fbpx

สู่โลก ‘นิยายสายวาย’ กับ Kate Yi Fang

ถ้าใครติดตามโลกของนิยายออนไลน์ในรอบ2-3ปีที่ผ่านมา เชื่อว่า คงจะได้เห็นปรากฏการณ์หนึ่งที่มาแรงเกินคาดและได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างแพร่หลาย นั่นคือ ‘นิยายสายวาย’ หรือ “ชายรักชาย”  (Yaoi)  โดยเฉพาะแนวฟิคชั่น หรือ ฟิค (FIC, FANFIC, Fan Fiction ) ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน หรือเหล่าแฟนคลับนักจิ้น โดยอ้างอิงมาจากตัวละครหรือไม่ก็นักแสดงในหนังสือ ซีรี่ย์ ภาพยนตร์  ที่ตัวเองชื่นชอบ

หลายต่อหลายเรื่องของนิยายสายวายทั้งที่เป็นแนวฟิค หรือแต่งขึ้นใหม่ก็ตาม ซึ่งมีให้อ่านบนโลกออนไลน์ในบ้านเรา ส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการอันบรรเจิดและต่อยอดมาจากซีรี่ย์หรือนิยายกำลังภายในแดนมังกรที่โด่งดังหลายต่อหลายเรื่อง โดยจับคู่เหล่าพระเอก-นายเอกหน้าอรชร  มา ‘จิ้น’ ด้วยภาษาที่สวยงาม และฉาก ‘มหัศจรรย์’ ที่ชวนให้หัวใจสูบฉีดอย่างไม่อาจห้ามได้ และเมื่อได้หลงเข้าไปอ่านหากถูกจริตกับภาษาหรือลีลาการเขียนของผู้แต่งแล้วละก็เรียกได้ว่า …หาทางออกกันไม่เจอเลยทีเดียว 

แน่นอน การแพร่หลายของนิยายสายวาย ส่วนหนึ่งเกิดจากความปรารถนาของแฟนคลับที่อยากเห็นนักแสดงนายเอก-พระเอก หรือตัวแสดงที่ตนชื่นชอบได้มีบท ‘ร่วมกัน’ ซึ่งการดำรงอยู่ของนิยายสายวายนั้น ไม่ใช่ของใหม่ หากแต่ทุกวันนี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสาร รวมถึงความทุ่มเทของ ‘นักเขียน’ ที่ลงทั้งแรงและใจ ทลายกำแพงทางภาษาให้สัมผัสโลกแห่งนิยายวายได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้นด้วย  

และหนึ่งในนักเขียน ที่เรียกได้ว่า ก้าวเข้าสู่โลกสายวายได้อย่าง ถูกที่ ถูกเวลา เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาววายได้ภายในพริบตาตั้งแต่เธอเดินเข้าสู่เส้นทางสายนักเขียน  ภายใต้นามปากกา‘Kate Yi Fang’

Kate Yi Fang’ หรือ ‘พี่เคท’ ที่เธอให้เรียกขานแทนตัวเองตลอดการสนทนา กับ GM Live ครั้งนี้ บอกได้เลยว่า ทั้งสนุกสนาน สรรค์สร้างความรู้ และยังเป็นการสร้างกำลังใจให้กับเหล่านักเขียนมือใหม่ที่กล้าๆ กลัวๆ จะลงสู่โลกงานเขียน ในขณะเดียวกันก็เปิดด้านลับของสาวๆ ที่เหนียมอายได้อย่างแนบเนียน มารู้ตัวอีกที่กลายเป็นสาววายไปซะแล้ว

มาร่วมเสพหลากหลายแง่มุม รวมถึงที่มาที่ไป แรงบันดาลใจ ความเคลื่อนไหวในแวดวงนิยายวาย และมุมมองที่พี่เคทมีต่อโลกของนิยายสายวาย ซึ่งน่าจะช่วยให้เกิดความเข้าใจกับปรากฏการณ์มาแรงแซงทุกโค้งนี้ได้ดียิ่งขึ้น

