fbpx

Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 8 กันยายน 2023

“THE SINGLETON” ชูคอนเซ็ปต์ใหม่ My Singleton Style by The Singleton ชวนอัพสไตล์ชีวิต สไตล์ Singleton ส่งต่อแรงบันดาลใจ ก้าวสู่ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ตามแบบฉบับของตัวเอง

“เดอะ ซิงเกิลตัน” (The Singleton) ซิงเกิลมอลต์สก็อตวิสกี้ระดับโลกจากสก็อตแลนด์ ภายใต้ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT เปิดตัวคอนเซ็ปต์การอัพลิฟท์ไลฟ์สไตล์ ภายในงาน “My Singleton Style by The Singleton” อัพสไตล์ชีวิต…สไตล์ Singleton  สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้ก้าวข้ามออกจากกรอบเดิมๆ สู่การใช้ชีวิตที่ยกระดับ พร้อมอัพลิฟท์ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นในทุกๆ วัน แต่ยังคงสะท้อนเอกลักษณ์และความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

เดอะ ซิงเกิลตัน” (The Singleton) หนึ่งในซิงเกิลมอลต์สก็อตวิสกี้ ที่ได้รับการยอมรับจากนักดื่มทั่วโลก โดดเด่นด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ชวนคนรุ่นใหม่ มาฉีกกรอบ และยกระดับการก้าวสู่ไลฟ์สไตล์แบบอัพลิฟท์ ตอกย้ำความตั้งใจของดิอาจิโอ ในการมอบประสบการณ์พรีเมียมตอบรับเทรนด์ “Premiumization” หรือการเอนจอยไปกับไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมในทุกๆ วัน ตามแบบฉบับของตนเองที่ผู้บริโภคยุคใหม่กำลังมองหา ผ่านงาน “My Singleton Style by The Singleton” อัพสไตล์ชีวิต…สไตล์ Singleton

พร้อมเผยโฉม Face of The Singleton ทั้ง 3 ท่าน และพาร์ทเนอร์ เตรียมส่ง “The Singleton Foldable Bar” โชว์เคสการอัพลิฟท์สไตล์ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายเพื่อส่งต่อคอน  เซปต์ดังกล่าวให้ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์ Glamping ผ่านเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์อย่าง ภูริ หิรัญพฤกษ์ จาก Viewfinder Thailand ไปจนถึงจัดกิจกรรม Glamping ณ โรงแรม รีสอร์ต และเทศกาลดนตรีที่เขาใหญ่และเชียงใหม่ ระหว่างตุลาคม ถึง ธันวาคม 2566 เพื่อสัมผัสประสบการณ์แคมปิ้งสุดหรู ช่วงปลายฝนต้นหนาวที่แปลกใหม่กว่าที่เคย

ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมที่ “เดอะ ซิงเกิลตัน” (The Singleton) เตรียมไว้ให้ผู้บริโภคได้ดื่มด่ำประสบการณ์อัพลิฟท์ไลฟ์สไตล์ ร่วมกับเครื่องดื่มซิงเกิลมอลต์วิสกี้ ที่กวาดรางวัลเหรียญทองจากเวทีระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ The International Spirits Challenge 2022 และ The San Francisco World Spirits Competition 2022 เป็นต้น

ครั้งแรกกับปรากฏการณ์ CO-CREATION บนพื้นที่ SCBX NEXT TECH สัมผัสจิตวิญญาณ “มิเกล เชอวาลิเยร์” ศิลปินดิจิทัลอาร์ตระดับโลก ณ สยามพารากอน

สยามพารากอน สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ชวนคนรุ่นใหม่และผู้สนใจดิจิทัลอาร์ตมาร่วมอัพเดทความรู้และประสบการณ์บนพื้นที่ SCBX NEXT TECH เทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคตของคุณ (Your Futurescape) ชั้น 4 สยามพารากอน ซึ่งสยามพารากอน ร่วมกับ SCBX และพาร์ทเนอร์ระดับโลกอีกมากมาย Co – Creator Community ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วมพัฒนาตนเองจากกิจกรรมของพันธมิตรระดับผู้นำธุรกิจมากมายทั้งภายในประเทศไทยและนานาประเทศทั่วโลก โดยตั้งเป้าหมายให้เป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นที่ผู้คนที่สนใจในด้านเทคทุกแขนงจากทั่วโลกต้องการมาเยือน

หนึ่งในแขนงเทคโนโลยีที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกได้แก่ Digital Arts สยามพารากอนได้รับเกียรติจาก มิเกล เชอวาลิเยร์ (Miguel Chevalier) ศิลปินระดับโลกผู้บุกเบิกและคลุกคลีกับงานดิจิทัลอาร์ต มากว่า 40 ปีร่วม CO-CREATION สร้างประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟในรูปแบบ Art Tech อันน่าตื่นตาตื่นใจในสไตล์ที่ไม่เคยทำมาก่อน บนพื้นที่โซน SCBX NEXT TECH พร้อมให้เกียรติร่วมแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับคนรุ่นใหม่และผู้สนใจดิจิทัลอาร์ต เพื่อหาความรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการเป็นศิลปินดิจิทัลแห่งอนาคต ในกิจกรรม “Digital Art Talk With Miguel Chevalier”  

