fbpx

Recent News: สรุปข่าวประจำวันที่ 13 เมษายน 2023

AWC เปิดตัว “เดอะ สยาม ที รูมท์ “ ที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น เสริมทัพจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เปิดตัว “เดอะ สยาม ที รูมท์” ห้องอาหารไทยตำรับดั้งเดิมด้วยเอกลักษณ์พิเศษ ที่โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น โดยมีโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เป็นผู้รังสรรค์เมนูสุดพิเศษ เสริมความแข็งแกร่งให้   เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สู่แลนด์มาร์คริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่รวมที่สุดของทุกประสบการณ์ การท่องเที่ยว และเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุดในประเทศไทย พร้อมร่วมส่งเสริมประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารระดับโลก

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “การเปิดตัว Disney100 Village at Asiatique เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของดิสนีย์ พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษภายใต้แนวคิด “ALL DAY EVERYDAY HAPPINESS” โดยมีหนึ่งแนวคิดหลักของการสร้างสรรค์ประสบการณ์ ‘LARGEST FOOD AND BEVERAGE SELECTION’ แหล่งรวมสุดยอดร้านอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกตามแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุดในกรุงเทพฯ ทาง AWC เดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์แหล่งรวมร้านอาหารสุดพิเศษ ด้วยการเปิดตัว “เดอะ สยาม ที รูมท์” ห้องอาหารไทยตำรับดั้งเดิมด้วยเอกลักษณ์พิเศษ โดดเด่นด้วยการสรรหาวัตถุดิบท้องถิ่นชั้นดีจากทั่วทุกภูมิภาคของไทยมารังสรรค์เมนูตามต้นตำรับไทยอย่างพิถีพิถัน แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่งดงาม พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกๆ คนในทุกๆ วัน ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น

การเปิดตัวห้องอาหาร “เดอะ สยาม ที รูมท์” นี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวประเทศไทยบนเวทีโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเชิงวัฒนธรรมทางด้านอาหาร โดย AWC เชื่อมั่นว่า “เดอะ สยาม ที รูมท์” จะเป็นจุดหมายปลายทางให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกที่ชื่นชอบในศิลปะเอกลักษณ์ของอาหารไทย พร้อมเติมเต็มทุกประสบการณ์การท่องเที่ยวริมน้ำ สอดรับกลยุทธ์ของ AWC ในการส่งมอบ LIFESTYLE EXPERIENCE เชื่อมต่อการท่องเที่ยว การบริการ และการเดินทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา สายน้ำอันทรงคุณค่าของประเทศ”

วอลล์ ส่งมอบรอยยิ้มให้ฮีโร่ในหน้าร้อน ฉลองวันแห่งความสุขสากล

วอลล์ แบรนด์ไอศกรีมอันดับ 1 ที่อยู่คู่คนไทยมาตลอด 30 ปี มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนไทยเสมอมา โดยหน้าร้อนปีนี้ วอลล์ได้กลับมาส่งมอบรอยยิ้มให้คนไทยอีกครั้งกับกิจกรรมแจกไอศกรีมฟรีให้กับฮีโร่ในหน้าร้อน จำนวน 5,000 แท่ง เพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งความสุขสากล (International Day of Happiness) โดยเฉพาะกลุ่มที่คอยช่วยดูแลความสะอาดเรียบร้อยให้กับกรุงเทพมหานครเพื่อความสะอาดและปลอดภัย ซึ่งต้องทำงานกลางแจ้งท่ามกลางอากาศอบอ้าวและร้อนจัดในทุกๆ วัน

ซึ่งกิจกรรมส่งความสุขของวอลล์ในปีนี้ ส่งมอบความสุขผ่านทางศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เกียรติมารับมอบ และกิจกรรมดังกล่าวยังจัดขึ้นที่สำนักงานเขตพระนคร พร้อมตั้งตู้ไอศกรีมอีก 3 จุดที่สำนักงานเขตคลองเตย สำนักงานเขตราชเทวี และสำนักงานเขตจตุจักร เป็นเวลา 1 สัปดาห์

นางสาวณิชาพัชร วลัยพัชรา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจไอศกรีมวอลล์ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 30 ปี ที่วอลล์อยู่คู่คนไทย วอลล์มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนไทยเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่วิกฤตการณ์โควิด19 วอลล์ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับความสุขในประเทศที่ลดลง จึงมีความตั้งใจที่จะเพิ่มความหลากหลายของกิจกรรมเพื่อคืนรอยยิ้มให้กับคนไทย รวมถึงการแจกไอศกรีมให้กับผู้ด้อยโอกาส เด็กกำพร้า คนชรา และอื่นๆอีกมากมาย โดยปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนมากกว่าทุกปี ทางวอลล์จึงอยากส่งมอบความสุขให้แก่เหล่าฮีโร่ในหน้าร้อน และหวังว่าความสุขเล็กๆที่เราสร้างให้กับพวกเขาจะเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป เนื่องจากในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ที่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาสำหรับพนักงานกลุ่มนี้