ออกตัวก่อนนะครับว่า แม้บทสัมภาษณ์ที่นำเสนอ จะไม่มีฉาก NC ให้ชวนจิกหมอนจิกที่นอนกัน แต่ก็มากพอที่จะสร้างรอยยิ้มและคุ้มค่าที่จะอ่าน เพราะจะทำให้เข้าใจและรู้จักเธอ..นักเขียนนิยายสายวายคนนี้ ผู้เสริมแต่งรจนาภาษาอันสวยงาม โดยเฉพาะ ฉาก NC (เอ็นซี = NC-17 No Children Under 17มาตรฐานการจัดเรท)  ที่เธอบอกว่าชอบเขียนฉากนี้ที่สุด

เมื่อหัวใจใฝ่หาอักษร จึงขอถอนตัวจากโลกแห่งธุรกิจ

ด้วยถ้อยคำสำเนียงที่ร้อยเรียงกันมาในนวนิยายสายวายอันหลากหลายบนเพจ ‘Kate Yi Fang’ ของพี่เคทผู้สงวนหน้าแต่ไม่สงวนลีลาการเขียน ซึ่งเริ่มการสนทนาอย่างออกรส และอดจะถามไถ่ไม่ได้ ว่าฝีมือระดับนี้ ต้องเป็นคนที่อยู่ในแวดวงของบรรณพิภพมาเนิ่นนาน แก่กล้าในพรรษา รจนาได้ราวกับสั่งได้ แต่ผิดคาด เพราะคำตอบที่ออกมา กลับตรงกันข้าม

‘จริงๆ เคยสอบเอนทรานซ์ และอยากเข้าคณะการแสดงนะ ก็เลือกไป แต่เรามาสายวิทย์-คณิต ไง ก็อย่างที่รู้ๆ กัน ไม่ติด ก็ไปเรียนคณะอื่น’ พี่เคทกล่าวถึงช่วงเวลาแรกเริ่ม ‘แต่ใจก็ยังใฝ่ในทางนั้นอยู่ พอช่วงที่ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ได้ทำหน้าที่ดูแลประสานระหว่างประเทศ ก็มีโอากาสได้เขียนรายงาน เอกสาร และหนังสือทางการต่างๆ มาพอสมควร จะเรียกว่าเป็นการฝึกการเขียนก็อาจจะได้นะ แต่ก็ไม่เชิงเสียทีเดียว’

แล้วอะไรคือจุดที่ทำให้ตัดสินใจมาจับงานเขียนนิยายสายวายเต็มตัว ซึ่งคำตอบนั้น ก็แสนจะเรียบง่าย เพราะพี่เคท มีความสนใจ และเริ่ม ‘ลงมือทำ’ เป็นงานอดิเรกระหว่างที่ทำงานหลักอยู่ก่อนแล้ว

‘ช่วงที่ซีรี่ย์ปรมาจารย์ลัทธิมารดังและเป็นที่นิยม  ตัวเองก็ติดซีรี่ย์เรื่องนี้ซึ่งตอนนั้นยังทำงานประจำอยู่ แต่ก็ใช้เวลาว่างเริ่มแปลและแบ่งกันอ่านในกลุ่ม’ พี่เคทเล่าถึงช่วงเวลานั้น

‘แต่พอมาจุดหนึ่ง เราเริ่มสนุกกับการแปล การเขียน ก็เริ่มลงมือจริงจัง ตอนนั้นรู้สึกนะว่าอยากลองดูสักตั้ง เพราะงานหลักที่ผ่านมาก็เต็มที่ไปแล้ว  ชีวิตผ่านจุดที่พีค จุดที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาแล้ว แต่เรื่องเขียนนิยายนีี่ยังไม่เคยทำ และเป็นสิ่งที่ลึกๆ อยากจะทำ เพราะเป็นสิ่งที่รัก ที่ชอบ ก็คิดว่า เอาน่ะ ชีวิตนี้มีครั้งเดียว ลองดูสักตั้ง จะเป็นอะไรไป’

