fbpx

แมธเธียส คูเปอร์ กับงาน THAIFEX_HOREC Xperience ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมของอนาคตตลาดอาหารและเครื่องดื่มภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

หากจะกล่าวกันถึงตลาดของผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี โดยไม่เว้นแม้ว่าจะมีสภาวะการแพร่ระบาดของ COVID-19  นั่นคือ  ‘ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหาร’ ซึ่งได้รับการจัดลำดับให้อยู่ในแถวหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าสินค้าบริโภคคือสิ่งจำเป็น และยิ่งทวีความสำคัญตามกำลังซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น

และหลังจากผานพ้นช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 มาเป็นเวลาหลายปี งานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มครั้งใหญ่อย่าง ‘THAIFEX-HOREC Xperience’ ก็ถูกกำหนอให้จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยผู้ประกอบการที่นำเสนอสินค้าและทิศทางของผลิตภัณฑ์และนวตกรรมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างน่าสนใจ และเป็นหมุดหมายสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการต่อยอดภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

GM Magazine ได้รับเกียรติจาก คุณแมธเธียส คูเปอร์  กรรมการผู้จัดการและรองประธานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก โคโลญเมสเซ่  ผู้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับกรมส่งเสริมการส่งออกหรือ DITP ที่เป็นพ่องานหลักของ THAIFEX-HOREC Xperience ซึ่งจะมาพูดคุยถึงแนวคิด ทิศทาง และอนาคตของงานที่จะเกิดในเดือนมีนาคม 2024ที่จะถึงนี้

ขยับขยายพื้นที่จัดงาน เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น

เป็นเวลากว่ายี่สิบปี ที่ทาง Koelnmesse และ DITP ได้ร่วมกันจัดงาน THAIFEX-Anuga Asia งานแสดงอาหารและเครื่องดื่ม โดยร่วมกับหอการค้าไทย และมีผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก แต่ทิศทางการเติบโตและความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้จัดงาน พิจารณาความเป็นไปได้ที่จะขยายขอบเขตของการแสดงให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว

‘หลังจากการพัฒนางานมาอย่างยาวนาน ก็มาถึงจุดที่เราไม่สามารถขยายพื้นที่ในการจัดงานได้ จึงจำเป็นต้องดูว่าสามารถเติบโตไปในทิศทางไหนได้ต่อ เพราะความต้องการของตลาดนั้นยังคงสูงมาก และในขณะเดียวกันนั้น แน่นอนว่าเราได้ดูสิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมและเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในอุตสาหกรรม’ คุณแมธเธียสกล่าวให้ความเห็น

แน่นอนว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการชะงักของการเติบโต แต่หลังจากวิกฤติผ่านพ้นไป ความพยายามที่จะชดเชยเวลาที่เสียไป ก็มากเพียงพอที่จะทำให้ทางผู้จัดมองเห็นความน่าจะเป็นสำหรับการจัดงานที่ใหญ่ขึ้น

‘นี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราจะมีส่วนร่วมเล็กๆ น้อยๆ ในอุตสาหกรรมนี้ เราจึงมีแนวคิดในการจัดงาน THAIFEX – Horec Asia ในปีหน้า เป็นงานแสดงสินค้าที่มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรม Horeca หรืออุตสาหกรรมการบริการ’ คุณแมธเธียสกล่าว

 หลากหลายและขยายไปไกลกว่าภาคอาหารและเครื่องดื่ม

แม้ว่ากลุ่มตลาดอาหารและเครื่องดื่มจะมีความต้องการที่สูงพร้อมทั้งเติบโตขึ้นในแต่ละปี แต่ทางผู้จัดงานได้มองไปไกลกว่านั้น ในการที่จะขยายไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องกันเช่นภาคการบริการ และการเพิ่มโปรไฟล์ใหม่ๆ เพื่อให้เกิดความหลากหลาย อีกทั้งยังน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