“ศิลปะที่สร้างสรรค์ด้วยคอมพิวเตอร์ และโลกดิจิทัลนี่เอง ที่สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับวงการศิลปะ”  มิเกล เชอวาลิเยร์ (Miguel Chevalier) เผยถึงผลงานที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นศิลปินดังระดับโลกที่หลายคนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดคนหนึ่ง พร้อมเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจดิจิทัล อาร์ตว่า “ผมสนใจเพราะว่าตอนต้นยุคปี 80 ที่ผมเติบโตมา ผมกับเพื่อนๆ สนใจงานที่เป็นแนวมาก่อนกาลหรือ Avant-garde ของตะวันตก แล้ว Digital Arts ก็เป็นสาขาที่ใหม่มาก แล้วผมเห็นว่าการนำคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ศิลปะ มันเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ เป็นเหมือนการทดสอบแบบหนึ่งของความเป็นศิลปิน ว่าจะสามารถสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ได้หรือไม่

 ผมเจอคอมพิวเตอร์ครั้งแรก เมื่อผมเรียนอยู่ในฝรั่งเศส เป็นโรงเรียนด้านศิลปกรรมแห่งชาติของฝรั่งเศส ตอนนั้นคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งใหม่มาก และไม่ได้มีโปรแกรมเยอะเหมือนในปัจจุบัน ผมค่อยๆ เรียนรู้ และพัฒนาความรู้ด้านดิจิทัลมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 40 ปี”

แม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่การนำดิจิทัลมาผสมผสานกับการสร้างผลงานศิลปะ อาทิ การวาดภาพ หรือการถ่ายภาพ ถือเป็นการพัฒนาทางด้านศิลปะ เพราะทำให้มิเกลเชื่อว่า ดิจิทัลอาร์ต
ก็สามารถทำให้คนเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกได้เช่นกัน 

แหล่งกำเนิดความคิดสร้างสรรค์ของมิเกลไม่ต่างจากศิลปินอื่นๆ ทั่วไป คือมีพื้นฐานมาจากการเรียนด้านศิลปะ แต่การพัฒนาและต่อยอดต่างหากที่ทำให้เขาแตกต่าง

“ต้องบอกก่อนว่า การทำ Digital Arts ไม่เหมือนศาสตร์ทางศิลปะทั่วๆ ไป เช่น ภาพวาด วีดีโอ ภาพถ่าย ที่คนดูทำได้แค่ดูอย่างเดียว แต่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์ได้ เพราะมันมีระยะห่างระหว่างคนดูกับงานศิลปะอยู่ แต่การทำ Digital Arts คืองานที่ทำให้คนสามารถมีส่วนร่วมกับงานศิลปะได้จริงๆ เช่น เวลาคนดูเคลื่อนไหวไปบนพื้น ภาพก็จะมีการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย” มิเกล เผยถึงเสน่ห์ของดิจิทัลอาร์ต ที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปินที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

ที่ผ่านมา มิเกล เคยสร้างปรากฏการณ์และความตื่นตาตื่นใจกับผลงานดิจิทัลอาร์ตระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ  META-NATURE AI ในปี 2023 ที่ประเทศเกาหลีใต้, A L’INFINI ปี 2023 ประเทศฝรั่งเศส,
Digi EXTRA-NATURAL 2023 ณ ประเทศเยอรมนี และ DIGITAL MOIRÉS 2022 ประเทศลักเซมเบิร์ก รวมถึง Magic Carpets ในงาน “Bangkok Illumination by MIGUEL CHEVALIER” เมื่อปี 2018 ณ ไอคอนสยาม ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และความน่าสนใจของผลงานโดยมิเกลในครั้งใหม่นี้ ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่ได้จัดแสดงผลงาน ณ SCBX NEXT TECH สยามพารากอน 

“สำหรับผม ศิลปะมีความซับซ้อน แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถรับรู้ได้ด้วยสายตาและมีการแสดงความรู้สึกออกมาผ่านผลงานศิลปะ” มิเกล กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมสัมผัสและตื่นตาตื่นใจไปกับ Interactive Experience และฟังแนวคิดจากศิลปินดิจิทัล อาร์ตระดับโลก มิเกล เชอวาลิเยร์ ได้ในวันพุธที่ 20 กันยายน 2566  เวลา 13.00-15.00 น. ณ  SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่าน QR Code หรือ ลิงค์ https://forms.gle/CfvgjmW6h3tCnf1LA (ที่นั่งจำนวนจำกัด)

หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : SIAMPARAGON และ SCBXNextTech 

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