และจากงานอดิเรก ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ และกลายเป็น ‘งานประจำ’ กับการอัพเดทเพจ           ‘Kate Yi Fang’ ที่บอกต่อข่าวสาร และลงเนื้อหานิยายวายเป็นประจำ ซึ่งทาง GM Live ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า สำหรับพี่เคท ซึ่งได้ชื่อว่า  ‘หน้าใหม่’ ของวงการนิยายสายวายจะมีทางเป็นไปได้หรือไม่?…

‘จริงๆ แล้ว เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดใจนะคะ เพราะจากที่ได้ยินมา พบว่านิยายสายวาย มีกลุ่มคนเขียนที่เป็นผู้หญิง หลากอายุมากๆ มีตั้งแต่คนเรียนจบแพทย์แล้วมาเขียนทันที หรือแม้แต่เด็กวัยเรียน ที่เขียนผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็แปลกใจว่าเขาจะเลือกคลังคำศัพท์เพื่อใช้สำหรับงานเขียนอย่างไร แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็น เพราะทางเลือกในการเผยแพร่งานมีหลากหลายกว่าสมัยก่อน อย่างเว็บไซต์จอยลดา หรือธัญวลัย ตรงนี้น่าจะมีส่วนทำให้นักเขียนหน้าใหม่เกิดมากขึ้นด้วย’

‘วาย’ ในหลายรสที่แตกต่างกัน

สำหรับคนภายนอกที่มองเข้ามา อาจรู้สึกว่า นิยายวายนั้น ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน ประเทศใด ก็ไม่แตกต่างกัน เป็นเรื่องราวของหนุ่มหน้าหล่อ มีความสัมพันธ์ทั้งใจและกาย เป็นเรื่องราวและบทอัศจรรย์แบบ ‘ชายรักชาย’ ที่ถ้าให้สืบค้นต้นทาง ก็จะพบว่ามาจากประเทศที่เปิดกว้างในด้านคอนเทนต์สายจิ้นอย่างประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะกระจายไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ

แต่ในจุดนี้ พี่เคท ผู้ที่คลุกคลีกับแวดวงนิยายสายวาย ทั้งในฐานะนักอ่าน และนักเขียน บอกกับทาง GM Liveว่ามันมีความต่างกัน และนำเสนอในรสชาติที่ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง

‘ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อน แม้ว่าจะเป็นนิยายสายวายเหมือนกัน แต่….ในแต่ละประเทศ การนำเสนอก็จะแตกต่างกัน’ พี่เคทเสริมในหัวข้อนี้ ‘ถ้าเป็นนิยายสายวายของญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ จะค่อนข้างถึงเนื้อถึงหนัง และมีบทอัศจรรย์หรือ NCที่รุนแรง ชนิดที่ไม่ต้องอารัมภบทอะไรให้มาก ก็เข้าฉากอย่างนั้นเลย จากที่ได้เคยอ่านผ่านมา’

แน่นอน ทีมงานGM Live ถามพี่เคทว่า แล้วนิยายสายวายของจีนแผ่นดินใหญ่ที่กำลังมาแรงในช่วงรอบปีที่ผ่านมาเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ซึ่งตำตอบของพี่เคท คือ แตกต่างกันมาก

‘นิยายสายวายของจีนจะแตกต่างออกไปค่ะ จะไม่ได้รุนแรงในฉากอัศจรรย์ ไม่ได้โหมกระหน่ำแบบเข้าถึงเนื้อถึงหนังอะไรแบบนั้น แต่จะใช้คำรจนาอารมณ์ ความรู้สึก และมีความสวยงามในฉากบรรยาย แต่ไม่ได้หมายความว่าของประเทศอื่นจะไม่ดีนะ เพียงแต่เป็นรสชาติที่แตกต่างกันออกไป’

นิยายสายวายของประเทศจีนเอง ก็ยังมีการแบ่งประเภทย่อยหรือ Sub-Genre ลงไปอีก เป็นสไตล์ที่แตกแขนงไปอีกขั้น ซึ่งพี่เคทได้ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจน

“นิยายวายจากจีนที่โปรดปราน เป็นผลงานของคุณมีทบัน เรื่อง ฮัสกี้ ค่ะ (ฮัสกี้หน้าโง่กับอาจารย์เหมียวขาวของเขา) เนื้อเรื่องมีถึงสามร้อยกว่าตอน และแต่ละตอนแปลยากมาก เพราะใช้คำบรรยายได้วิจิตรจริงๆ อันนี้ต้องชมเป็นการส่วนตัวเลย และอีกเรื่องคือ ฆ่าหมาป่า ซึ่งเป็นผลงานของพีต้า (ผู้แต่งเรื่อง นักรบพเนจร)  สำหรับเรื่องนี้   พีต้าเขียนเนื้อเรื่องได้ละเอียดมาก สอดแทรกเกร็ดประวัติศาสตร์จีน เป็นเรื่องราวความรักระหว่างรบ มีการสืบสวน มีการชิงบัลลังก์ และใช้ภาษาสวยมาก ทำให้เรื่องที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อ กลับสนุกและน่าติดตาม แม้ส่วนตัวจะไม่ได้เป็นแฟนนิยายแนวคุณพีต้า แต่ยอมรับว่าผลงานของพีต้าคุ้มค่าที่จะอ่านจริง ๆ”

มาถึงจุดนี้ อดที่จะถามพี่เคทไม่ได้ว่าความเป็น ‘วาย’ ที่แท้จริง นิยามที่จะให้เกิดความเป็น ‘วาย’ คืออะไร

สำหรับพี่เคท ถ้าให้นิยามความเป็น วาย ในมุมของแฟนฟิคชั่น ที่สั้น ๆ ง่าย ๆ ก็คือ การที่แฟนๆ ชื่นชอบตัวละครเอกคู่หนึ่ง ที่เป็นเพศเดียวกัน แล้วเกิดการจินตนาการอยากจะให้ได้กัน มาลงเอยกัน ทั้งกายและใจ โดยมีประวัติที่คนเคยเอามาพูดถึงว่าเป็นต้นแบบของ วายฉบับแฟนฟิคชั่นเลย นั่นก็คือ ซีรีส์ Star Trek ซึ่งเป็นไซไฟฝั่งตะวันตก มีการจับคู่กัปตันเคิร์กและผู้ช่วยสป็อค หรือแม้แต่ละครจีนยุคเก่าอย่างกระบี่ไร้เทียมทาน ก็มีการจิ้นกันว่าพระเอกกับเพื่อนพระเอกน่าจะได้กัน เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว นั่นล่ะค่ะ นิยามความเป็นวาย

อะไรที่ทำให้ความเป็นนิยายวายของจีนได้รับความนิยมอย่างสูง นี่เป็นอีกคำถามที่เราสงสัย

‘ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักแสดงที่รับบทในซีรีส์นั้นๆ มีส่วนอย่างมากนะ เช่น นักแสดงจากเรื่องปรมาจารย์ลัทธิมาร เซียวจ้าน หวังอี้ป๋อ  หรือจากนักแสดงในเรื่อง ฮัสกี้ คือ หลัวอวิ๋นซี และเฉินเฟยอวี่ ผู้รับบทในซีรีส์วายมักต้องเป็นนักแสดงหน้าตาหล่อคมคาย รูปร่างเพรียวแต่สมส่วน ให้ความรู้สึกที่เป็น เฟมินีนหรือความเป็นทั้งหญิงและชายได้ไปพร้อมกัน เพราะเวลาคนเขียนฉากบรรยายบทอัศจรรย์ หรือบทNCก็จะทำให้รู้สึกชวนวาบหวามหัวใจได้มาก แต่ทั้งนี้ ก็ต้องไม่ลืมว่า ส่วนประกอบอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนิยายสายวาย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของบทอัศจรรย์ แต่เป็นการจินตนาการถึงความเป็นไปได้ ว่าถ้าตัวละครที่เราชื่นชอบได้มาลงเอยกัน จะเป็นอย่างไร’

