fbpx

Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2023

AAT ลงนามความร่วมมือกับสมาคมโฆษณาจีน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ยกระดับวงการโฆษณาในอนาคต

นายรติ พันธุ์ทวี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) เปิดเผยว่า สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) ได้ร่วมมือกับสมาคมโฆษณาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Advertising Association – CAA)  ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ The Beijing International Public Service Conference Organizing Committee  เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ผลักดันคุณภาพงานโฆษณาและการทำงานสื่อสารการตลาดเพื่อสังคมอย่างมีความรับผิดชอบให้กว้างขวางและมีความคิดสร้างสรรค์ดียิ่งขึ้น ในงาน 2023 Beijing International Public Service Advertising Conference โดยในการลงนามความร่วมมือดังกล่าว สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ได้ร่วมปาฐกถา ในหัวข้อ “Thailand : A Love Affair with PSA” ตามด้วยมุมมองของนักโฆษณาผู้มีชื่อเสียงจากประเทศไทย ได้แก่  “ดิศรา อุดมเดช” Founder & CEO / Yell Advertising กับหัวข้อ “PSA Case Study from Thailand” อีกด้วย

“ประเทศไทยได้รับการยอมรับกับคุณภาพงานโฆษณาและสื่อสารการตลาดในเวทีสากลมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน รวมทั้งรูปแบบงานที่เป็นการตอบแทนและสนับสนุนการมีสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งเป็นมิติใหม่ที่องค์กรและแบรนด์ต่าง ๆ ให้ความสนใจเพื่อประสิทธิผลของการสื่อสารกับผู้บริโภคและสังคมในยุคปัจจุบัน  ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของความร่วมมืออย่างเป็นทางการด้านโฆษณาระหว่างไทยและจีน โดยสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การต่อยอดความร่วมมือในโลกโฆษณาและสื่อสารการตลาดอย่างเป็นประโยชน์อีกมากระหว่างสมาคมโฆษณาของจีนและไทยในอนาคต” นายรติกล่าว

FTREIT ท็อปฟอร์ม ย้ำสถานะผู้นำกองทรัสต์เพื่ออุตสาหกรรมของไทย

กองทรัสต์ FTREIT สร้างผลงานปีงบการเงิน 66 (ต.ค. 65-ก.ย .66) ยอดเยี่ยม ตอกย้ำผู้นำกองทรัสต์เพื่ออุตสาหกรรมของไทย ทำรายได้รวม 3,779.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% กำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,493.5 ล้านบาท ด้วยฟอร์มการบริหารที่แข็งแกร่ง เดินหน้าลงทุนซื้อทรัพย์สินทั้งในและนอกกลุ่มเพิ่มกว่า 120,000 ตร.ม. ดันพื้นที่ภายใต้พอร์ตฯ เกือบแตะ 2.3 ล้านตร.ม. ส่งผลให้เป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ให้เช่ามากที่สุดของประเทศ เตรียมจ่ายปันผลไตรมาส 4/2566 (ก.ค.-ก.ย. 66) ที่ 0.1870 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายปันผลตลอดปีงบการเงิน 2566 สะสม 0.7480 บาทต่อหน่วย โตจากปีก่อน 5.8%

นายธนะรัชต์ บุญญะโกศล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” กล่าวว่า บริษัทฯ สามารถบริหารกองทรัสต์ FTREIT ในปีงบการเงิน 2566 (ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเก็บเกี่ยวรายได้จากค่าเช่าที่เติบโตดีจากโรงงานและคลังสินค้าที่มีลูกค้าใช้บริการหนาแน่น สะท้อนได้จากความสามารถรักษาระดับอัตราการเช่าโดยเฉลี่ยในระดับสูงถึง 86.2%

นอกจากนี้ FTREIT ยังประสบความสำเร็จจากการลงทุนตามแผนการซื้อทรัพย์สินในกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เป็นโรงงานและคลังสินค้า 25 ยูนิต พื้นที่กว่า 57,000 ตร.ม. และนอกกลุ่มจากบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด ในโครงการ TIP9 เป็นโรงงานและคลังสินค้า 9 อาคาร พื้นที่กว่า 70,000 ตร.ม. ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายพื้นที่ภายใต้พอร์ตโฟลิโอเพิ่มขึ้นเกือบแตะ 2.3 ล้านตร.ม. นับเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่มีขนาดพื้นที่ให้เช่าสุทธิใหญ่ที่สุด และมีพื้นที่ Freehold มากที่สุดในประเทศไทยด้วยสัดส่วนกว่า 72% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด หรือราว 1.63 ล้านตร.ม.

ขณะเดียวกัน กองทรัสต์เดินหน้าปรับปรุงอาคารเพื่อเตรียมความพร้อมด้านการดำเนินงานให้กับผู้เช่า ซึ่งบริษัทฯ มีจำนวนสัญญาเช่าใหม่ระหว่างปีเพิ่มขึ้น และรายได้จากผู้เช่ารายใหม่จะบันทึกในงวดบัญชีปีถัดไป โดยผลการดำเนินงาน FTREIT ประจำปีงบการเงิน 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,779.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,493.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ FTREIT เตรียมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาสที่ 4/2566 (กรกฎาคม-กันยายน 2566) ในอัตรา 0.1870 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 และกำหนดจ่ายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 โดยตลอดปีงบการเงิน 2566 FTREIT ได้จ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์รวม 0.7480 บาทต่อหน่วย เติบโตประมาณ 5.8% จากปีก่อน

สำหรับปี 2567 FIRM ประเมินว่าธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ามีทิศทางการเติบโตดี โดยได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ อีกทั้งได้แรงหนุนจากการเดินเครื่องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3 ท่าเทียบเรือ F ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพให้อีอีซีเป็นพื้นที่เป้าหมายของนักลงทุนทั่วโลก และเป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจของ FTREIT ด้วยเช่นกัน โดยทางกองทรัสต์ได้เตรียมงบสำหรับการลงทุนของปีงบการเงิน 2567 (ตุลาคม 2566-กันยายน 2567) มากกว่า 2,000 ล้านบาทในการเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งมากขึ้น

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