‘ในขณะที่เราแยกส่วนบริการอาหาร (Food Service) ออกไป ซึ่งเรากำลังพูดถึงส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร รวมถึงเพิ่มกลุ่มโปรไฟล์ใหม่ๆ อีกด้วย ทั้งไอศกรีม เบเกอรี่ ร้านอาหาร เฟอร์นิเจอร์ wellness เทคโนโลยี รวมถึงการทำความสะอาดและการซักรีด จากกลุ่มโปรไฟล์ใหม่จำนวนมากที่เราได้ให้ความสนใจและเพิ่มขึ้นมานั้น ทำให้เราตัดสินใจสร้างงานแสดงสินค้าใหม่ขึ้น และนั้นทำให้ในปีหน้าจะมีการจัดแสดงงานถึง 2 งานด้วยกัน’ คุณแมธเธียสอธิบายถึงมุมมองที่ผู้จัดงานได้วางเอาไว้สำหรับงานในปีถัดๆ ไป

แน่นอนว่างานเดิมงานอย่าง THAIFEX-Anuga Asia นั้นจะยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน แต่ก็จะมีเพิ่มเข้ามาในส่วนของ THAIFEX-HOREC Asia ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ โดยให้ผู้ประกอบการในโปรไฟล์ที่ต่างออกไป ได้เข้ามานำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ สร้างความหลากหลายให้กับผู้ชมมากยิ่งขึ้น

 โพสิชั่นที่เหมาะสม เพื่อขยับขยายสู่ภูมิภาคที่กว้างขึ้น

เมื่อถามถึงเหตุผลในการเลือกระเทศไทยในการจัดการ THAIFEX-HOREC Asia ซึ่งจะจัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ในครั้งเดือนมีนาคม 2024  ว่าพิจารณาจากปัจจัยใดเป็นหลัก คุณแมธเธียสก็ได้ให้เหตุผลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

‘ประเทศไทยเป็นตลาดหลักสำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียใต้ ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสมที่สุดในภูมิภาคนี้สำหรับการจัดงาน เนื่องจากตลาดภายในประเทศนั้นมีขนาดที่ใหญ่มาก โดยงานนี้ทางเราไม่ได้วางตำแหน่งที่จะมุ่งเน้นแค่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงกลุ่มประเทศ CLMV ประเทศจีน รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิกด้วย’

อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก เมื่อมองจากปัจจัยทั้งสถานที่ในการจัดแสดง ความสะดวกในการเดินทาง การเปิดกว้างในการทำธุรกิจสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน โครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมสูง และกลุ่มซัพพลายเออร์กับพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายสำหรับตลาดภาคอาหารและการบริการ

ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเปิดโรงแรมหรือร้านอาหาร ในเวียดนามหรือฟิลิปปินส์ หรือคุณมาที่นี่เพียงแค่ปีละครั้งและมาทำธุรกิจ จากนั้นคุณกลับบ้านไป แน่นอนว่าคุณจะมีซัพพลายเออร์และผู้ซื้อติดมือคุณกลับไปอย่างแน่นอน’ คุณแมธเธียสกล่าวให้ความเห็นอีกครั้ง

การเชื่อมต่อสินค้าและโอกาสทางธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้งานประสบความสำเร็จได้นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับคุณค่าและความคุ้มค่าของการเดินทางมาร่วมจัดแสดง การพบปะคู่ค้า การเชื่อมโยงความร่วมมือทางธุรกิจ และการเปิดโอกาสกับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ซึ่งคุณแมธเธียสก็ยืนยันว่า งาน THAIFEX-HOREC Asia จะมอบสิ่งนั้นให้กับผู้ร่วมและผู้ชมงานอย่างเต็มที่แน่นอน

‘แน่นอน ในฐานะนักธุรกิจ คุณต้องดูว่าช่องทางใดที่คุณสามารถทำการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณได้ แล้วจะได้ไปพบปะกันที่ไหน? หากคุณมาที่งานนี้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์และโดยพื้นฐานแล้วคุณได้พบกับผู้คนนับพันที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ซื้อเป้าหมายของคุณ นั่นคือจุดเริ่มต้นของธุรกิจ คุณได้พบหน้ากัน พูดคุย ทำความรู้จักกัน พวกเขาเห็นผลิตภัณฑ์ของคุณ พวกเขาสามารถสัมผัสผลิตภัณฑ์ของคุณ รู้สึกถึงผลิตภัณฑ์ของคุณ ชิมผลิตภัณฑ์ของคุณ และนั่นคือวิธีที่งานได้เปิดช่องทางทางการตลาดให้กับคุณ’