เอา ‘หัวใจ’ ใส่ตัวละคร

หลายครั้งที่นิยายสายวายหรือชายรักชาย อาจถูกมองว่าเป็นการสนองความอยากของผู้เขียนที่ต้องการ จิ้น ตัวละครหรือนักแสดงที่ชื่นชอบได้มีบทร่วมรักกัน แต่สำหรับพี่เคท  มองว่ามันไม่ได้มีเพียงแค่การตอบสนองต่อความต้องการในทางนั้นแต่เพียงอย่างเดียว

‘ทางหนึ่งมันก็ใช่นะ เราเองก็อยากเห็นตัวละครที่ชอบได้กัน’ พี่เคทตอบพลางหัวเราะ ‘แต่เวลาที่เขียนถึงฉาก NCจะพยายามนึกถึงอารมณ์ของคนอ่าน นึกถึงความรู้สึกของเขาที่ได้รับ และใส่ ‘ตัวเรา’ ลงไปในบทบาทตัวละครนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่หวานซึ้ง ข่มเหง โศกเศร้า หรือฉาก NC เราจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครทุกครั้งที่เขียน ส่วนหนึ่งจะช่วยให้เข้าใจในสถานการณ์ของเรื่องราว และอย่างที่สองทำให้สามารถเลือกใช้คำในการเขียนบทหรือเนื้อหาในจังหวะนั้นๆ ได้ดียิ่งขึ้น’

ในจุดนี้ พี่เคทเสริมว่า การเขียนนิยายวายเอง ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการทำงานเขียนนิยายในแบบอื่นๆ ที่ต้องใช้คำเพื่อให้เกิดมโนภาพที่ชัดเจน คนอ่านจินตนาการตามไปได้ และนิยายสายวายอาจต้องผลักระดับของสิ่งเหล่านั้นไปให้สูงอีกขั้น เพราะมีเรื่องของความสวยงามทางภาษา และบทอัศจรรย์พ่วงเข้ามาด้วย

‘อย่างที่ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ ว่ามีนักเขียนรุ่นเด็กๆ ที่เริ่มเข้ามาในโลกการเขียนนิยายสายวาย และเคยสงสัยว่า จะมีคลังคำศัพท์มากพอที่จะใช้สำหรับบรรยายหรือเปล่า เรื่องนี้สำคัญทีเดียว เพราะการบรรยายให้เกิดภาพ คือปัจจัยที่ทำให้ผู้อ่านเกิดอรรถรสในการอ่านเรื่องราว และไม่กลายเป็นการเขียนเพียงเพื่อนำไปสู่ฉากอัศจรรย์แต่เพียงอย่างเดียว ฉากอัศจรรย์ไม่ใช่ปลายทาง แต่เป็นเพียงระหว่างทาง ซึ่งส่วนตัวมองว่าปลายทางจริงๆ คือทำอย่างไรให้ตัวละครสามารถบรรลุถึงความสุขสมด้วยกันทั้งสองฝ่ายได้ และคนอ่านก็พึงพอใจด้วย’

เหล่าแฟนมากหลาย ความคาดหวังมากมายต่างกันไป

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นิยายสายวายได้รับความนิยมและแพร่หลายเป็นอย่างมากในปัจจุบัน นอกเหนือจากการเข้ามาของแพลทฟอร์มการเผยแพร่และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารแล้ว บรรดา ‘แฟนๆ’ ที่ชื่นชอบในซีรีย์ก็มีส่วนอย่างยิ่ง ที่ทำให้กระแสของนิยายวายได้รับความนิยมอย่างสูง  เมื่อชอบซีรีส์ก็คงต้องมีบ้างที่อยากเห็นตัวเอกที่ชื่นชอบลงเอยได้กัน

และเมื่อมาอยู่ในจุดที่มีแฟนเพจติดจาม ย่อมต้องก็มีเรื่อง ‘แปลกๆ’ ที่พี่เคทได้พบเจอ จากสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป

‘แฟนๆ ที่ตามอ่านนิยายสายวายมีหลากหลายนะคะ’ พี่เคทกล่าว ‘มีตั้งแต่รุ่นเด็ก จนถึงคนวัยทำงาน บางคนเป็นแพทย์และพยาบาลด่านหน้า ส่งรูปในชุดปลอดเชื้อ PPE มาให้ดูก็มี บางคนก็เป็นรุ่นสูงอายุ เรียกว่าแตกต่างกันอย่างคาดไม่ถึงเลย’

เมื่อGM Liveถามว่า เหล่าแฟนๆ สร้างความประหลาดใจอะไรให้กับพี่เคทในการทำงานเขียนนิยายสายวายบ้าง พี่เคทหัวเราะก่อนจะบอกกับว่า มีมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว

‘คือ ต้องบอกก่อนว่า กลุ่มแฟนๆ นิยายสายวายเนี่ย จะแบ่งออกเป็น ‘บ้าน’ หรือ “เมน” ซึ่งหมายถึงกลุ่มแฟนคลับเฉพาะของนักแสดงคนนั้นๆ ซึ่งแต่ละคน ก็จะมีอะไรแปลกๆ มา บางคนก็ทักมาขอร้องว่า พี่เคทไม่เอานะ ไม่อยากให้คนที่เชียร์ไปได้กับคนโน้น  คนนี้  คนที่เป็นเมนหนูต้องไม่มีบทสำส่อนเรี่ยราด ในฐานะนักเขียนก็ต้องรับมือกับความต้องการที่หลากหลายกันไปนะคะ’

และในจุดนี้ ทางทีมงานก็อดสงสัยไม่ได้ ว่านิยายสายวาย ที่โด่งดังในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมีประชากรในระดับสูง และมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นฟากฝั่งตะวันตกล่ะ?

‘อาจจะดูน่าแปลกใจ แต่มีค่ะ กลุ่มแฟนจากฝั่งตะวันตกที่เป็นคนอ่านนิยายสายวาย’ พี่เคทอธิบาย ‘จะมีเว็บไซต์ชื่อ WattPad ที่ให้ผู้คนสามารถนำเรื่องราวหรือนิยายไปลงเพื่อเผยแพร่ในฝั่งตะวันตกได้  ทีนี้ มีคนนำนิยายสายวายที่แปลจากจีนเป็นภาษาอังกฤษ ไปเผยแพร่ แล้วก็มีกลุ่มแฟนคลับจากฝั่งนั้นชื่นชอบมาก ได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้เป็นวงกว้างเหมือนต้นทางอย่างที่ประเทศจีนก็ตาม’

มาคิดดูแล้ว อาจจะไม่น่าประหลาดใจ เพราะขึ้นชื่อเรื่องบทอัศจรรย์ในนิยาย ไม่ว่าจะชาติใด ภาษาไหน ก็ย่อมชื่นชอบ และยิ่งมีการรจนาภาษาที่สวยงาม มีเรื่องราวชวนติดตาม ยิ่งทำให้ได้รับความนิยมซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่อาจจะไม่ได้เป็นวงกว้าง ด้วยหนทางการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประเทศจีนซึ่งยังติด ‘กำแพงไซเบอร์’ ที่เข้มงวดของภาครัฐ

แต่ในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มแฟนคลับเอง ก็อาจทำให้เกิดสภาวะที่ ‘ไม่เป็นมิตร’ จนถึง ‘เสียหาย’ กับนักแสดงต้นทางได้เหมือนกัน

‘เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่มากที่ประเทศจีน ยกกรณีอย่างศิลปินบางคน’ พี่เคทอธิบาย ‘คือเรื่องไม่ได้มีอะไรมากมายเลย แต่มีกลุ่มแอนตี้ ที่รวมตัวกัน แล้วเขาใช้วิธีไป ‘โพสต์’ ในหน้ากระดานข่าว หรือโซเชียลมีเดียของสินค้าที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์ แล้วบอกว่า จะไม่สนับสนุนสินค้า ถ้ายังให้นักแสดงคนนี้เป็นพรีเซนเตอร์  คือบางทีลงไปร้อยกว่าโพสต์ ซึ่งอาจจะเป็นแค่คนเดียวทำแต่ทำอย่างเป็นระบบ ทีนี้ก็จะเป็นปัญหาแล้ว คือกลุ่มสินค้าต้นทางก็ไม่อยากเสี่ยง และก็ไม่รู้ว่าที่โพสต์มา เป็นโพสต์จริง หรือกระบวนการปั่น แต่ก็ยอมถอนตัวนักแสดงออกจากสินค้า ซึ่งมันเสียหายกับเจ้าตัวมาก’

