น, Eli วิศวกรช้างมือหนึ่ง, คุณครูกระต่ายสาว Raby, Mark เจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์, Honey ผึ้งน้อยเสียงหวาน และ Drago พี่มังกรนักข่าวแสนฉลาด
ผองเพื่อนรักทั้ง 8 จะพาเด็ก ๆ เดินทางไปสู่ดินแดนยูโทเปีย ซึ่งดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์การเล่นด้วยทักษะต่าง ๆ ทั้งการเคลื่อนไหว การสื่อสาร และการเข้าสังคม ให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผ่านสิ่งแวดล้อมรอบตัว พร้อมกำหนดนิยามใหม่ของสนามเด็กเล่นในร่มในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร กับพื้นที่เล่นทั้งหมด 16 โซน ดังนี้
ดินแดนของพี่มังกร Drago: สนุกสุดเหวี่ยงกันอย่างเต็มที่ไปกับปราสาทเด้งดึ๋งแห่งใหม่ของพี่มังกร Drago
สถานีรถไฟสุดหรรษาของ Eli: กระโดดขึ้นรถไฟของ Eli พร้อมออกเดินทางสู่การผจญภัยที่รออยู่ข้างหน้า อย่ารอช้าที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก!
สนามแข่งรถ อารีน่าของ Tiger: ให้เหล่านักซิ่งตัวน้อยขี่รถมินิไบค์คันโปรดที่ Tiger’s Arena และเพลิดเพลินไปกับการขับรถบน”ถนน” อย่าลืมแวะเติมน้ำมันที่ “ปั๊มน้ำมัน” ตรงมุมถนนนะ!
โซนนักรบนินจา: กับหลักสูตรพิเศษและอุปสรรคสิ่งกีดขวาง ที่ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาความมั่นใจ ความมุ่งมั่น ความคล่องตัว และความแข็งแกร่ง! เหมาะสำหรับนักผจญภัยรุ่นเยาว์และเหล่านินจาตัวจิ่ว!
Tiger’s Mojo Zone: ค้นหาความสนุกไม่รู้จบกับพื้นที่เล่นที่เอ็กซ์ตรีมที่สุดในสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งมี การเล่นทั้งหมด 4 ระดับและยังรวมกิจกรรมอันแสนตื่นเต้นเร้าใจที่จะทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีด! ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์ขนาดยักษ์ รวมพลสิ่งกีดขวาง การปีนหน้าผา แทรมโพลีนเด้งดึ๋ง โซนดนตรี ชิงช้า และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแต่ละระดับจะให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้เปิดประสบการณ์ความสนุกไร้ขีดจำกัดในสนามเด็กเล่นสุดมันส์ของ Tiger!
กระโดดไปบนแทรมโพลีน ของ Mark: ตามเจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์ไปเปิดประสบการณ์ความสนุกเหนือแรงโน้มถ่วงบนแทรมโพลีนสุดเพลิดเพลิน โดยเด็ก ๆ จะได้ปลดปล่อยพลังผ่านการกระโดด พร้อมกับทดสอบความคล่องตัว (น้ำหนักของผู้เล่นไม่ควรเกิน 40 กิโลกรัม)
โซนบ่อทรายแสนสนุก ของ Eli: ปล่อยให้จินตนาการและความสร้างสรรค์ของคุณหนู ๆ โลดแล่นออกมาบนบ่อทรายของ Eli พี่ช้างตัวเบิ้ม ที่พวกเขาจะสามารถขุด ปั้น เล่น สร้างปราสาท”ทราย” ของตัวเอง หรือแม้แต่กลิ้งไปมาบนพื้นทรายได้แม้ยามฝนจะตกหรือแดดออกก็ตาม!
Raby’s Mart: ซูเปอร์มาร์เก็ตที่จำลองสำหรับเด็ก ให้คุณหนู ๆ ได้ปลดปล่อยจินตนาการไปกับการเล่นบทบาทสมมติ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมและการเรียนรู้คณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานไปกับคุณครูกระต่ายสาว Raby! เด็ก ๆ สามารถเล่นเป็นนักช้อปตัวจิ๋วที่กำลังเดินเล่นซื้อของในซูเปอร์มาเก็ตที่มีสินค้าครบครัน หรือจะเป็นพนักงานแคชเชียร์ที่เคาน์เตอร์ชำระเงินก็ได้เช่นกัน!