นอกเหนือจากการจับคู่การค้าและการเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจแล้ว การได้เรียนรู้ ‘เทรนด์’ ของอุตสาหกรรม ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจของงาน THAIFEX-HOREC Asia ที่คุณแมธเธียสกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า เป็นโอกาสที่กว้างและไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ด้านความยั่งยืน เทรนด์ไร้การสัมผัส ระบบสั่งการด้วยเสียง และเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ เป็นจำนวนมาก

‘อย่างที่ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับงาน THAIFEX – Horec Asia ว่าเป็นงานแสดงที่กว้างมาก ดังนั้นทุกอย่างที่อยู่ในโรงแรม ภายในร้านอาหาร การทำความสะอาด เทคโนโลยี ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และอื่นๆ ผมคิดว่าโอกาสนั้นไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ’

 ‘ทำไม’ ต้องไป THAIFEX-HOREC Asia?

มาถึงจุดนี้ อาจจะไม่เป็นที่กังขาถึงความสำคัญของการจัดงานคู่ขนานระหว่าง THAIFEX-Anuga Asia และ THAIFEX-HOREC Asia ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ GM Magazine ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า เพราะเหตุใดจึงเป็นความสำคัญที่ผู้ประกอบการในภาคส่วนต่างๆ ต้องเข้าร่วมงานเหล่านี้ ?

‘คิดว่าใครก็ตามที่ทำงานในอุตสาหกรรม Horeca ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือบริษัทในเครือใหญ่ควรที่จะมางานนี้  หรือแม้ว่าคุณจะเปิดร้านกาแฟเล็กๆ คุณก็ควรมา เพราะที่นี่เป็นตลาดสำหรับใครก็ตามที่มองหาผลิตภัณฑ์ วิธีแก้ปัญหา และวิธีการสร้างธุรกิจของตนเอง ดังนั้นแม้แต่ใครก็ตามที่เป็นผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองก็ควรที่จะมางานนี้เช่นกัน’ คุณแมธเธียสกล่าวถึงเหตุผลที่ผู้ประกอบการควรให้ความสนใจต่องาน

‘คุณไปที่งานได้พบกับผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งถึงแม้คุณจะไม่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ภายในงาน แต่ก็ยังมีสิ่งใหม่ๆ มากมายที่เรานำเสนอให้คุณ เช่น มีการมอบรางวัลนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นในงานปีหน้า  ทั้งนี้จะคัดเลือกและมอบรางวัลผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะเรื่องของการประหยัดพลังงานหรือเพื่อความยั่งยืน และในหมวดหมู่ต่างๆ แน่นอนว่ายังมี Academy ของเราด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่ไว้ให้ความรู้ มีเนื้อหามากมายที่ได้คัดสรรมาไว้ที่นี่ และเป็นที่ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ ผู้คนในอุตสาหกรรม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และยังเป็นแพลตฟอร์มที่คุณสามารถเข้าไปฟังและเรียนรู้ได้ ทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มประสบการณ์ทางด้าน HOREC หรืองานบริการให้กับคุณ’

และเมื่อถามถึงความเห็นของคุณแมธเธียสในฐานะผู้จัดงาน และผู้คร่ำหวอดในภาคอุตสาหกรรมการบริการ เกี่ยวกับการบริการแบบไทย อาหารไทย และความเป็นไทย ว่าเขามีความคิดเห็นเช่นใด ซึ่งคำตอบที่ได้นั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง ‘ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปที่เข้ามาในประเทศไทย ต่างรู้กันดีว่าระดับการบริการของไทยนั้นยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่ารอยยิ้มและการต้อนรับแบบไทยๆ นั้นมีชื่อเสียงมาก และนั่นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ที่นี่ ประเทศไทยเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสมสำหรับการจัดงานแสดงสินค้าประเภทนี้’ คุณแมธเธียสกล่าวปิดท้าย

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