พี่เคทยังเสริมว่า นอกเหนือจากนั้น ก็เป็นประเด็นวิวาทะระหว่าง ‘บ้าน’ ที่อาจเป็นสีสันได้ เช่น ทำไมแบรนด์ที่นักแสดงบ้านนั้นดังกว่าบ้านฉัน ทำไมบ้านนั้นถูกพูดถึงมากกว่า ทำไมไม่จิ้น ทำไมจิ้น มากมายสารพัน และแม้ภาครัฐของจีนจะเริ่มกวดขันและออกนโยบาย ‘ปราม’ เหล่าแฟนๆ ไม่ให้ล้ำเส้นกับชีวิตของนักแสดงมากจนเกินไป 

แต่กระแสแฟนคลับนั้นเป็นสิ่งที่ดิ้นได้ และมีสภาวะที่ไหลลื่นมากพอที่จะปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบใหม่ๆ และจะไม่ตายตราบเท่าที่นักแสดงของ ‘บ้าน’ ยังอยู่ในแสงไฟ ให้ได้ ‘จิ้น’ กันอยู่นั้นเอง

ความเป็น ‘วาย’ กับนโยบายของรัฐไทย

ในช่วงที่ผ่านมา มีกระแสข่าวหนึ่งที่ผ่านเข้ามา ว่ากระทรวงวัฒนธรรม มีดำริที่จะผลักดันให้ ‘นิยายสายวาย’ และ ‘เนื้อหาสายวาย’ เป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมของประเทศ ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่น่าแปลกใจนัก เพราะซีรีย์วายของไทยอย่าง Love Sick The Series หรือ SOTUS the Series นั้น นอกจากจะได้รับความนิยมในประเทศแล้ว ยังได้ใจบรรดา ‘แม่ๆ’ ของประเทศจีนจนถึงขั้นตั้ง ‘บ้าน’ กันเป็นเรื่องเป็นราว

GM Live จึงอดไม่ได้ที่จะถามความเห็นของพี่เคท เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว…

‘เรื่องที่จะทำเนื้อหาสายวายของไทยไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ’ พี่เคทกล่าว ‘แต่ก่อนที่จะเริ่มสร้าง ต้องทำการบ้านกันก่อน ว่ากลุ่มตลาดที่เสพเนื้อหาสายวายในประเทศไทย เขาเลือกเสพเพราะอะไร อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาเลือกอ่านงานสายวายจากจีน อะไรที่ทำให้ซีรีย์ที่สร้างโดยคนไทยมันโดนใจ’

“ในแง่ของวัฒนธรรมโดยรวม เราพร้อมที่จะเปิดรับกับเนื้อหานี้ในวงกว้างแล้วหรือยัง ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มคนอ่านนิยายสายวาย แต่เป็นสังคมทั้งหมด”

‘ตรงนี้สำคัญมาก อย่างงานสายวายของไต้หวัน จะมีความเปิดกว้างกับ LGBTQ+ ในเนื้อหาค่อนข้างสูง คืออาจจะเปิดเรื่องมาด้วยครอบครัวมีปัญหาในการทำความเข้าใจ ก่อนจะค่อยๆ ปรับไปสู่การยอมรับ ซึ่งคือตัวสะท้อนแนวคิดของเขา หรือของจีนที่อาจจะไม่ได้ถึงกับยอมรับ แต่ก็มีกลุ่มฐานแฟนคลับที่ใหญ่พอ’ พี่เคทกล่าวเสริม