Raby’s Clinic: ช่วยคุณครูกระต่ายสาวกอบกู้โลกไปพร้อม ๆ กัน ที่คลินิคของ Raby คุณหนู ๆ จะได้ฝึกทักษะเป็นแพทย์ตัวน้อย ผ่านการช่วยรักษาและปลอบโยนเหล่า “ผู้ป่วยสัตว์น้อยใหญ่” รวมไปถึงการทดลองวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยด้วยใช้รังสีเอกซ์และกราฟระบุโรค
ฟาร์มของ Honey: สวมบทบาทเจ้าของฟาร์มแบบเต็มขั้นไปกับผึ้งน้อย Honey ที่ซึ่งเด็ก ๆ จะได้ลองเรียนรู้ทั้งการรีดนมวัว การเก็บพืชผล และการปลูกเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งผูกมิตรกับผืนดิน ธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับการเฝ้าดูสิ่งต่าง ๆ เจริญเติบโต!
ร้านอาหารของเชฟ Bell: คลาสเข้าครัวกับเชฟหมี Bell และเรียนรู้วิธีการทำอาหารแบบง่าย ๆ เสริมทักษะการสื่อสาร และร่วมมือกันทำงาน! หนู ๆ จะได้เรียนรู้ตั้งแต่อุปกรณ์ทำครัว เตาอบ ไปจนถึงเครื่องทำขนมปัง หรือแม้แต่ส่วนผสมในจานเด็ดของเชฟหมี Bell ในโซนนี้มีทุกสิ่งครบครันพร้อมสำหรับเชฟตัวจิ๋ว!
โซนต่อบล็อกของ Mark: ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ไปกับเจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่นชอบการคิดค้นสิ่งใหม่เป็นที่สุด ผ่านการทดลองประดิษฐ์ต่อบล็อคให้เป็นสิ่งต่าง ๆ ไปด้วยกัน
Happy’s Studio: สำหรับคุณหนู ๆ ที่รักสวยรักงามและชื่นชอบการแต่งหน้าทำผม บอกเลยว่าไม่ควรพลาดกับ Happy’s Studio! เพราะในโซนนี้ทุกคนจะได้เล่นแต่งตัวกับเสื้อผ้าสุดน่ารักหลากหลายสไตล์ กับ Happy ฮิปโปสาวนักเต้นบัลเลต์ ให้เด็ก ๆ สำรวจความงามจากภายในและสร้างความมั่นใจในตัวเองไปพร้อมกัน
คราฟท์โซนของพี่มังกร Drago: ปลดปล่อยพลังแห่งจินตนาการที่คราฟท์โซนส่วนตัวที่พี่ Drago จัดกิจกรรมศิลปะและงานฝีมือไว้อย่างเต็มเปี่ยมสำหรับน้อง ๆ โดยเฉพาะ นอกจากนี้ทั้งครอบครัวยังจะได้กระชับสายสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อเตรียมพร้อมลงมือและครีเอทผลงานอันยอดเยี่ยม!
Bell’s Café: เหนื่อยกันแล้วหรือยัง? มาแวะพักเติมพลังที่ คาเฟ่เชฟหมี Bell ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มเมนูพิเศษ และของว่างแสนอร่อยให้ทุกคน ก่อนที่จะกลับไปสนุกกันต่อ!
Hero Square: ชมการแสดงและพบปะเหล่าคาแรคเตอร์สุดน่ารักจากคิซโทเปีย และเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้สุดพิเศษได้ที่ Hero Square! ห้ามพลาดกับเซอร์ไพรส์จาก เบล ที่จะมาทักทายแฟน ๆ และมอบเสียงหัวเราะให้กับทุกคน
คิซโทเปีย ตั้งอยู่บนชั้น 3 เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เปิดบริการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 20.00 น สำหรับวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 21.00 น. เพิ่มเติมรายละเอียดได้ที่
Website: https://www.kiztopia.co.th /Facebook: https://www.facebook.com/kiztopiath/
Instagram: @kiztopiath / LINE Official: @kiztopiath