ทางวอลล์ไม่หยุดแค่การส่งมอบความสุขให้กับฮีโร่หน้าร้อน แต่ยังนำแคมเปญ “วอลล์ศุกร์ส่งยิ้ม” กลับมาอีกครั้ง ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่คนไทยทั่วประเทศผ่านโปรโมชั่นต้อนรับหน้าร้อน ซื้อไอศกรีม 1 แถม 1 ในวันศุกร์ที่ 14/ 21/ 28  เมษายน และ 5 พฤษภาคม 2566 ผ่านช่องทางสามล้อวอลล์ โดยพี่ติมวอลล์เป็นตัวแทนในการส่งรอยยิ้มตลอดทั้ง 4 ศุกร์ผ่านไอศกรีมที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ส่งตรงถึงหน้าบ้านด้วยรถสีแดงคู่ใจ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทวีคูณความสุขให้แก่คนไทยทั่วประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สื่อ ณ จุดขายทั่วประเทศ”

กระทรวงพลังงานผนึกกำลัง สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST),CCPIT และ CAS-ICCB จัดงาน “2023 Green Technology Expo” เดินหน้ากำหนดแผนลดการปล่อย GHG พร้อมหนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และส่งมอบโลกให้คนรุ่นใหม่

กระทรวงพลังงาน, สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST), Council for the Promotion of International Trade Shanghai (CCPIT) และ Chinese Academy of Sciences, Innovation Cooperation Center Bangkok (CAS-ICCB) ในฐานะเจ้าภาพ ร่วมกันประกาศจัดงาน “2023 Green Technology Expo” ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) โดยงาน 2023 Green Technology Expo สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติด้าน Bio-Circular-Green Economy (BCG Economy) และยุทธศาสตร์ชาติและความคิดริเริ่ม “Belt and Road Initiative” ของจีนเพื่อการสร้างคำนิยามที่ว่า “จีนและไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน” หวังว่าการปฏิบัติจริงในรูปแบบหลายมิติ เช่น นิทรรศการ การแลกเปลี่ยน และการสร้างปฏิสัมพันธ์จะส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และดำเนินการตามวาระปี 2030 ของสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และสนับสนุนประเทศไทยในการพัฒนาศูนย์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียวหลัก ส่งมอบโลกที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นใหม่

งาน 2023 Green Technology Expo ใช้เทคโนโลยีสีเขียวเป็นแกนหลัก เพื่อมุ่งเน้นไปที่การปล่อยคาร์บอนสูงสุดของโลก และวิสัยทัศน์ในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน การปฏิบัติตามนโยบายของสหประชาชาติและข้อกำหนดชี้นำของประชาคมระหว่างประเทศในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดแสดงและการแบ่งปันเทคโนโลยีสีเขียวจะตอบโจทย์ความท้าทายที่มนุษย์และทุกชีวิตต้องเผชิญเพื่อ

ตอบสนองต่อปัญหาหลักของภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ส่งเสริมการพัฒนาองค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้งานดังกล่าวยังจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความสำคัญต่อโลกในอนาคต ภายใต้แนวคิด “Towards the Transition to Newer, Cleaner, Sustained ever Green Technology” โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ EV Mobility, Storage & Charger & Component, Green Energy และ Green Tech & Green Product การจัดการน้ำ มลพิษทางอากาศ การจัดการของเสีย เป็นต้น ซึ่งนอกจากการจัดแสดงเทคโนโลยีภายในงานแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การบริการให้คําปรึกษาด้าน Green Energy ทั้งในระดับอุตสาหกรรมและครัวเรือน การเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับ Green Technology นโยบายและการส่งเสริมจากภาครัฐ รวมถึงการเจรจาธุรกิจและความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยี โดยงานกำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 9 – 12 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) Hall 98-99

และในงานแถลงข่าวการจัดงานยัง ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สมาคมวิทยาศาสตร์ฯ และ Council for the Promotion of International Trade Shanghai (CCPIT) และ TusPark WHA เพื่อสนับสนุนและวางรากฐานที่มั่นคงในการจัดงานโดยจัดหาเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการจีนเพื่อนำมาจัดแสดงในงาน 

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