‘ทีนี้กลับมาดูที่ประเทศไทย เรายอมรับกับแนวคิดนี้มากแค่ไหน เรามองเรื่องชายรักชายด้วยสายตาอย่างไร มองกลุ่มคน LGBTQ+ ในฐานะอะไร คือถ้ายังยึดกับกรอบเดิมๆ ว่า เรื่องรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องต้องห้าม กลุ่ม LGBTQ+ เป็นได้แค่เพียงตัวตลกในรายการโทรทัศน์ อย่างนั้นผลักดันนิยายสายวายไปมันก็เปล่าประโยชน์ มันจะว่างเปล่ามากๆ และกลุ่มคนเสพเนื้อหาในประเทศจะไม่ ‘ซื้อ’ งาน อย่าหวังถึงต่างประเทศเลย’

แต่ก็ใช่ว่าจะหมดหวังไปเสียทีเดียว เพราะพี่เคทมองว่า ความนิยมในนิยายสายวาย แม้จะไม่ใช่โลกของ LGBTQ+ ทั้งหมด แต่ก็เป็นประตูบานแรกที่เปิดไปสู่การทำความเข้าใจที่มากขึ้น

‘ไม่เสียเปล่าไปทั้งหมดนะคะ ต้องมองว่า นี่เป็นก้าวแรก ในการทำความเข้าใจกลุ่มคนหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQ+ อาจจะไม่ได้แม่นยำไปเสียทั้งหมด แต่ก็มากพอที่จะทำให้คนเริ่มเปิดใจ และเชื่อว่าจะเป็นตัวนำพาไปสู่ความเข้าใจที่มากขึ้นได้’

จรดหน้าสุดท้าย กับความคาดหมายของ Kate Yi Fang

GM Liveใช้เวลาพูดคุยกับพี่เคท หรือ ‘Kate Yi Fang’ มาเป็นเวลาพอสมควร ได้รับรู้เรื่องราว ชีวิต มุมมอง และโลกของนิยายชายรักชาย หรือ นวนิยายสายวาย กันมาพอสมควร แต่ถ้าในฐานะ ‘นักเขียน’ แล้ว พี่เคทมีความคาดหวังกับอนาคตในเส้นทางนี้อย่างไร? นี่เป็นสิ่งที่กองบรรณาธิการอดสงสัยไปไม่ได้

‘รู้ตัวนะว่าไม่ได้เป็นคนที่เขียนเก่งอะไร’ พี่เคทเอ่ยต่อคำถามนั้น  ‘คือโตมากับสายงานที่ไม่ใช่การเขียน แต่ทุกวันนี้ ถามว่าพอใจกับสิ่งที่ทำไหม  ก็เรียกว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจค่ะ เป็นความสนุกของเรา สนุกที่ได้เขียน สนุกที่ได้อ่าน สนุกที่ได้เอาตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของตัวละคร และที่สำคัญ รู้สึกดี ที่มีส่วนทำให้หลายคน ‘ได้กลับมาอ่าน’ อีกครั้ง บางคนส่งข้อความมาบอกว่า ขอบคุณที่ทำให้กลับมาอ่านหนังสืออย่างจริงจังอีกครั้ง ให้รู้สึกสนุกกับการอ่านได้อีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่ภูมิใจนะ เป็นจุดเล็กๆ ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า ที่ทำไป ไม่ได้สูญเปล่าเสียทีเดียว’

ก่อนจากกัน นึกขึ้นได้ว่า นักเขียนและนักแปลสายวายมีหลายประเภท มีหลากความถนัด GM Liveจึงยิงคำถามสุดท้ายที่สำคัญมากๆ คือ … พี่เคทเป็นนักเขียนสายวายแนวไหน?

เอาไงดีล่ะ จะบอกว่าสายหื่นได้มั้ย ชอบฉากอัศจรรย์ ฉากNC ’ พี่เคทตอบพลางหัวเราะ ‘เอาจริงๆ น่าจะสายดราม่าค่ะ ชอบบรรยายฉาก ชอบการรจนาให้เห็นภาพ น่าจะเป็นสายนี้แหละ น่าจะนะ’

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